สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ร่วมกับ จังหวัดตราด สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตราด และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) สำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 เดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ธุรกิจขนาดเล็ก และชุมชน คาดหวังให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในการดำเนินธุรกิจ เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวและบริการ สอดรับแผนแม่บทการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยวและบริการ ผ่านกิจกรรม “ติดอาวุธดิจิทัลด้านท่องเที่ยวและบริการ เพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) จังหวัดตราด” ซึ่งนับเป็นการคิกออฟต่อเนื่องหลังจากลงพื้นที่จังหวัดระยอง และจังหวัดจันทบุรี ก่อนหน้านี้
ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ตามที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) มอบหมายให้ ดีป้า ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการก้าวเข้าสู่ยุคฐานวิถีชีวิตใหม่ (นิวมอร์มอล) หลังผ่านพ้นวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
วันนี้ ดีป้า ได้ร่วมกับ จังหวัดตราด สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตราด และสำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 (อพท.) จัดกิจกรรม “ติดอาวุธดิจิทัลด้านท่องเที่ยวและบริการ เพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) จังหวัดตราด” ณ โรงแรมตราดซิตี้ อำเภอเมือง จังหวัดตราด ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจังหวัดตราด ด้านการท่องเที่ยวและบริการ หลังวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ธุรกิจขนาดเล็ก และชุมชนในพื้นที่ เกิดการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินและพัฒนาธุรกิจ ผ่านมาตรการคูปองดิจิทัล เพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (depa mini-Transformation Voucher) โดยได้รับเกียรติจาก ว่าที่ร้อยตรี พิเชียน ลิมป์หวังอยู่ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมฯ
นายพรชัย หอมชื่น ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานกิจการสาขา ดีป้า กล่าวว่า ดีป้า พร้อมเต็มที่ ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ โดยมาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เข้ากับรูปแบบของธุรกิจ ด้วยตนเอง เพื่อเป็นการฟื้นฟูธุรกิจ ยกระดับการให้บริการ และขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจังหวัดตราด หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19
ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า หลังจากประเทศไทยเกิดสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จึงมีใช้ข้อบังคับห้ามการเดินทาง ห้ามการท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบโดยตรง แม้ขณะนี้สถานการณ์จะคลี่คลายและรัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรนให้ประชาชนสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศได้แล้ว แต่ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม ทุกคนต้องปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุค นิวมอร์มอล กิจกรรมดังกล่าวจึงประโยชน์โดยตรงกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นเครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาต่อไป
พร้อมกันนี้ ทีมงานดีป้าสาขาภาคตะวันออก เครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการด้านดิจิทัล (ดิจิทัล โพรไวเดอร์) ที่ขึ้นทะเบียนเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลกับสำนักงานฯ อาทิ บริษัท โกไฟว์ จำกัด ผู้ให้บริการโปรแกรม CRM บริษัท ซอร์ฟโปรดัก จำกัด ผู้ให้บริการโปรแกรม ERP, CRM, IoT บริษัท ซุปเปอร์กรีนเฮาส์เทคโนโลยี จำกัด ผู้ให้บริการระบบพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัท ยูนิคอร์น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการร้านอาหาร บริษัท อรินแคร์ จำกัด ผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการงานขาย และ บริษัท กรีนเนอรี่ คลีนิค จำกัด ผู้ให้บริการเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเกษตร ท่องเที่ยว และเมืองอัจฉริยะ ได้ร่วมออกบูธให้คำปรึกษา เพื่อการจับคู่ทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการได้สอบถามและเลือกใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้ตรงตามความต้องการด้วยตนเอง และหอการค้าจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นหน่วยร่วมดำเนินงานของดีป้าในพื้นที่ภาคตะวันออก ได้มาร่วมออกบูธเปิดรับสมัครผู้ที่ต้องการขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านมาตรการคูปองดิจิทัล เพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีผู้ประกอบการ ประชาชนจังหวัดตราด และพื้นที่ใกล้เคียงให้ความสนใจและตอบรับเป็นจำนวนมาก