“กิมไป๊ ลามิทิวบ์” เดินหน้าดัน “หลอดลามิเนตนวัตกรรมใหม่รีไซเคิล 100%”

บริษัท กิมไป๊ ลามิทิวบ์ จำกัด เดินหน้าลุยเต็มกำลังผลิต “หลอดลามิเนตนวัตกรรมใหม่รีไซเคิลได้ 100%” เพื่อธุรกิจ FMCG (เอฟเอ็มซีจี) หลังคว้าใบรับรองมาตรฐานเป็นลำดับที่ 5 ของโลกจากองค์กร APR (The Association of Plastic Recyclers) หรือสมาคมผู้รีไซเคิลพลาสติกของอเมริกา และเป็นบริษัทเดียวในไทยที่ได้มาตรฐานนี้มั่นใจในด้านการผลิตและมีศักยภาพในการผลิตบรรจุภัณฑ์หลอดลามิเนตเพื่อแข่งขันบนตลาดโลกไปพร้อมเทรนด์ผู้บริโภครักษ์โลกที่เพิ่มมากขึ้น

นางสาวสุรัชนี ลิ่มอติบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท กิมไป๊ ลามิทิวบ์ จำกัด กล่าวว่า “เราเป็นบริษัทในเครือกิมไป๊กรุ๊ป ที่ผลิตแพคเกจจิ้งครบวงจรมากว่า 80 ปี โดยในส่วนของกิมไป๊ลามิทิวบ์เองดำเนินธุรกิจมา 30 ปีปัจจุบันตั้งอยู่ใน 4 แห่งได้แก่ไทย, เวียดนาม, สโลวีเนียและอินโดนีเซีย โดยเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ประเภทหลอดลามิเนต อาทิยาสีฟัน ครีมนวดผม ครีมล้างหน้า ให้กับผลิตภัณฑ์ของแบรนดนด์ระดับโลกหลายแบรนด์ และยังส่งออกไปยังกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจุดแข็งของเราคือการไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่เรามีการ R&D อยู่เสมอทำให้ได้ Innovation (นวัตกรรม) ใหม่ๆ และสินค้าที่มีคุณภาพทำให้เป็นที่รู้จักของคู่ค้าทั่วโลกว่าสินค้าแพคเกจจิ้งเรามีคุณภาพ เพราะความสำคัญที่สุดของแพคเกจจิ้งคือการดูแลปกป้องผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายในได้ โดยจะต้องมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายในไม่แปรสภาพและยังสามารถมี shelflife ที่ยาวนานโดยจะต้องป้องกันออกซิเจนไม่ให้เข้าไปทำปฏิกิริยาและไม่ให้น้ำซึมผ่านได้ ซึ่งเดิมการผลิตหลอดยาสีฟันปกติจะต้องมีฟอยล์ด้านในเพื่อให้มั่นใจว่า ออกซิเจนจะไม่ไปทำปฏิกิริยากับผลิตภัณฑ์ภายใน ซึ่งปัจจุบันเราได้พัฒนาหลอดดังกล่าวให้เป็น mono material แล้ว”

นางสาวสุรัชนี กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากการที่หลอดยาสีฟันมีการบรรจุฟอยล์ด้านในทำให้ไม่สามารถรีไซเคิลได้ เราจึงพยายามหานวัตกรรมใหม่เพื่อมาทดแทนของเดิม และต้องสามารถรีไซเคิลได้ 100% เพื่อให้เกิด Circular Economy คือการนำของที่ผลิตแล้วสามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่และไม่เกิดของเสียในระบบ เราจึงคิดค้นนวัตกรรมการผลิตหลอดลามิเนตที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ 100% โดยกิมไป๊ ลามิทิวบ์เป็นบริษัทผู้ผลิตหลอดลำดับที่ 5 ของโลกและเป็นรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจากสมาคมผู้รีไซเคิลพลาสติกหรือ APR (The Association of Plastic Recyclers) โดยกระบวนการผลิตของเราจุดเปลี่ยนค่อนข้างมากจากเดิมที่มีการใช้ส่วนประกอบหลายชนิด ทั้งพลาสติกและฟอยล์ ให้กลายเป็น mono materials คือการใช้วัสดุชนิดเดียวซึ่งเราใช้พลาสติกประเภท High density polyethylene (HDPE) หรือที่เรียกในกลุ่มรีไซเคิลคือพลาสติกประเภท 2 นอกจากนั้นบริษัทฯยังมองเห็นถึงในแง่องค์รวมของกระบวนการ 3R ที่รวมไปถึงการRecycle (รีไซเคิล), Reuse (รียูส) และ Reduce (รีดิวซ์) อีกด้วย”

“การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ บริษัทฯ มองว่า พฤติกรรมผู้บริโภคอนาคตที่จะเปลี่ยนไปสืบเนื่องจากเทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมกันเพิ่มมากขึ้น โดยแบรนด์ระดับโลกก็มีความตั้งใจในการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2025 ซึ่งทางบริษัทฯเองมองว่า นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแต่การจะทำให้เกิดการรีไซเคิลเกิดขึ้นได้จริงต้องมีส่วนภาครัฐและเอกชนที่ทำหน้าที่แยกขยะ รวมไปถึงการให้ความรู้กับประชาชนทั่วไป ให้มีความเข้าใจมากพอที่จะแยกขยะประเภทต่างๆ เพื่อเกิดการนำไปรีไซเคิลต่อได้”นางสาวสุรัชนีกล่าวทิ้งท้าย