เมื่อเร็วๆ นี้ ภัตตาคารแห่งหนึ่งในย่านโบราณของนครอิสตันบูล ได้เปิดให้คู่รักเข้ามาดื่มด่ำกับอาหารและบรรยากาศยามตะวันลับฟ้าเหนือชะวากทะเล “โกลเดน ฮอร์น” (Golden Horn) โดยไม่ต้องมีหน้ากากอนามัยขวางกั้น
ร้านอาหารหรูหราแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ในย่านซุททลุตเจ (Sutluce) ทางฝั่งยุโรปของเมือง ได้สรรหาวิธีทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายด้วยการจัดโต๊ะอาหารในลักษณะเหมือนนำที่ครอบแก้วมาครอบไว้ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการปกป้องและปลอดภัยจากเชื้อโรคโดยสมบูรณ์
“ลูกค้าของเราได้รับการปกป้องอย่างดีจากไวรัสโคโรนา” เจฟเดต ไอซัส (Cevdet Aysas) เจ้าของร้านอาหาร จุกเซ เมเซ (Turkce Meze) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว ดังนี้
เมื่อไวรัสโคโรนาเริ่มระบาดไปทั่วโลกในเดือนมีนาคม ไอซัสจึงได้คิดวิธีสร้างพื้นที่แยกหลายๆ แบบขึ้นมา เพื่อให้ผู้คนสามารถอิ่มเอมกับอาหารค่ำโดยไม่ต้องกังวลเรื่องไวรัส
ร้านอาหารแห่งนี้ได้สร้างพื้นที่ส่วนตัวขึ้นมา 8 จุดโดยใช้วัสดุโพลีคาร์บอเนต ไอซัสอธิบายว่าทีมของเขาฆ่าเชื้อชิ้นส่วนนี้ด้วยเครื่องกำเนิดโอโซนและรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นประจำ ซึ่งยังวางโคโลญจน์ตุรกีและผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคสำหรับมือไว้ที่แต่ละโต๊ะ
ทางร้านยังจัดการให้การโต้ตอบระหว่างลูกค้าและบริกรเกิดขึ้นในระดับต่ำสุด โดยลูกค้าสามารถเรียกบริกรได้ด้วยการกดปุ่ม จากนั้นบริกรจะมาพร้อมหน้ากากอนามัย กระบังหน้า (face shield) และถุงมือ
“แขกของเราจำเป็นต้องสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ แต่สามารถถอดออกได้เมื่อเขาเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวดังกล่าว”
ร้านอาหารรับลูกค้าที่ทำการจองผ่านระบบออนไลน์ไว้เท่านั้น โดยลูกค้าสามารถใช้บริการได้ 1 รอบ นาน 3 ชั่วโมง โดยในช่วงพักระหว่างแต่ละรอบจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาฆ่าเชื้อโรค
เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลตุรกีอนุญาตให้ร้านอาหารและร้านกาแฟกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง อันเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายมาตรการจำกัดเนื่องด้วย COVID-19 เพื่อให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ
อย่างไรก็ตาม นับแต่นั้นมารายงานสถิติผู้ป่วยโรค COVID-19 รายใหม่กลับมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นทั่วประเทศ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องประกาศบังคับใช้มาตรการเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ตุรกีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 1,467 รายและผู้เสียชีวิต 17 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยโรค COVID-19 สะสมรวมในประเทศอยู่ที่ 181,298 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 4,842 ราย