ยาราเปิดตัวแคมเปญ “115 ปี ปุ๋ยยารา เคียงข้างเกษตรกรนักสู้ ส่งเสริม ฟื้นฟูภาคเกษตร และยืนหยัดเคียงข้างเกษตรกรไทย

ยารา (ประเทศไทย) ผู้นำระดับโลกในการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยธาตุอาหารคุณภาพสูงจากประเทศนอร์เวย์ฉลองครบรอบ 115 ปีในการดำเนินธุรกิจตอกย้ำพันธกิจการสนับสนุนและฟื้นฟู ภาคเกษตรกรรมและอาหารของประชากรโลกด้วยแคมเปญ “115 ปี ปุ๋ยยารา เคียงข้างเกษตรกรนักสู้”ยกระดับความมุ่งมั่น ทุ่มเทในการส่งเสริม ดูแลเกษตรกรไทย ควบคู่ไปกับการสนับสนุนคู่ค้าตัวแทนจำหน่ายให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืนพร้อมยืนหยัดดูแลพนักงานให้เดินหน้าไปด้วยกันเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งภายใต้สถานการณ์อันยากลำบากและความท้าทายอันหนักหน่วงของวิกฤติโควิด-19

มิสเตอร์ เมดิ เซนท์-อังเดร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยารา (ประเทศไทย) จำกัด และรองประธานกลุ่มธุรกิจประเทศไทย และประเทศพม่ากล่าวว่า “ในโอกาสที่ยาราเดินทางมาสู่ปีที่ 115 กับภารกิจของการเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนอาหารให้กับประชากรโลก ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ตลอดจนสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันรุนแรงที่คุกคามโลกอยู่ขณะนี้ ทำให้เรายิ่งตระหนักถึงความสำคัญของการเกษตรในฐานะภาคการผลิตอาหารให้ประชาคมโลกเราจึงอยากใช้โอกาสนี้ในการยกย่องคุณูปการอันยิ่งใหญ่ของเกษตรกรซึ่งเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนโลก ด้วยการสานต่อและยกระดับความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการเกษตรให้ลุกขึ้นและเดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยองค์ความรู้ที่สั่งสมมายาวนาน และโซลูชั่นด้านการเกษตร ซึ่งเป็นความโดดเด่นเฉพาะตัวของยารามายาวนานขณะเดียวกัน ก็อาศัยพื้นฐานอันแข็งแกร่งทางธุรกิจในการช่วยเหลือพันธมิตรทางธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายให้อยู่รอดได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับการให้คำมั่นสัญญาที่ดูแลความมั่นคงในการจ้างงานสำหรับพนักงานของบริษัททุกคนทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก”

เส้นทางสู่ความเป็นผู้นำระดับโลกด้านโภชนาการพืชของยาราในวันนี้ เกิดจากการมุ่งสร้างคุณค่าที่สั่งสมมายาวนานกว่าศตวรรษ ซึ่งมีต้นกำเนิดจากการค้นพบหนึ่งในนวัตกรรมที่สำคัญที่สุดของโลกในการสกัดธาตุไนโตรเจนจากอากาศมาผลิตเป็นปุ๋ยธาตุอาหารไนโตรเจน มุ่งมั่นพัฒนาองค์ความรู้ด้านธาตุอาหารพืชและการเกษตรอย่างไม่หยุดยั้งภายใต้แนวคิด “ความรู้ปลูกแรงบันดาลใจ” (Knowledge Grows)และหลักการดำเนินธุรกิจที่ยึดถือเกษตรกรเป็นหลัก (Farmer Centric) โดยศึกษาและทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของเกษตรกรอย่างลึกซึ้ง ซึ่งสำหรับเกษตรกรแล้ว ยารามิได้เป็นเพียงผู้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ปุ๋ยและธาตุอาหารพืชคุณภาพพรีเมี่ยมเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้แบ่งปัน ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้วยโปรแกรมธาตุอาหารพืชที่มีคุณภาพตามความต้องการเฉพาะที่แตกต่างกัน พร้อมขยายอาณาจักรธุรกิจสู่ประเทศต่าง ๆ กว่า 60 ประเทศ ใน 6 ทวีป โรงงานกว่า 25 แห่ง เอกลักษณ์โดดเด่นของยาราได้รับการพิสูจน์และยอมรับทั่วโลก ในฐานะบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรองจากสมาคมอุตสาหกรรมปุ๋ยระหว่างประเทศ (International Fertilizer Industry Association: IFA) และได้รับการยกย่องให้เป็น “1 ใน 10 บริษัทเปลี่ยนโลก” ประจำปี 2561 โดยนิตยสารฟอร์จูนเป็นต้น

