‘Suzuki Motor’ (ซูซูกิ มอเตอร์) เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของปี (เมษายน-มิถุนายน) พร้อมระบุว่ากำไรสุทธิลดลง 96% จากที่ปีก่อนหน้า เหลือเพียง 1,700 ล้านเยน (16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากยอดขายที่ไม่ดีในอินเดีย
Suzuki Motor เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า รายรับของบริษัทในปีนี้ลดลง 482,200 ล้านเยน หรือ 53% เหลือ 425,000 ล้านเยน โดยยอดขายในเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นลดลง 76% เหลือ 105,000 ล้านเยน โดยขาดทุนจากการดำเนินงาน 6,700 ล้านเยน ขณะที่ตลาดอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของซูซูกิมีผลขาดทุนสุทธิ 2,670 ล้านรูปี (35.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากต้องปิดโรงงาน
ในส่วนของฝั่งยุโรปยังคงขาดทุนจากไวรัส COVID-19 คิดเป็นมูลค่าราว 15,000 ล้านเยน เนื่องจากสาเหตุการปิดโรงงาน เช่น ที่ฮังการี ขณะที่ ยอดขายสุทธิของธุรกิจรถยนต์ (รถสี่ล้อ) ลดลง 449,600 ล้านเยน คิดเป็น 55% เมื่อเทียบปีต่อปี เหลือ 367,500 ล้านเยน ในไตรมาสแรกสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2020 อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถยนต์ยังคงทำกำไรในญี่ปุ่นและภูมิภาคอื่น ๆ
“นี่เป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงงานในสถานที่ผลิตของ บริษัท ในประเทศต่าง ๆ เช่น ญี่ปุ่น, อินเดีย, ปากีสถานและฮังการี รวมถึงการจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก”
ทั้งนี้ Suzuki ไม่ได้ให้คาดการณ์ถึงรายได้รวมสำหรับปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคมปี 2021 โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนที่เกิดจาก COVID-19