บริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ภายใต้ความร่วมมือของ 3 บริษัทผู้ประกอบการอสังหาฯ ชั้นนำของภาคตะวันออกและกรุงเทพฯ ที่มีประสบการณ์การสร้างสรรค์ผลงานระดับคุณภาพมานานกว่า 30 ปี ได้แก่ บริษัท เอปัส ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ดิ เออเบิ้ล พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด และบริษัท บ้านสิริศา จำกัด ร่วมเผยข้อมูลตลาดอสังหาฯ พัทยา ยังโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ที่ขับเคลื่อนด้วย “เรียล ดีมานด์” ยันสถานการณ์โควิดไม่กระทบกลุ่มลูกค้าเซ็กเมนต์บน เตรียมปั้น “อารมณ์ วงศ์อมาตย์” (AROM WONGAMAT) มูลค่าโครงการกว่า 3,700 ล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นโครงการลิมิเต็ด แรร์ไอเทมแห่งเดียวในพัทยา ชูจุดขายทำเล “Prime of the Prime Location” ติดทะเล ผืนสุดท้ายบนหาดวงศ์อมาตย์ ขื้นชื่อสุดยอดที่ดินหายากและราคาแพงที่สุดของพัทยา ราคาขายเริ่มต้น 6.2 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยประมาณ 200,000 บาท ต่อตารางเมตร ทุบสถิติราคาคอนโดมิเนียมริมหาดสูงที่สุดในพัทยา มั่นใจยอดขายปีนี้โตตามเป้า 50%
นายเฉลิมพล โขนแจ่ม กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า“ห้องชุดซูเปอร์ลักชัวรี และลักชัวรีในเมืองพัทยาเป็นที่ต้องการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการริมชายหาดเนื่องจากมีซัพพลายค่อนข้างน้อย ซึ่งคอนโดมิเนียมบนหาดวงศ์อมาตย์ พัทยา จัดว่าเป็นพื้นที่หายาก จากข้อมูลย้อนหลังของตลาดอสังหาฯ พัทยากว่า 5 ปีผ่านมา พบว่าแทบไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในโซนนี้ ส่วนที่ยังมีการเปิดขายอยู่ก็เป็นส่วนน้อยที่ยังคงค้างยูนิตในตลาด เนื่องจากวงศ์อมาตย์ เป็นหาดที่มีราคาที่ดินแพงที่สุดในพัทยาและมีการปรับราคาขึ้นทุกปี จึงถือเป็นความโชคดีที่เราได้ครอบครองที่ดินผืนใหญ่ผืนสุดท้ายบนหาดแห่งนี้ และด้วยความพิเศษที่ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว เราจึงตั้งใจพัฒนาโครงการ “อารมณ์ วงศ์อมาตย์” อย่างดีที่สุดให้เป็นความภาคภูมิใจและเป็นผลงานซูเปอร์ลักชัวรี่คอนโดมิเนียมระดับ Limited Rare Item แห่งเดียวในพัทยา ที่หลอมรวมทุกองค์ประกอบของชีวิตที่หรูหราเหนือระดับเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบันได้อย่างครอบคลุมและยั่งยืน”
“อีกหนึ่งปัจจัยที่ตอกย้ำความมั่นใจในตลาดอสังหาพัทยาฯ คือความชัดเจนในการลงทุนของภาครัฐในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้นทั้งโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่จะครอบคลุมการพัฒนาพื้นที่เมืองโดยรอบสนามบิน (พัทยาถึงระยอง) โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ทำให้สามารถลดการเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงพัทยาเพียง 45 นาที ซึ่งองค์ประกอบที่สำคัญเหล่านี้เป็นเหตุผลสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวพัทยาให้คึกคักขึ้นเป็นอย่างมากในอนาคต ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยของพัทยาจะยังคงเป็นที่ต้องการของชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะซื้อเพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจหรือเพื่อการลงทุนในอนาคตก็ตาม” นายเฉลิมพล กล่าวเสริม
