นายสุชาติ เจริญศรี รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะประธานคณะทำงานบริหารจัดการน้ำ ภาคตะวันออก เปิดเผยว่า คณะทำงานบริหารจัดการน้ำ ภาคตะวันออก พร้อมด้วย นายสุริยพล นุชอนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 นายเกรียงศักดิ์ พุ่มนาค ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 9 นายวิทวัฒน์ วันทนียกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจันทบุรี นายกิตติธัช เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาประแสร์ ผศ.เจริญ ปิยารมณ์ ประธานคณะทำงานลุ่มน้ำแม่น้ำวังโตนด นายพีระศักดิ์ สนั่นเครื่อง นายอำเภอแก่งหางแมว นายโชคชัย มนตร์อมรเชษฐ์ กรรมการสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายวิทยา สามสุวรรณ ผู้อำนวยการประปาส่วนภูมิภาคเขต 1 ตัวแทนภาคอุตสาหกรรม ตัวแทนภาคเกษตรกร บริษัท East Water และภาคเอกชน ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมชลประทาน และคณะทำงานลุ่มน้ำแม่น้ำวังโตนด ณ สถานีสูบน้ำบ้างวังประดู่ ตำบลสามพี่น้อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี เพื่อดำเนินการสูบผันน้ำส่วนเกินที่ไหลทิ้งทะเลในคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี มาเก็บในอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง สำรองน้ำเฉพาะกิจ ฤดูฝน ปี 2563
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ คณะทำงาน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานอนุกรรมการ ได้มอบหมายให้วางแผนการพัฒนาและบริหารการจัดสรรน้ำให้เพียงพอต่อทุกภาคส่วนเพื่อรองรับฤดูแล้งปี 2563/64 ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ประธานกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมการลุ่มน้ำคลองวังโตนด มีมติไม่ขัดข้องให้ดำเนินการสูบน้ำได้ในช่วงฤดูฝน กันยายน/ตุลาคม 2563 โดยเริ่มทดลองเดินเครื่องตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 โดยมีเงื่อนไข ดังนี้ 1. ต้องไม่ระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำปะแกต ลงมาอย่างเด็ดขาด ยกเว้นกรณีพร่องน้ำรับฝนที่คาดการณ์จะตกทำให้น้ำล้นอ่างฯเกินควบคุม 2. น้ำเหนือฝายทดน้ำในคลองวังโตนด ต้องเต็มทุกฝาย โดยเฉพาะที่ฝายวังใหม่ระดับน้ำต้องไม่น้อยกว่า +16.00 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง หากมีระดับต่ำกว่าต้องหยุดการสูบน้ำทันทีด้วยระบบสูบผันน้ำแม่น้ำวังโตนด-อ่างเก็บน้ำประแสร์ เป็นระบบสูบผันน้ำขนาดใหญ่ ที่ประกอบด้วยเครื่องสูบน้ำขนาด 0.625 ล้านลูกบาศก์เมตร/วินาที จำนวน 9 เครื่อง (สูบ 8 สำรอง 1) โดยมีท่อขนาด 1.80 เมตร ความยาว 45.7 กิโลเมตร สูบผันน้ำจากสถานีสูบน้ำบ้านวังประดู่ ตำบลสามพี่น้อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี เติมลงสู่อ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมาได้รับน้ำใจจากชาวลุ่มน้ำวังโตนดและชาวจังหวัดจันทบุรี แบ่งปันน้ำไปให้ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ทำให้สามารถเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำประแสร์ในช่วงวันที่ 1-25 มีนาคม 2563 ได้ปริมาณน้ำ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยเหลือวิกฤติฤดูแล้งที่ผ่านมาให้ผ่านพ้นไปได้
อย่างไรก็ดี สำหรับการสูบผันน้ำส่วนเกินที่ไหลทิ้งทะเลในคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี มาเก็บในอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง สำรองน้ำเฉพาะกิจ ฤดูฝน ปี 2563 ระหว่าง กรมชลประทาน และคณะทำงานลุ่มน้ำแม่น้ำวังโตนด เป็นการบำรุงรักษาระบบสูบผันน้ำขนาดใหญ่ให้มีความมั่นคง และป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำวังโตนดอันเกิดจากน้ำส่วนเกินที่จะไหลลงสู่แม่น้ำวังโตนดและสูญเสียลงสู่ทะเล เพื่อให้เกิดประโยชน์ของทรัพยากรน้ำอันสูงสุด จึงได้เกิดความเข้าใจร่วมกันให้ดำเนินการสูบผันน้ำส่วนเกินที่ไหลลงสู่แม่น้ำวังโตนด มาเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำประแสร์ เพื่อสร้างความมั่นคงสำรองน้ำในช่วงฤดูฝนเป็นต้นทุนในการบริหารจัดการน้ำในปีต่อไป
Related