ตุรกีแซงหน้ารัสเซีย กลายเป็นชาติที่เข้าซื้อทองคำมากที่สุดในโลก คาดสืบเนื่องจากความกังวลต่อความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และการเข้าถึงการชำระหนี้ด้วยดอลลาร์
เว็บไซต์ข่าวนิกเกอิเอเชียนรีวิว รายงานว่า ตุรกีซื้อทองคำเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เป็น 148 ตัน ระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม ผิดกับรัสเซีย ที่ลดการเข้าซื้อทองคำลง 60% เหลือเพียง 28 ตัน
ตุรกีกำลังเห็นรายได้เงินตราต่างประเทศของพวกเขาลดลง เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงิน โดยการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่สำคัญ ดำดิ่งเกือบแตะระดับศูนย์ระหว่างวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19)
ทั้งนี้ ค่าเงินลีราของตุรกี ดิ่งแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 7.269 ลีราต่อดอลลาร์
“มีเหตุผลทางเศรษฐกิจนิดหน่อย ที่ตุรกีเพิ่มการเข้าซื้อทองคำในตอนนี้” โคตะ ฮิรายามา นักวิเคราะห์จากเอสเออ็มบีซี นิกโกะ ซีเคียวรีตี กล่าว “ตุรกีจะมีเวลามากขึ้นในการปกป้องค่าเงินของตนเองที่อาจเสื่อมค่ายิ่งขึ้นอีก ด้วยการที่พวกเขาก็แค่ถือทุนสำรองระหว่างประเทศ”
นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า ตุรกีอาจเข้าซื้อทองคำ สืบเนื่องจากความสัมพันธ์ที่มึนตึงระหว่างพวกเขากับสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากตุรกีรุกรานเข้าไปยังซีเรีย เพื่อกำราบกลุ่มนักรบเคิร์ดที่จับมือเป็นพันธมิตรกับกองทัพอเมริกาในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
นอกจากนี้แล้ว ตุรกียังควบคุมตัวบาทหลวงชาวสหรัฐฯ คนหนึ่ง ตามข้อกล่าวหาก่อการร้าย ซึ่งกระตุ้นให้อเมริกากำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเล่นงานตุรกี และโหมกระพือวิกฤตค่าเงินในปี 2018
นิกเกอิเอเชียนรีวิว ระบุว่า หากความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ เลวร้ายลงไปมากกว่านี้ และหากอเมริกากำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงขึ้น ตุรกีก็เสี่ยงถูกตัดขาดจากระบบชำระหนี้ด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งลงนามในร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งขัดขวางสถาบันการเงินต่างๆ ในจีนจากการเข้าซื้อดอลลาร์