“ยาราอยู่เคียงคู่ภาคการเกษตรไทยมาเกือบ 50 ปีแล้วซึ่งได้เริ่มจำหน่ายปุ๋ยยาราในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516นอกจากนี้ เรายังมีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสังคมไทยมาตั้งแต่พ.ศ. 2450 โดยโรงงานปุ๋ยยาราในเมืองโนทอดเดน ประเทศนอร์เวย์ได้มีโอกาสถวายการต้อนรับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในโอกาสที่ทรงเสด็จเยี่ยมชมโรงงาน และได้ทรงสั่งซื้อปุ๋ยสูตรยาราลีว่า จำนวน 1 ตัน เพื่อทรงนำมาทดลองใช้ในเมืองไทยโดยปุ๋ยสูตรดังกล่าวยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกมาจนทุกวันนี้”

“ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพด้านเกษตรและปุ๋ยสูงเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับยารามายาวนาน ประเทศไทยติดอันดับยอดขายสูงสุด 1 ใน 5ในระดับโลก  ส่วนในภาคพื้นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรามียอดขายเป็นอันดับ 1 โดยในปีนี้ ยารา ยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับ 5 กลุ่มพืชเศรษฐกิจหลักที่ยาราถือเป็นผู้ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ของไทยมาอย่างต่อเนื่องได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน ลำไย และผักใบ และเช่นเดียวกับทุกปี เรายังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมลงพื้นที่ตลอดทั้งปี อาทิ งานประชุมเกษตรกร คลินิกพืช แปลงสาธิต ฟิลด์เดย์ พร้อมจัดทีมนักวิชาการเฉพาะทางพืชออกเยี่ยมเยียนเกษตรกรขณะเดียวกัน ยังมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยจะเริ่มขยายตลาดสู่กลุ่มข้าวโพดไร่ ซึ่งเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ด้วย“ผลิตภัณฑ์ยารามีร่า 23-8-8”ซึ่งเป็นปุ๋ยคอมปาวน์คุณภาพพรีเมี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ ที่นอกจากใช้กับข้าวโพดไร่แล้ว จะเหมาะสำหรับอ้อย อีกด้วย นอกจากนี้ ยารายังมีผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกข้าว ได้แก่“ยาราวีต้า ข้าว” ซึ่งเป็นธาตุอาหารรองและเสริมชนิดฉีดพ่นทางใบที่มีความเข้มข้นพิเศษและมีความแตกต่างเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ 2 อิน 1 หนึ่งเดียวในตลาดที่ผสมทั้งธาตุอาหารและสารเปียกใบในขวดเดียว รวมทั้งในปีนี้ ยารายังมีแผนแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ในเดือนสิงหาคมนี้อีกด้วย ได้แก่“ยาราเรก้า”ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยเม็ดสำหรับระบบน้ำที่เน้นเจาะตลาดพรีเมียมเช่น ภาคการเกษตรกรีนเฮาส์ โรงเรือนเกษตร หรือการเพาะปลูกพืชที่ให้ปุ๋ยในระบบน้ำหยดซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้ในฤดูแล้งที่เกษตรกรต้องควบคุมการให้น้ำแก่พืชอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดซึ่งนับเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างสูง  สำหรับการลงทุนใหม่ ๆ ในปีนี้ คาดว่าจะมีการใช้เงินทุนอย่างน้อย2 ล้านคอลลาร์สหรัฐ(หรือประมาณ 63 ล้านบาท)ในการขยายศักยภาพของโรงงาน และธุรกิจในประเทศไทย”

คุณปัญชลี วรรณพฤกษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและสื่อสารบริษัทยารา (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่าด้านการสื่อสารการตลาดของแบรนด์ “ยารา” ปัจจุบันเรามุ่งเน้นสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ผ่านการสื่อสารแบบ Purposeful Branding ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับทัศนคติที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์มากกว่าการขายสินค้า ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่การสร้างปรากฏการณ์การสื่อสารที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาดปุ๋ยไทยที่จะมุ่งเน้นการสื่อสารเกี่ยวกับคุณสมบัติของสินค้าเป็นหลักโดยในโอกาสครบรอบ 115 ปีของแบรนด์ และครบรอบ 48ปีในการดำเนินธุรกิจในไทยในปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ยากลำบากของเกษตรกรไทยเราจึงมุ่งให้ความสำคัญกับการสนับสนุนยืนเคียงข้างภาคเกษตรไทยให้ผ่านพ้นสถานการณ์อันท้าทายนี้ ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “115 ปี ปุ๋ยยารา เคียงข้างเกษตรกรนักสู้” ผ่านกิจกรรมพิเศษต่างๆ ตลอดทั้งปี 2563 อาทิ

