“อาลีบาบา” กวาดรายได้ 11.11 ปีนี้ 11 วัน ทะลุ 1.7 ล้านล้านบาท การใช้จ่ายฟื้นตัวหลัง COVID-19

อาลีบาบา เปิดตัวมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ปี 2563 ในช่วงที่สองเมื่อเวลาเที่ยงคืน ของวันที่ 11 พฤศจิกายน โดยมหกรรม 11.11 ในปีนี้ได้ขยายเวลาจัดงานเป็น 11 วัน ทำยอดขายรวมทะลุ 350,000 ล้านหยวนแล้ว และจัดขึ้นในสภาพเศรษฐกิจ และธุรกิจค้าปลีกของจีนที่กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ขาย และกระตุ้นการบริโภคให้เพิ่มขึ้น

สำหรับอาลีบาบา มหกรรม 11.11 ถือเป็นงานสำคัญที่จะช่วยยกระดับ และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของบริษัท รวมทั้งเป็นสนามจริงในการนำความสามารถใหม่ๆ มาทดลองใช้ ในแต่ละปีทั้งแบรนด์ ร้านค้า ผู้บริโภค และพันธมิตรในระบบนิเวศของเศรษฐกิจดิจิทัลของอาลีบาบา ได้มารวมกันในงานนี้เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่สูงขึ้น โดยไฮไลต์ของงานในปีนี้ ได้แก่

  • มหกรรม 11.11 ในปีนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 11 วัน
  • โดยเมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 11 พฤศจิกายน ยอดขายรวมทุกหมวดหมู่ (GMV) ของงานทั้ง 11 วัน ได้ทะลุ 372,300 ล้านหยวน (ราว 1,710,065 ล้านบาท)
  • อาลีบาบาได้ช่วยให้แบรนด์และร้านค้า 250,000 ราย กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากผลกระทบของ COVID-19 ในประเทศจีน
  • สถิติคำสั่งซื้อสูงสุดต่อวินาที อยู่ที่ 583,000 รายการต่อ 1 วินาที สะท้อนถึงความยืดหยุ่น และแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของอาลีบาบา ในการรองรับปริมาณคำสั่งซื้อมหาศาลได้เป็นอย่างดี
  • ยอดขายรวมทุกหมวดหมู่ (GMV) ของมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 เป็นมูลค่ารวมทั้งหมดของคำสั่งซื้อที่ชำระเงินผ่านอาลีเพย์ ในการซื้อสินค้าจากมาร์เก็ตเพลสของอาลีบาบาในจีน, เคาล่า (Kaola), ลาซาด้า, อาลีเอ็กซ์เพรส, New Retail และแพลตฟอร์มบริการสำหรับผู้บริโภค
  • โดยนับยอดขายตั้งแต่วันที่ 1-11 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งรายงานแบบเรียลไทม์ และนับรวมค่าจัดส่ง (ถ้ามี)

 ยังมีตัวเลขที่น่าสนใจเพิ่มเติม ดังนี้

  • 342 แบรนด์ทำยอดขายจากทุกช่องทางทะลุ 100 ล้านหยวน และมี 13 แบรนด์ที่ทำยอดขายจากทุกช่องทางได้เกิน 1,000 ล้านหยวน โดยนับยอดขายระหว่างเวลา 00.00 น วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึงเวลา 00.35 น วันที่ 11 พฤศจิกายน
  • แบรนด์ที่มียอดขายเกิน 100 ล้านหยวน เช่น แอปเปิล, ลอรีอัล, ไฮเออร์, เอสเต้ ลอเดอร์, ไนกี้, หัวเว่ย, ลังโคม, เสียวหมี่ และอาดิดาส

สินค้าสุขภาพนำเข้า ได้รับความนิยมสูงเป็นพิเศษ  

  • หมวดหมู่ของสินค้านำเข้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อุปกรณ์ดูแลผิวหน้า นมผงสำหรับทารกและเด็ก ชุดบำรุงผิวหน้า และแผ่นมาสก์หน้า โดยนับยอดขายระหว่างเวลา 00.00 น วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึงเวลา 09.00 น วันที่ 11 พฤศจิกายน
  • แบรนด์สินค้านำเข้าที่มียอดขายสูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ YA-MAN, Aptamil, Swisse, KAO, ชิเซโด้, A.H.C, SmoothSkin, a 2, Bio Island และเอ็มโพริโอ อาร์มานี โดยนับยอดขายระหว่างเวลา 00.00 น วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึงเวลา 09.00 น วันที่ 11 พฤศจิกายน

สร้างโอกาสให้แบรนด์ใหม่ๆ และสินค้าเกษตร

  • มีแบรนด์ใหม่ 357 แบรนด์ที่ทำยอดขายได้สูงสุดในหมวดหมู่ของตนเอง จากสถิติยอดขายรวมทุกช่องทางตั้งแต่เวลา 00.00 น วันที่ 1 พฤศจิกายน จนถึงปัจจุบัน มีแบรนด์ใหม่ 1,800 แบรนด์ทำยอดขายได้มากกว่ายอดขายรวมที่ทำได้ในงาน 11.11 ปีที่ผ่านมา และมี 94 แบรนด์ใหม่มียอดขายเติบโตเกิน 1,000%
  • ในมหกรรม 11.11 ปีนี้มีร้านค้าและผู้ขายมากกว่า 300,000 รายที่มาจากประเทศยากจน โดยระหว่างวันที่ 1-10 พฤศจิกายน ยอดขายรวมจากทุกช่องทางของผู้ขายเหล่านี้เติบโตขึ้น 74% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในจำนวนนี้มีผู้ขาย 52 รายที่ทำยอดขายได้สูงกว่าปีที่แล้วถึง 122%