สำหรับโครงการ “อารมณ์ วงศ์อมาตย์” พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Sense The Masterpiece” ได้แก่ Masterpiece of Nature, Masterpiece of Design, Masterpiece of Living, Masterpiece of the Future ผสมผสานเป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ สูง 55 ชั้น บนเนื้อที่ 3.3 ไร่ ประกอบด้วยห้องชุดสุดหรูเน้นความเป็นส่วนตัวจำนวน 319 ยูนิต ทั้งแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 37.5-63 ตารางเมตร แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 81-87 ตารางเมตร รวมถึงเพนท์เฮาส์ขนาด 201-210 ตารางเมตร เพดานสูงถึง 3.2 – 4 เมตร ทุกยูนิตสามารถเปิดรับทัศนียภาพอันงดงามของหาดวงศ์อมาตย์และผืนน้ำทะเลแบบพาโนรามาซีวิว โดยเฉพาะยูนิตซิกเนเจอร์พิเศษที่มาพร้อมสระจากุซซี่บนระเบียงส่วนตัว มอบประสบการณ์ใช้ชีวิตเหนือระดับด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บนพื้นที่ส่วนกลางขนาด 4,820 ตารางเมตร แบ่งเป็น 28 โซน ตั้งแต่ Beach Facilities พร้อมสระริมหาดแบบ Multilevel Aqua Pool แห่งเดียวในพัทยา ไปจนถึง Sky Facilities บนชั้นดาดฟ้า สมศักดิ์ศรีโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ริมทะเลมอบความรู้สึกสะดวกสบายเสมือนเป็นที่พักตากอากาศส่วนตัว ด้วยการออกแบบเพียงชั้นละ 7 ยูนิต ผสานความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ ความหรูหรา และคุณภาพชีวิตระดับไฮเอนด์ที่สมบูรณ์แบบ
ตัวโครงการฯ ตั้งอยู่บนที่ดินฟรีโฮลด์ผืนใหญ่ผืนสุดท้ายบนโค้งหาดวงศ์อมาตย์ ถือเป็น Prime of the Prime Locationเป็นทำเลที่มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดในพัทยาเนื่องจากไม่มีถนนเลียบชายหาดคั่น จึงปราศจากความวุ่นวายเสมือนเป็นชายหาดส่วนตัว ขณะเดียวกันยังสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หรูหราระดับเอ็กซ์คลูซีฟ ด้วยการเดินทางสู่ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยว และร้านอาหารระดับพรีเมียมได้เพียงไม่กี่นาที
ด้านกลยุทธ์การขาย หลังจากเริ่มเปิดสำนักงานขายเดือนที่ผ่านมา ได้กระแสการตอบรับจากลูกค้าดีเกินคาด มีลูกค้าสนใจนัดหมายเข้ามาเยี่ยมชมโครงการมากกว่า 200 ราย และมีการตัดสินใจซื้อมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ โดยกลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงสำหรับเป็นบ้านหลังที่สองเพื่อการพักผ่อนหรือเพื่อเป็นมรดกส่งต่อให้คนรุ่นหลัง ไม่เน้นเพื่อการปล่อยเช่าเนื่องจากทำเลที่ดินดังกล่าวหายากและมีราคาสูง รวมไปถึงจำนวนยูนิตที่มีอยู่อย่างจำกัด ไม่คุ้มกับการปล่อยเช่า โดยสัดส่วนลูกค้ายังเป็นกลุ่มลูกค้าไทย 51 % ต่างชาติ 49 % แต่ด้วยสถานกาณ์โควิดในปัจจุบันทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากในประเทศทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยแบ่งเป็นลูกค้าที่มาจากพื้นที่กรุงทพฯ 90% ที่เหลือเป็นลูกค้าในพื้นที่ สำหรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติคาดการณ์ว่าหากเปิดประเทศความต้องการซื้อจะกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
สำหรับความคืบหน้าของโครงการฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะเรียบร้อยภายในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ ด้านการก่อสร้างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 2 ปี 2564 คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2567
“อารมณ์ วงศ์อมาตย์” พร้อมเปิดให้เยี่ยมชมโครงการแล้ววันนี้ ณ สำนักงานขายริมหาดวงศ์อมาตย์ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่โทรศัพท์ 097-917-8000 หรือ อีเมล [email protected] ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.aromwongamat.com