“ดีป้า” นำร่องขับเคลื่อนยุคดิจิทัลด้วยพื้นฐานข้อมูล ช่วยผู้ประกอบการไทยวางแผนฟื้นธุรกิจ

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล หรือ “Digital Industry Sentiment Index” ชูการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลบนพื้นฐานของข้อมูล ผลสำรวจชี้ COVID-19 กระทบอุตสาหกรรมดิจิทัล ไม่น้อยกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ แม้การใช้งานดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดก็ตาม ในขณะที่ธุรกิจบริการดิจิทัล (Digital Services) เติบโตสวนทางกับตลาดฮาร์ดแวร์ที่กำลังดิ่งลงจากพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว ทั้งนี้จากดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยสอดคล้องกับอัตราการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม สะท้อนให้เห็นว่า กลไกต่างๆ กำลังเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และมีแนวโน้มที่จะเกิดอุตสาหกรรมใหม่ แต่ยังขาดกำลังคนดิจิทัลที่จะสร้างความได้เปรียบ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่าตามที่ได้รับมอบหมายจาก นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้ดีป้าเร่งพัฒนาข้อมูลต่างๆ เพื่อรุดหน้านำร่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลบนพื้นฐานของข้อมูลที่สร้างให้เกิดประโยชน์ต่อภาคเศรษฐกิจและประชาชนนั้น ดีป้าจึงได้เร่งดำเนินการทำสำรวจ Digital Industry Sentiment Indexซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสำรวจที่ดีป้าดำเนินการเพื่อให้เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลทั้งดัชนีชี้วัดระดับสากล และฐานข้อมูลที่ดีป้าสำรวจเอง ทั้งในฝั่งของผู้ประกอบการที่เป็นฐานข้อมูลและแนวโน้มอุตสาหกรรมดิจิทัล และความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลที่สำรวจและนำเสนอผลรายไตรมาสตลอดจนการสำรวจฝั่งผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรมโดยในระยะแรกมุ่งเน้นที่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการผลิตเป็นอันดับแรก และจะขยายผลไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ และภาคบริการต่อไปในอนาคตอันใกล้

“แนวโน้มดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลมีความสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งสามารถบ่งชี้ว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลและมีการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพราะดิจิทัลกลายเป็นปัจจัยสำคัญทั้งในการขับเคลื่อนธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน แต่อย่างไรก็ตามเรายังขาดแคลนเรื่องกำลังคนดิจิทัล ซึ่งเป็นแรงงานกลุ่มสำคัญในการสร้างความได้เปรียบ และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้อุตสาหกรรมดิจิทัลไทย กำลังคนดิจิทัลที่มีศักยภาพ ความสามารถสูง มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จะเข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยให้เติบโตในตลาดโลก บัณฑิตที่จบใหม่ ต้องพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงาน มีทักษะตามที่ตลาดแรงงานดิจิทัลต้องการ ทำงานได้ทันที จึงต้องมีการ Upskill หรือ Reskill ก่อนที่บัณฑิตเหล่านี้จะเข้าสู่ตลาด ดัชนีความเชื่อมั่นจึงเป็นเสียงสะท้อนว่านโยบายที่ภาครัฐใช้นั้นเกิดผลสำเร็จได้จริงหรือไม่ หากค่าดัชนีฯ ต่ำหมายถึง ภาคธุรกิจไม่มีความเชื่อมั่นในนโยบายของรัฐและการทำงานของภาครัฐ เพราะฉะนั้น ดัชนีฯ จึงเป็นเสียงสะท้อนโดยตรงจากผู้ประกอบการดิจิทัล” ผอ.ใหญ่ ดีป้า กล่าวเสริม

ทั้งนี้ในเชิงรายละเอียดจากการสำรวจพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล ในไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ระดับ 43.4 ถือว่าอยู่ในระดับต่ำ ชี้ว่า อุตสาหกรรมดิจิทัลก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลงอย่างรุนแรงในช่วงสถานการณ์ COVID-19 เช่นเดียวกับธุรกิจอื่น ๆ แม้ว่าในช่วง COVID-19 จะมีผู้ใช้ดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดก็ตาม แต่ผู้ประกอบการดิจิทัลส่วนใหญ่ระบุว่า COVID -19 ทำให้ผลประกอบการโดยรวมลดลง เนื่องจากขาดแคลนแหล่งเงินทุนสนับสนุนในการขับเคลื่อนธุรกิจผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขาดแคลนแรงงานที่ตรงกับสายงานที่กิจการต้องการ เป็นต้น

