อย่างนี้ก็ได้เหรอ! EVA Air สายการบินสัญชาติไต้หวันออกแพ็กเกจแก้โจทย์การท่องเที่ยวช่วง COVID-19 เปิดตั๋วเครื่องบินที่จะพาผู้โดยสารบินวนเหนือญี่ปุ่นแต่ไม่ลงจอด จากนั้นบินกลับไต้หวัน ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์บนเครื่องบินที่คุ้นเคย ทั้งการทานอาหารบนฟ้าและช้อปปิ้งดิวตี้ฟรี สนนราคา 5,288 ดอลลาร์ไต้หวันต่อคน (ประมาณ 5,600 บาท)
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแพ็กเกจเช่นนี้มีลูกค้ารอคอยมากแค่ไหน สายการบิน EVA Air ประกาศจัดเที่ยวบินพิเศษบนเครื่องรุ่น A330 (ตัวเครื่องลาย Hello Kitty) พาทุกท่านเดินทางจากสนามบินเถาหยวน บินผ่านช่องแคบตะวันออกเฉียงเหนือ บินวนเหนือหมู่เกาะริวกิวของญี่ปุ่น และวนกลับลงจอดที่ไต้หวันผ่านทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้เวลาทำการบินทั้งหมด 2 ชั่วโมง 45 นาที
“เราทำสัญญากับเอเยนต์ทัวร์ท้องถิ่นไว้แล้ว 9 แห่งเพื่อจำหน่ายทริปดังกล่าว โดยเครื่องจะออกเดินทางเวลา 10.30 น. ของวันที่ 8 สิงหาคมนี้ และกลับลงจอดในเวลา 13.15 น.” เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของบริษัทให้ข้อมูล “ทริปนี้จะไม่มีการลงจอดที่ญี่ปุ่น”
ราคาแพ็กเกจสำหรับที่นั่งชั้นประหยัดอยู่ที่ 5,288 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 5,600 บาท) และที่นั่งชั้นธุรกิจอยู่ที่ 6,288 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 6,700 บาท) ราคานี้รวมการ์ดใช้งาน Wi-Fi อาหารบนเครื่อง 1 มื้อ และผู้โดยสารสามารถซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเครื่องได้ด้วย
แพ็กเกจดังกล่าวจัดขึ้นในวันที่ 8 สิงหาคมเพื่อให้ตรงกับเทศกาลวันพ่อของไต้หวัน นอกจาก EVA Air แล้วยังมีสายการบินอื่นๆ จัดแพ็กเกจที่น่าสนใจต้อนรับวันพ่อเช่นกัน ตัวอย่างเช่น สายการบิน China Airlines มีแพ็กเกจทริปบินวนเหนือเกาะไต้หวันระยะเวลา 2 ชั่วโมง พ่วงทัวร์ห้องนักบิน โดยเปิดราคามาที่ 6,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 6,400 บาท) สำหรับผู้ใหญ่ 1 ท่าน และเด็ก 1 คน (สำหรับทัวร์ห้องนักบิน จำกัดเฉพาะเด็กๆ ที่สามารถเข้าร่วมได้)
คนรักการบินพร้อมจ่าย
โมเดลแพ็กเกจที่ขายประสบการณ์การเดินทางด้วยเครื่องบิน ไม่ใช่การขายบริการขนส่งสู่จุดหมายนั้น มีหน่วยงานที่จัดทำในช่วง COVID-19 และประสบความสำเร็จมาแล้ว
เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม สนามบินซงชาน เป็นหน่วยงานแรกของไต้หวันที่เปิดแพ็กเกจ “ไม่ได้บินไปที่ไหนเลย” โดยเปิดทริปให้ลูกค้านับหลายร้อยคนสามารถเดินผ่านจุดเช็กอิน ตรวจคนเข้าเมือง และบอร์ดดิ้งขึ้นเครื่องบินจริงๆ แต่เครื่องจะไม่เคลื่อนออกจากจุดจอด ปรากฏว่ามีคนติดต่อเข้าไปถึง 7,000 คน จนสนามบินต้องใช้วิธีจับสลากผู้โชคดีเพียง 30 คน (แต่ละคนสามารถพาผู้ติดตามไปด้วย 1 คน รวมเป็น 60 คนที่จะได้ร่วมทริป)
ต่อมา สนามบินเถาหยวน ก็นำไอเดียนี้ไปใช้บ้าง โดยขยายเป็นทริปชมสนามบิน 12 ครั้งทุกวันพฤหัสบดีและวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมาจนถึง 29 สิงหาคมนี้ ทริปของเถาหยวนเป็นการเปิดให้ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมเลาจน์ผู้โดยสารและสิ่งอำนวยความสะดวก ชมระบบควบคุมภายในสนามบิน ใช้บริการร้านดิวตี้ฟรี และขึ้นจุดชมเครื่องบิน (Observation Deck) สนนราคา 1,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1,065 บาท)
ปรากฏว่าตั๋วเยี่ยมสนามบินเถาหยวนจำนวน 4,100 ใบขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่สองวันแรกที่เปิดขายเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม!!
ไอเดียนี้ยังถูกนำไปปรับใช้กับบริษัทเดินเรือสำราญของไต้หวันด้วย โดยหลายบริษัทมีแพ็กเกจทริปล่องเรือ 3 วันหรือ 5 วัน ที่จะพาผู้โดยสารไม่ได้ไปไหนไกล เพียงแต่ล่องไปรอบๆ เกาะไต้หวัน
ดูเหมือนว่าความคิดถึงและโหยหาประสบการณ์ระหว่างการเดินทางเหล่านี้ ส่งให้ผู้บริโภคยอมจ่ายเพื่อให้ได้หายคิดถึงกันบ้าง