หนุ่มสาวบน Tinder จะทำความรู้จักกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้วยฟีเจอร์ Face to Face ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ “วิดีโอคอล” กับคู่แมตช์ภายในแอปฯ ได้เลย ทำให้ไม่ต้องให้ข้อมูลส่วนตัวในแอปฯ อื่นเพื่อติดต่อกัน และ Tinder เองจะได้เพิ่มระยะเวลาที่คนใช้แอปฯ มากขึ้นด้วย
Face to Face เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ Tinder เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 ก่อนในบางตลาด แต่ปัจจุบันได้เปิดให้ใช้แล้วทั่วโลก โดยเป็นฟีเจอร์สำหรับวิดีโอคอลระหว่างผู้ใช้ ช่วยให้ผู้ใช้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้นและใกล้ชิดขึ้น โดยไม่ต้องขอแลกข้อมูลส่วนตัวเพื่อไปใช้บริการนี้ที่แอปฯ อื่น
ทั้งนี้ Tinder ระบุว่าแอปฯ ตระหนักถึงด้านมืดของคนที่เข้ามาใช้บริการแอปฯ หาคู่เดต ดังนั้น วิดีโอคอลฟีเจอร์ใหม่นี้ได้ถูกพัฒนาโดยทีมความเชื่อมั่นและปลอดภัย เพื่อให้แน่ใจว่าฟีเจอร์จะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง
ดังนั้น วิธีใช้งาน Face to Face คือผู้ใช้ต้อง “แมตช์” กันบนแอปฯ ก่อนเท่านั้น จากนั้นต้องเลือกเปิดใช้ฟีเจอร์นี้กันทั้งคู่จึงจะสามารถโทรฯ หากันได้ และผู้ใช้สามารถกดรายงานอีกฝ่ายได้ถ้ามีการโทรฯ หาบ่อยครั้งโดยไม่ต้องการ หรือมีพฤติกรรมที่เป็นอันตราย
นอกจากนี้ ก่อนจะเริ่มวิดีโอคอล Tinder ยังมีกฎ 3 ข้อแนะนำให้ปฏิบัติตามแจ้งเตือนขึ้นมาคือ 1)ไม่แสดงภาพอนาจาร 2)ไม่แสดงความรุนแรงทั้งทางวาจาและภาพ 3)ระมัดระวังไม่ให้มีผู้เยาว์ปรากฏบนภาพ
“เราตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันฟีเจอร์ Face to Face นี้กับผู้ใช้ทั่วโลก หลังจากได้ผลตอบรับเชิงบวกจากสมาชิกในพื้นที่ที่เรานำร่องให้บริการก่อน” Rory Kozoll หัวหน้าฝ่ายความเชื่อมั่นและปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ Tinder กล่าว
ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ที่ผู้คนส่วนใหญ่บนโลกยังออกไปเดตในชีวิตจริงลำบาก น่าจะเป็นจังหวะที่ถูกต้องของ Tinder ในการออกฟีเจอร์วิดีโอคอล เพราะอย่างน้อยทำให้ได้เห็นหน้าค่าตาและน้ำเสียงจริงได้
และแม้ว่าโลกจะวิกฤต แต่ดูเหมือนผู้บริโภคยังต้องการใครสักคนข้างกาย เพราะจากสถิติโดย AppAnnie พบว่า Tinder ยังคงเป็นแอปฯ เบอร์ต้นๆ ที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดติดเครื่องในกลุ่มแอปฯ ประเภทไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่ง Tinder เป็นแอปฯ ที่ถูกดาวน์โหลดมากเป็นอันดับ 3 บนระบบ iOS