ต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3/2563 นี้ดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 49.8 เป็นผลมาจากรัฐบาลเพิ่งผ่อนคลายมาตรการการควบคุมโรค COVID-19 และเร่งฟื้นฟูธุรกิจหลังจากผ่านวิกฤต COVID-19 ทำให้ผู้ประกอบการดิจิทัลเริ่มได้รับการจ้างดำเนินงานหรือมีโครงการต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้  COVID-19 เป็นตัวเร่งให้ทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานรัฐ และเอกชน ภาคการศึกษา นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้มากขึ้นเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจจึงส่งผลให้ผู้ประกอบการดิจิทัลมีผลประกอบการดีขึ้นแต่ยังไม่กลับสู่สถานการณ์ปกติคาดว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล จะปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่ที่ระดับ 61.2 เนื่องจาก COVID-19 เป็นตัวเร่งที่ทำให้ทุกภาคส่วนเริ่มใช้เทคโนโลยีดิจิทัลไม่ว่าจะเป็น Cloud Technology, Software, Social Media, Online Entertainment และ Online Payment มาปรับใช้ในการทำงานหรือเกิด Digital Transformation องค์กรมากขึ้น

นอกจากนี้ดีป้าได้ศึกษาเพิ่มเติมควบคู่กับ มูลค่าอุตสาหกรรมดิจิทัลปี 2561-2562 คาดการณ์ 3 ปี ชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์กำลังประสบปัญหา จากมูลค่าตลาดฮาร์ดแวร์มีแนวโน้มลดลง ฉุดรั้งให้มูลค่าตลาดฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะปรับตัวลดลงตามไปด้วยจาก 325,261ล้านบาทในปี 2561 เป็น 299,342 ล้านบาทในปี 2562 โดยปัจจัยหลักเกิดมาจากการบริโภคอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ลดลง และเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ในรูปแบบบริการมากขึ้น พร้อมทั้งแทนที่ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เข้าถึงบริการดิจิทัลมากขึ้นจากอุปกรณ์สื่อสาร ทำให้มูลค่าตลาดบริการดิจิทัลเติบโตขึ้นสวนทางกับตลาดฮาร์ดแวร์ที่มูลค่าตลาดลดลง แม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นจะบ่งชี้ว่า ในภาพรวมผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะก็ยังคงต้องอาศัยการขับเคลื่อนจากภาครัฐ ทั้งในด้านการด้านการแข่งขันทางด้านดีไซน์ การสร้างตลาดใหม่ของกลุ่มฮาร์ดแวร์ที่จะต้องผลักดันให้ผู้ประกอบการไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ผลิต แล้วส่งออก แต่ต้องมีตลาดภายในประเทศ

โดย ดร.ณัฐพล ได้กล่าวทิ้งท้ายในด้านการพัฒนากำลังคนดิจิทัลว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลจะสอดคล้องกับการจ้างงานที่ต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถในด้านดีไซน์ ด้าน Machine Learningและในการเพิ่มผลิตผลในอุตสาหกรรมดิจิทัลเพราะเกี่ยวข้องกับการลดต้นทุน ขณะเดียวกัน ทักษะแรงงาน ควรจะเป็นแรงงานที่มีทักษะ หรือความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น Data Analytic หรือ Data Engineering เป็นต้น

สำหรับรายงานผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล “Digital Industry Sentiment Index” ดีป้าได้เผยแพร่สู่สาธารณะ และเปิดให้เข้าถึงได้ผ่าน www.depa.or.th และ เพจเฟซบุ๊ก depaThailand สำหรับผู้ประกอบการและประชาชนที่สนใจได้นำข้อมูลดังกล่าวไปต่อยอดในการพัฒนาธุรกิจของตนเองได้ รวมถึงการสำรวจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมดิจิทัลในมิติต่าง ๆ ที่ ดีป้า ดำเนินการได้หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ ฝ่ายนโยบายและยุทธศาสตร์ ดีป้า

ข้อมูลเพิ่มเติม ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล

ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล หรือ Digital Industry Sentiment Index เป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการดิจิทัลในมิติต่างๆ เจาะลึกในด้านผลประกอบการ ด้านปริมาณการผลิต การค้า การบริหาร ด้านการจ้างแรงงาน ด้านต้นทุนประกอบการหรือการผลิต และด้านคำสั่งซื้อหรือโครงการที่ทำร่วมกับพันธมิตร จากผู้ประกอบการที่ได้ลงทะเบียนกับทาง ดีป้าทั้งผู้ประกอบการด้านซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ บริการดิจิทัล และดิจิทัลคอนเทนต์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดิจิทัล (Digital Provider) รวมถึงดิจิทัลสตาร์ทอัพที่เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย และผ่านการรับรองมาตรฐานสากล เช่น ISO/IEC29110 หรือ CMMI, ISO/IEC27001 แล้วทั้งสิ้น ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจจึงได้มาจากกลุ่มผู้ประกอบการตัวจริงและเชื่อถือได้ โดยดีป้าได้เริ่มทำการสำรวจความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลในช่วงไตรมาส 2/2563 ที่ผ่านมา