รายงานการศึกษาฉบับใหม่ระบุว่าสายพันธุ์ของไวรัสโคโรนากลุ่มแรกสุดที่แพร่ระบาดในแคว้นลอมบาร์ดีของอิตาลี ไม่ได้มาจากจีนโดยตรง
วารสารวิชาการที่ไม่มีผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรอง (non-peer-reviewed paper) ฉบับหนึ่งซึ่งเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (20 ก.ค.) ในเว็บไซต์ medRxiv.org เซิร์ฟเวอร์เผยแพร่ผลงานวิชาการด้านสาธารณสุขศาสตร์ก่อนตีพิมพ์ ระบุว่าหลังจากวิเคราะห์ตัวอย่างเลือดผู้ป่วยโรค COVID-19 จากลอมบาร์ดี ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน มากกว่า 300 รายการ
คณะนักวิจัยพบว่าไวรัสกลุ่มนี้พบได้บ่อยในประเทศแถบยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส แต่แทบไม่พบในจีน
คณะผู้วิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์การ์โล เฟเดริโก เปร์โน จากมหาวิทยาลัยมิลาน ระบุในบทความว่าอิตาลีเป็นประเทศแรกในโลกที่ระงับทุกเที่ยวบินจากจีน หลังเกิดการระบาดของโรค COVID-19 เมื่อเดือนธันวาคม 2019 แต่การจัดลำดับจีโนมบ่งชี้ว่า “ห่วงโซ่การแพร่เชื้อไม่ได้เกี่ยวข้องกับจีนโดยตรง”
นักวิจัยได้วิเคราะห์ลำดับจีโนมทั้งหมดจากตัวอย่าง 371 รายการ ที่รวบรวมจากผู้ป่วยที่มีอาการของโรคที่แตกต่างกันตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงรุนแรง 371 ราย โดยพวกเขาอาศัยอยู่ในจังหวัดต่างๆ ทั้ง 12 แห่งของลอมบาร์ดี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรค COVID-19 มากกว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยทั้งหมดในอิตาลี
นักวิจัยพบว่าสายพันธุ์ของเชื้อที่ตรวจพบนั้นแบ่งได้เป็น 2 สาย (lineage) ซึ่งแต่ละสายมีการแพร่กระจายในบางจังหวัด แต่สายพันธุ์เหล่านี้ “ไม่ได้มีสายพันธุ์ของไวรัส (viral strain) ที่แยกเชื้อเจอในช่วงเดือนแรกของการระบาดในจีน”
คณะนักวิจัยอธิบายว่าการเข้ามาสู่ลอมบาร์ดีของเชื้อไวรัสอาจมี ‘หลากหลายทาง’ พร้อมเสริมว่าสายพันธุ์เหล่านี้ก่อตัวเป็นก้อนกระจุกที่กระจายแยกกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ โดยไวรัสเหล่านี้อาจจะมาจากภูมิภาคยุโรปกลาง ซึ่งเป็นที่ที่พบสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์คล้ายคลึงกัน
บทความการศึกษาระบุว่าสายพันธุ์เหล่านี้อาจเข้าสู่อิตาลีช่วงครึ่งหลังของเดือนมกราคม หรือหนึ่งเดือนก่อนอิตาลีพบผู้ป่วยโรค COVID-19 รายแรกในเมืองโกโดญโญของแคว้นลอมบาร์ดี เมื่อวันที่ 20 ก.พ.
นอกจากนี้รายงานจากสำนักข่าวสปุตนิก (Sputnik) ของรัสเซีย ที่มีการเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ ระบุว่าสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสโกโกโว (Skoltech) พบว่ามีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่กระจายในเมืองต่างๆ ของรัสเซียระหว่างปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงต้นเดือนมีนาคม อย่างน้อย 67 สายพันธุ์
สถาบันให้ข้อมูลกับสำนักข่าวว่า หลังวิเคราะห์ลำดับจีโนมของตัวอย่างที่รวบรวมได้ นักวิจัยพบว่าไวรัสที่ทำให้เกิดโรค COVID-19 ระบาดในรัสเซีย ส่วนใหญ่มาจากยุโรปมากกว่าที่จะมาจากจีน