  • การสื่อสารการตลาดผ่านกลยุทธ์ Music Marketing ด้วยการสร้างสรรค์เพลง และมิวสิควิดีโอ“เกษตรกรผู้ยิ่งใหญ่” ที่ขับร้องโดยศิลปินแนวเพลงสร้างกำลังใจอย่างปู-พงษ์สิทธ์ คำภีร์ และราชินีเพลงลูกทุ่งตลอดกาล สุนารี ราชสีมาทั้งสองศิลปินได้รับความนิยมในกลุ่มเกษตรกรและคนไทยมายาวนาน อีกทั้งยังมีเนื้อหาเพลงและดนตรีที่เป็นสื่อกลางในการเชิดชู และให้กำลังใจเกษตรกรไทย และยังสร้างการจดจำและความรู้สึกที่ดีเกี่ยวกับแบรนด์ โดยได้สื่อสารผ่านโฆษณาทางภาพยนตร์โฆษณาโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียงที่เป็นสื่อที่นิยมของเกษตรกรไทย สื่อนิตยสาร และช่องทางออนไลน์เพื่อเจาะสู่กลุ่มเกษตกรรุ่นใหม่ และสาธารณะชนอีกด้วย
  • กิจกรรมมอบความช่วยเหลือและบรรเทาภาระของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะผลผลิตล้นตลาดซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤติโควิด-19โดยจะมีโครงการบริจาคปุ๋ย ให้กลุ่มเกษตรกรมะม่วง ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้พร้อมมีการสร้างสรรค์ช่องทางการตลาดออนไลน์ในแคมเปญ “Safe #เกษตรกรนักสู้ ยารารับฝากสวน” ให้กับเกษตรกรผ่านเฟสบุ๊คยาราประเทศไทยอีกด้วย
  • กิจกรรมสร้าง Brand Engagement หรือความผูกพันในแบรนด์ของเกษตกร ซึ่งยาราได้เลือกจัดกิจกรรมเชิญชวนเกษตรกรประกวดร้องเพลงในสกู๊ปรายการ ร้องได้ให้ล้าน ทางช่องไทยรัฐทีวี และการแข่งขันโหวตผู้ชนะทางเฟซบุ๊ค ยารา ประเทศไทย ตลอดเดือนกรกฏาคม เพื่อสนับสนุนแคมเปญการสื่อสาร Music Marketing และสนับสนุนกิจกรรมในไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเกษตรกรอีกด้วย
  • นอกจากนี้ ยารายังได้ช่วยเหลือเกษตกรผู้ปลูกยางพารา ที่กำลังประสบปัญหาราคายางตกต่ำที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยการปรับลดราคาจำหน่ายปุ๋ย”ยารามีรา แอ็ดว้านซ์ 21-7-14”ที่เป็นปุ๋ยคุณภาพอันดับ 1 ที่เกษตรกรผู้ปลูกยางพารานิยมใช้ เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของเกษตรกรยางพาราที่เผชิญวิกฤตราคาผลผลิตตกต่ำอีกด้วย

ทิศทางอนาคตในตลาดไทยภายใต้ความท้าทายอันเหนือความคาดหมายของปี 2563 นี้ ยารายังได้นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลฟาร์มมิ่ง (Digital Farming) หรือโซลูชั่นทางการเกษตรต่าง ๆ มาช่วยให้เกษตรกร ได้เข้าถึงข้อมูลองค์ความรู้ด้านธาตุอาหารพืชและการเกษตรจากยารา รวมทั้งยังได้ร่วมมือกับดีแทคเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจร่วมกันในระบบสะสมคะแนนจากยอดซื้อมาแลกเป็นส่วนลดร้านค้าอีกด้วย

“เราเชื่อมั่นว่ากิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้แคมเปญนี้จะเป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่จะช่วยฟื้นฟูเกษตรกร และภาคเกษตรกรรมให้กลับมายืนหยัดอย่างแข็งแกร่งสามารถก้าวผ่านวิกฤตและท้ายที่สุดจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้กลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็วที่สุด”มิสเตอร์ เมดิ กล่าวสรุป