SoftBank ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของญี่ปุ่น จำต้อง ‘ลดหนี้-เพิ่มเงินสด’ เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาขาดทุนถึง 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.1 เเสนล้านบาท) เนื่องจากการลงทุนอย่างหนักในธุรกิจสตาร์ทอัพทั่วโลก ซึ่งต่างก็ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และก่อนหน้าก็ต้องเจ็บจาก ‘WeWork’ อดีตสตาร์ทดาวรุ่งผู้ให้บริการ Co-Working Space จนต้องทำให้ SoftBank ต้องขายหุ้นบางส่วนใน T-Mobile มูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ล่าสุด SoftBank ก็ได้ปิดดีลขาย ‘ARM’ ผู้ผลิตชิปสัญชาติอังกฤษให้กับ ‘Nvidia’ บริษัทผลิตการ์ดจอ (GPU) เกมคอมพิวเตอร์และรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ในมูลค่าสูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.2 ล้านล้านบาท) ซึ่งถือเป็นดีลเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
โดยดีลนี้จะช่วยให้ Nvidia กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอุปกรณ์เชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, พีซี, หุ่นยนต์และ 5G เนื่องจาก ARM เป็นผู้ผลิตชิปเซ็ตบนสมาร์ทโฟนและพีซีไม่ว่าจะเป็น Apple, Samsung รวมถึง Qualcomm และชิป Snapdragon ต่างถูกออกแบบบนสถาปัตยกรรมของ ARM ทั้งหมด
ทั้งนี้ ย้อนไปเมื่อปี 2016 หรือ 4 ปีก่อน SoftBank ได้เทกโอเวอร์ ARM ในมูลค่าสูงถึง 3.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (9.7 แสนล้านบาท) ซึ่งถือเป็นการครอบครองบริษัทจากต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดโดยบริษัทญี่ปุ่นในเวลานั้น และหลังจากที่ SoftBank ปิดดีลดังกล่าวได้ ส่งผลให้หุ้น SoftBank ในโตเกียวเติบโตเกือบ 9%