สตาร์บัคส์ (ประเทศไทย) เปิดตัวเมนูเครื่องดื่มและแซนด์วิชที่ทำจากพืช (Plant-based) เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาทางเลือกทดแทนเนื้อสัตว์ พร้อมยกระดับ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ ในรูปแบบใหม่ โดยตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2563 นี้เป็นต้นไป ร้านสตาร์บัคส์ทั่วประเทศ จะมีนมข้าวโอ๊ต เพื่อเป็นทางเลือกทดแทนนมวัว ให้ลูกค้าสามารถเลือกสรร (customize) เครื่องดื่มสตาร์บัคส์แก้วโปรดให้เป็นเมนูที่ทำจากพืช ตามความชอบและไลฟ์สไตล์ในการบริโภค ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ มุ่งมั่นที่จะรังสรรค์ผลิตภัณฑ์และเมนูที่ทำจากพืชให้มีความหลากหลายอย่างต่อเนื่อง ตามเจตนารมย์ของสตาร์บัคส์ทั่วโลกในการเป็นบริษัทที่ใช้ทรัพยากรในเชิงบวก (resource positive) อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองเทรนด์ของผู้บริโภคในประเทศไทย ที่หันมาใส่ใจสุขภาพ และเลือกรับประทานเมนูที่ทำจากพืชมากขึ้น
เมนูเครื่องดื่มใหม่ที่ทำจากพืช ได้แก่ โอ๊ตมิ้ลค์ โกโก้ มัคคิอาโต้ (Oatmilk Cocoa Macchiato) กาแฟเอสเพรสโซ่ผสมผสานกับนมข้าวโอ๊ต เพิ่มความอร่อยด้วยเลเยอร์ของซอสมอคค่า และผงโกโก้ที่โรยด้านบน มีให้เลือกทั้งแบบร้อน เย็น และแบบปั่น นอกจากนี้ ยังมี โอ๊ตมิ้ลค์ ทีวาน่า เพียว มัทฉะ ลาเต้ (Oatmilk Teavana™ Pure Matcha Latte) เครื่องดื่มชาเขียวยอดนิยม ที่กลับมาให้ลิ้มลองอีกครั้งในรูปแบบ Plant-based เครื่องดื่มนี้ ทำจากใบมัทฉะแท้บดละเอียดที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและนมข้าวโอ๊ตที่ผ่านการสตีม ให้รสชาติชาเขียวแท้ๆ ที่กลมกล่อม สามารถเลือกแบบร้อน หรือเย็น พร้อมเลือกระดับความหวานได้ตามต้องการ นอกจากนี้ นอกจากนี้ เรายังมี บียอนด์มีทแซนด์วิช (Beyond Meat Sandwich) แซนด์วิชที่ไส้ทำจากโปรตีนพืช ประกอบกับขนมปังเซียบาต้า ซอสเทาซันด์ไอแลนด์ และเชดดาร์ชีส
คุณเนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “สตาร์บัคส์ มีความยินดีที่ได้เปิดตัวเมนูที่ทำจากพืช เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าในประเทศไทย เราภูมิใจที่ลูกค้าทุกท่านสามารถ customize เครื่องดื่มแก้วโปรดได้ตามความชอบ และความต้องการทางโภชนาการต่อเนื่องมาตลอด และจากวันนี้ไป ลูกค้าสามารถเลือกรังสรรค์เครื่องดื่มแก้วโปรดคู่กับนมวัว หรือนมที่ทำจากพืช (ได้แก่ นมถั่วเหลืองและนมข้าวโอ๊ต) นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกปรับรสชาติของเครื่องดื่ม และเพิ่มท็อปปิ้งต่างๆ ได้ตามต้องการอีกด้วย ทั้งนี้ ความมุ่งมั่นในเรื่องความยั่งยืนของเรา ประกอบกับเทรนด์ของผู้บริโภคในประเทศไทย ที่หันมาดูแลสุขภาพและใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้เราได้พัฒนาเมนูเครื่องดื่มและอาหารที่ทำจากพืชแสนอร่อยขึ้นมา และเราเชื่อมั่นว่าการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเป้าหมายที่เราทุกคนทำได้ร่วมกัน ทั้งกับพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) และลูกค้าของเรา”