“รพ. พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ” หนึ่งในพันธมิตรของ “บำรุงราษฎร์ เฮลท์เน็ตเวิร์ก” เปิด “ศูนย์กระดูกสันหลัง Absolute Spine Care” และ “ศูนย์ข้อเข่าและข้อสะโพก Joint Surgery Center” อย่างเป็นทางการ เสริมบริการด้านการแพทย์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีทันสมัย โดยทีมแพทย์เฉพาะทางตามแนวทางรักษาของ รพ. บำรุงราษฎร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการมาตรฐาน รพ. พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ในราคาที่สอดคล้องกับกลุ่มผู้ใช้บริการของโรงพยาบาล อีกทางเลือกใหม่รับวิถีชีวิต New Normal ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว ไม่ต้องนอนพักในโรงพยาบาลนาน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
นายแพทย์วรัญญ์ เทียนส่ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า โรงพยาบาล พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ในเครือบริษัท พริ้นซิเพิลเฮลท์แคร์ จำกัด ได้เปิด “ศูนย์กระดูกสันหลัง Absolute Spine Care”และ “ศูนย์ข้อเข่าและข้อสะโพก Joint Surgery Center” อย่างเป็นทางการเพื่อให้บริการรักษาเฉพาะทางแก่ผู้มีปัญหากระดูกสันหลังข้อเข่าและข้อสะโพกโดยมีความพร้อมในการให้บริการแก่ผู้ป่วยย่านบางนา และจังหวัดสมุทรปราการ ให้สามารถเข้าถึงการรักษาในราคาที่จับต้องได้ โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ตามแนวทางการรักษาของ รพ. บำรุงราษฎร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการมาตรฐาน รพ. พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ
“เราได้เริ่มเปิดบริการ Absolute Spine Care และ Joint Surgery Center อย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา นับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการ โดยเป็นความร่วมมือกับบำรุงราษฎร์ เฮลท์เน็ตเวิร์ก บริษัทฯ ในเครือของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ภายใต้โมเดลธุรกิจใหม่ร่วมกัน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาบริการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภายในโรงพยาบาล พร้อมด้วยการรวบรวมทีมแพทย์ชำนาญการ และจัดหาเครื่องมือรักษาที่ทันสมัย เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่สมบูรณ์ต่อไป”นายแพทย์วรัญญ์กล่าว
สำหรับศูนย์ Absolute Spine Care และศูนย์ Joint Surgery Center มีพื้นที่ให้บริการขนาดกว่า 200 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องตรวจรวมทั้งสิ้น 8 ห้อง พร้อมพื้นที่รับรองที่กว้างขวาง โดยจะเปิดให้บริการทุกวัน ซึ่งรูปแบบการรักษามีหลายวิธีตามระดับอาการของผู้ป่วย ดูแลโดยทีมแพทย์และพยาบาลวิชาชีพที่มีความชำนาญเฉพาะทาง มีการกำหนดขั้นตอนการดูแลผู้ป่วย ทั้งก่อนผ่าตัด วันผ่าตัด และการดูแลหลังผ่าตัดด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีทันสมัย ใช้เทคนิคแผลผ่าตัดขนาดเล็กเพื่อให้ผู้ป่วยมีการฟื้นตัวได้เร็ว สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว
เนื่องด้วยสังคมไทย ประชากรมีอายุยืนยาวขึ้นและกำลังเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ล่าสุดได้มีการคาดการณ์ว่าอีก 20 ปีข้างหน้า หรือปี พ.ศ. 2583 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มตัว โดยตัวเลขประชากรไทยที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จะเพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่า จากปี 2563 ที่มีผู้สูงอายุ 12 ล้านคน จะเพิ่มขึ้นเป็น 36.5 ล้านคน ทั้งนี้ อุตสาหกรรม Healthcare จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือกับโรคภัยต่างๆ ที่มีสาเหตุสัมพันธ์กับอายุที่มากขึ้น
ด้านนายสมศักดิ์ วิวัฒนสินชัย ผู้อำนวยการด้านบริหาร บำรุงราษฎร์ เฮลท์เน็ตเวิร์ก กล่าวว่า บำรุงราษฎร์ได้ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ มิติ รวมถึงมีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การบริบาลสุขภาพแบบองค์รวมระดับโลกด้วยนวัตกรรมมาโดยตลอด ซึ่งโมเดลความร่วมมือ “บำรุงราษฎร์ เฮลท์เน็ตเวิร์ก”นับเป็นอีกยุทธศาสตร์ของบำรุงราษฎร์ ด้วยการร่วมตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Center of Excellence) ในโรงพยาบาลพันธมิตร โดยทั้งสองฝ่ายจะดำเนินงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในลักษณะ Joint Operation ในเรื่องเงินทุน ค่าใช้จ่าย ทรัพยากรและรายได้ มีการฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้ให้กับบุคคลากรของโรงพยาบาลพันธมิตร เพื่อยกระดับความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงาน
ในส่วนของแพทย์ มีการจัดทีมแพทย์เฉพาะทาง โดยให้การรักษาตามแนวทางของ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์แต่ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการตามมาตรฐานของโรงพยาบาลพันธมิตร ด้วยโมเดลธุรกิจดังกล่าวจะเพิ่มโอกาสให้กลุ่มผู้ป่วยของโรงพยาบาลพันธมิตร เข้าถึงการรักษาที่ดีในราคาที่สอดคล้องกับกลุ่มผู้ใช้บริการของโรงพยาบาลพันธมิตร การผสานพลังความร่วมมือกับโรงพยาบาลพันธมิตรในแต่ละพื้นที่ ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ในการให้บริบาลทางการแพทย์ในประเทศไทยโดยโมเดลนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของบำรุงราษฎร์และพันธมิตรให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
ด้าน นพ. วีระพันธ์ ควรทรงธรรมผู้อำนวยการสถาบันกระดูกสันหลังบำรุงราษฎร์ และผู้อำนวยการศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ กล่าวเสริมว่า จากโมเดล ‘บำรุงราษฎร์ เฮลท์เน็ตเวิร์ก’นี้ ทำให้สถาบันกระดูกสันหลังบำรุงราษฎร์ ซึ่งเป็นสถาบันที่จัดการสอนการผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องเอ็นโดสโคป ในระดับภูมิภาคเอเชีย มาอย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ได้นำความรู้เทคนิคใหม่ๆมาถ่ายทอดให้แก่โรงพยาบาลพันธมิตรเพื่อส่งมอบประสบการณ์การรักษาตามแนวทางของบำรุงราษฎร์ได้อย่างไร้รอยต่อ ปัจจุบัน ศูนย์ Absolute Spine Care โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ มีความพร้อมในการรักษา โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางกว่า 15 ท่าน ร่วมกันทำงานเป็นทีม ซึ่งมีทั้งศัลยแพทย์และแพทย์ ผู้ชำนาญการในสาขาต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคกระดูกสันหลังร่วมกันวางแผนการรักษากับผู้ป่วยให้เหมาะสมกับระดับอาการของผู้ป่วยแต่ละราย โดยแนวทางการรักษาจะมีทั้งการรักษาแบบ Intervention ด้วยการฉีดยา การใช้คลื่นวิทยุ และการใช้เลเซอร์เข้ากระดูกสันหลัง จนถึงการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดแบบ Endoscopic Surgery ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องเอ็นโดสโคปแผลเล็กกว่า 1 ซม. ซึ่งมีข้อดีคือผู้ป่วยจะมีอาการปวดแผลผ่าตัดน้อย ความเสี่ยงในการติดเชื้อต่ำ ลดการทำลายเนื้อเยื่อส่วนดีที่อยู่รอบบริเวณผ่าตัดผู้ป่วยฟื้นตัวหลังผ่าตัดเร็ว สามารถกลับบ้านได้ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งการตัดสินใจรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดผ่านกล้องเอ็นโดสโคปนั้นจะต้องเป็นไปตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ร่วมกันและเป็นไปตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด
ด้านของ ผศ. พล.อ.ต.นพ. จำรูญเกียรติ ลีลเศรษฐพร ผู้อำนวยการศูนย์ข้อเข่าและข้อสะโพก โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยมารักษาที่ศูนย์ Joint Surgery Center เฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยให้ความไว้วางใจและมีความมั่นใจในการผ่าตัดมากยิ่งขึ้น ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยตามแนวทางการรักษาของ โรงพยาบาล. บำรุงราษฎร์ และมีบริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุม อาทิ ปวดเข่า ปวดสะโพก เรื้อรัง ข้อฝืด ติดขัด โรคข้อเข่าเสื่อม ข้อสะโพกเสื่อม และการผ่าตัดส่องกล้องข้อ เป็นต้น รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิ การผ่าตัดข้อแบบแผลเล็ก, การผ่าตัดด้วยคอมพิวเตอร์นำวิถีซึ่งจะช่วยในการวางตำแหน่งข้อเทียมได้อย่างแม่นยำมากขึ้น รวมถึงมีการวินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วยเป็นรายบุคคลได้
นายแพทย์วรัญญ์ เทียนส่ง กล่าวปิดท้ายว่า ผมรู้สึกภูมิใจและขอบคุณในความร่วมมือของบำรุงราษฎร์ เฮลท์เน็ตเวิร์ก ที่ดีมาโดยตลอด เรามีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการส่งมอบคุณภาพการรักษาที่ดีแก่ผู้ป่วย และมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการทางการแพทย์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ศูนย์ Absolute Spine Care และศูนย์ Joint Surgery Center ของโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมินี้ นับเป็นโครงการต้นแบบ ที่ช่วยขยายการเข้าถึงการรักษาไปยังกลุ่มผู้ป่วยระดับกลางให้ได้รับการดูแลรักษาที่มีคุณภาพตามแนวทางของบำรุงราษฎร์ ปัจจุบันกลุ่มโรงพยาบาลในเครือบริษัท พริ้นซิเพิลเฮลท์แคร์ จำกัด นอกจากโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ยังมีโรงพยาบาลในเครือทั้งหมดจำนวน 8 แห่ง ที่ดำเนินการอยู่แล้ว โดยเราจะเดินหน้าขยายความร่วมมือในโรงพยาบาล.แห่งอื่นต่อไปในอนาคต