“แฟลช เอ็กซ์เพรส” ตอบแทนลูกค้าครั้งใหญ่ส่งท้ายปลายปี ทุ่มงบการตลาดกว่า 100 ล้านบาท อัด 3 โปรโมชั่น “ปรับฐานราคาใหม่เริ่มต้น 18 บาท – เสาร์-อาทิตย์ เริ่มต้น 9.9 บาท , ปรับวิธีคำนวณค่าส่งใหม่ช่วยให้ประหยัดถึง 70%” หวังยอดส่งพัสดุเพิ่มทะลุ 2 ล้านชิ้นต่อวัน เพื่อขึ้นสู่ขนส่งเอกชนเบอร์ 1 ของตลาด
นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทยแบบครบวงจร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลามากกว่า 2 ปี ในการให้บริการ เราอยากขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ให้การสนับสนุน และไว้วางใจใน แฟลช เอ็กซ์เพรส มาโดยตลอด และเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าบริษัทฯ จึงได้ทุ่มงบการตลาดมากกว่า 100 ล้านบาท จัดโปรโมชั่นส่งท้ายปลายปี และยังเป็นการต้อนรับเทศกาลอีคอมเมิร์ซที่จะมาถึง เพื่อให้ลูกค้าได้มีความสุขกับการช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งในส่วนของโปรโมชั่นที่ แฟลช เอ็กซ์เพรส เตรียมส่งมอบความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าแบบจัดเต็มพร้อมกันทั่วประเทศ มีตั้งแต่ การปรับฐานราคาค่าจัดส่งพัสดุใหม่สุดคุ้มทุกวัน เริ่มต้นเพียง 18 บาท เมื่อส่งพัสดุในจังหวัดเดียวกันทั่วไทย เริ่มตั้งแต่ 1 กันยายนที่ผ่านมา, การส่งพัสดุสุดคุ้มX2 เพียง 9.9 บาท ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง วันที่ 1 พ.ย. 2020 และการปรับวิธีคิดคำนวนอัตราค่าบริการแบบใหม่ช่วยขยายความคุ้มค่าในการจัดส่งพัสดุเริ่มต้นที่ 0-3 กก.ลดสูงสุด 70% โดยพัสดุไซส์เล็กก็จะเป็นการคิดคำนวณจากน้ำหนักพัสดุอย่างเดียว
นายคมสันต์ ยังกล่าวเสริมท้ายว่า “แฟลช เอ็กซ์เพรส ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะเป็นผู้ให้บริการขนส่งเจ้าแรกเพียงเจ้าเดียวที่ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับต้นทุนการทำบริการที่สูงแค่ไหน บริษัทฯ จะยังคงนโยบาย “การเข้ารับพัสดุฟรีถึงหน้าบ้านตั้งแต่ชิ้นแรก (Door to door service) ตลอด 365 วัน ไม่บวกเพิ่ม ไม่มีขั้นต่ำ และไม่มีวันหยุด” และรับรองว่าไม่มีขนส่งเจ้าไหนกล้าทำอย่างแน่นอน และจากสถิติที่บริษัทฯได้รบรวมไว้พบว่าบริการรับฟรีถึงบ้านตั้งแต่ชิ้นแรกที่แฟลช เป็นผู้ริเริ่มสามารถช่วยให้ลูกค้าลดค่าเดินทางได้เฉลี่ย 30 บาท และยังประหยัดเวลาในการใช้ชีวิตได้กว่า 65 นาที จากการที่ไม่ต้องไปเข้าคิวส่งของ อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะยังคงรักษามาตรฐานเพื่อสร้างบริการที่ดี และไม่หยุดที่จะพัฒนาการบริการของเราให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ และในเร็วๆนี้บริษัทฯ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงวงการขนส่งไทยตลอดจนการคิดค้น และพัฒนา Platform การใช้งานในฟังก์ชั่นต่างๆ ที่จะสามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมของลูกค้าคนไทยได้อย่างครอบคลุมในระยะยาวต่อไป