คุยกับ “Bake da Bite” เค้กหน้าข้าวกล่องเจ้าแรกในไทย ไอเดียใหม่สร้างความแตกต่าง

ปัจจุบันร้านเค้กผุดขึ้นอย่างมากมาย แต่ละร้านล้วนหาจุดแตกต่างและความแปลกใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งร้านเค้กหน้าข้าวกล่องแบรนด์ Bake da Bite ก็เช่นเดียวกันที่มองเห็นการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบันที่จำเป็นต้องกินข้าว

แหวกไอเดียด้วยข้าวกล่อง

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “ข้าวกล่อง” หรืออาหารตามสั่งได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนไปแล้ว ทำให้เจ้าของแบรนด์นำแนวคิดข้าวกล่องมาดัดแปลงเป็นหน้าขนมเค้ก จนเกิดเป็นการสร้างแบรนด์

ภูมิ พิพัฒน์พงศ์กุล เจ้าของธุรกิจเค้กหน้าข้าวกล่อง แบรนด์ Bake da Bite เล่าว่า

“จุดเริ่มต้นของการทำเค้กหน้าข้าวกล่อง เดิมทีทำเป็นแบบ Cake Box สไตล์เกาหลี และในปัจจุบันเริ่มมีการผลิตเค้กประเภทนี้จำนวนมากในท้องตลาด จึงต้องการหาสิ่งที่แตกต่างและได้วัตถุดิบจากเกษตรกรไทยทำให้เกิดไอเดียจากการใช้ชีวิตประจำวันคือการกินข้าวกล่องและมีหน้าตาที่สวยงาม จึงนำไอเดียข้าวกล่องมาดัดแปลงให้เค้กหน้าข้าวกล่อง ส่วนวัตถุดิบจะรับมาจากเกษตรกรจังหวัดระยอง เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ ที่ไม่ได้บ่มแก๊สแต่ให้เป็นตามธรรมชาติ ซึ่งแนวคิดนี้เพิ่งเริ่มต้นทำได้ประมาณ 1 เดือนและแบรนด์เพิ่งเปิดมาได้ยังไม่ถึงปี”

ทั้งนี้เค้กหน้าข้าวกล่องในตอนนี้จะมีหน้า ข้าวไข่ดาว และข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว โดยที่เค้กข้าวไข่ดาวจะเป็น เค้กข้าวเหนียวมะม่วง ตัวเค้กจะเป็นชิฟฟ่อน โปะด้วยครีมชีส และช็อกโกแลตสีส้มเป็นไข่ดาว พร้อมกับชิ้นเนื้อมะม่วง ส่วนเค้กข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาวนั้น จะเป็นเค้กแคร์รอต โปะด้วยครีมชีส และช็อกโกแลตสีส้มเช่นกัน ส่วนหมูสับเล่นกิมมิกด้วยครัมเบิลกรุบกรอบที่หน้าตาคล้ายกับหมูสับนั่นเอง

ในส่วนของตัวเค้กข้าวกล่องนั้นจะเป็นเค้กแนว DIY จะมีการแยกวัตถุดิบของเค้กไปให้ลูกค้า เช่น แยกตัวเนื้อเค้ก ครีมต่าง ๆ จะแยกชิ้นส่วนไปให้เพื่อให้ลูกค้าได้ตกแต่งหน้าเองเหมือนได้ทำกิจกรรมกับคนรอบข้างได้อีกด้วย ทำให้มีฟีดแบ็กเรื่องรสชาติและหน้าตาเค้กที่แปลกใหม่และสวยงามอีกด้วย

เน้นช่องทางออนไลน์อย่างเดียว

นอกจากนี้ในส่วนของการทำการตลาดทางร้านจะเน้นที่การโปรโมตผ่านช่องทางโซเชียลเป็นหลัก เนื่องจากในตอนนี้ขายออนไลน์เพียงอย่างเดียว และเมื่อโปรโมตในช่องทางต่าง ๆ ทำให้ลูกค้าสนใจและทำความรู้จักกับสินค้าของทางแบรนด์เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเค้กหน้าข้าวกล่องที่ยังไม่มีใครทำ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ลูกค้าให้ความสนใจและเริ่มสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มลูกค้าส่วนมากจะเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป พนักงานทั่วไปในพื้นที่จังหวัดระยอง ลูกค้าจะพรีออเดอร์เข้ามาทางร้านก็จะจัดส่งให้เป็นรอบ ๆ ไป และเข้ามาขายในกรุงเทพมหานครและเปิดพรีออเดอร์เช่นเดียวกัน ในส่วนของ Cake Box ก็ยังคงทำเสริมเช่นเดียวกันเพื่อเป็นตัวเลือกให้แก่ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

สำหรับกำลังการผลิตนั้นทางแบรนด์จะปิดรับออเดอร์ประมาณ 2 วัน และจำนวนเค้กนั้นขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ลูกค้าให้การสนับสนุนมากน้อยเพียงใด ซึ่งตอนนี้ได้เปิดรับออเดอร์ไป 2 รอบ รอบแรกประมาณ 80 กล่อง รอบสองประมาณ 65 กล่องของกรุงเทพมหานคร ส่วนจังหวัดระยอง 55 กล่อง ทั้งสองรอบ

ส่วนการส่งสินค้าให้ลูกค้านั้นในกรุงเทพมหานครทางร้านจะใช้บริการ Grab Bike มี 2 จุดรับส่งในช่วง เช้า-บ่าย จะเป็นจุดศรีนครินทร์ และช่วงบ่ายเป็นต้นไปจะมีส่งที่บริเวณปิ่นเกล้า

ทั้งนี้สำหรับราคาของเค้กหน้าข้าวกล่องจะอยู่ที่กล่องละ 250 บาท ส่วน Cake Box จะมีราคาอยู่ที่ 225 บาท ซึ่ง Cake Box ที่ขายดีที่สุดคือหน้า บานอฟฟี่ เนื่องจากจะมีรสชาติแตกต่างจากที่อื่น หน้าทุเรียนที่นำเอาทุเรียนจากสวนเจ้าของแบรนด์มารังสรรค์ให้เป็นเค้ก ซึ่งใน 1 กล่องจะได้ทุเรียน 1 พูครึ่ง รวมถึงมีรสชาติอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ยอดขายของตัว Cake Box จะเติบโตมากกว่าเค้กหน้าข้าวกล่องเพราะทำมาก่อน แต่ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเค้กหน้าข้าวกล่องจะมียอดการสั่งซื้อมากกว่าเพราะคนเริ่มให้ความสนใจในความแปลกใหม่ของตัวหน้าเค้ก

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตทางแบรนด์ได้มีการวางแผนที่จะต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการเพิ่มหน้าข้าวกล่อง ทำเป็นแกงถุง แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองเมนูต่างๆ ซึ่งเค้กหน้าข้าวกล่องจะมีขนาด ครึ่งปอนด์ นอกจากนี้เค้กหน้าข้าวกล่องแบรนด์ Bake da Bite เป็นเจ้าแรกในไทยที่นำเอาแนวคิดข้าวกล่องมาดัดแปลงเป็นหน้าขนมเค้ก เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่ และดึงดูดความสนใจกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี

Source