สยามพิวรรธน์ เสริมทัพปรับองค์กร สู่การนำเสนอสุดยอดประสบการณ์ดิจิตอล เชื่อมโลกทุกมิติ

บุคคลในภาพ (จากซ้ายไปขวา)

  1. คุณอริยะ พนมยงค์ ผู้นำทัพการเปลี่ยนแปลงด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (นั่ง)
  2. คุณ มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายส่งเสริมการตลาดและองค์กรสัมพันธ์ (นั่ง)
  3. คุณอุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าปลีก สยามพิวรรธน์  (ยืน)
  4. คุณ อัมพร โชติรัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่สายสนับสนุนธุรกิจ (นั่ง)
  5. คุณ แคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ (ยืน)
  6. คุณ นางกนกลดา ฤกษ์เกษม กรรมการผู้จัดการใหญ่สายพัฒนาธุรกิจและบริหารการเงิน (นั่ง)
  7. คุณ ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์  (นั่ง)

  • ดึงบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี “อริยะ พนมยงค์” สร้างประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ผ่านช่องทางออมนิชาแนล (Omni Channel) แบบไร้รอยต่อ
  • ปรับโครงสร้างองค์กร ประกาศแต่งตั้ง 2 แม่ทัพหญิงดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ เดินหน้ากลยุทธ์ “สร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่ายสู่ความยั่งยืน”
  • ดึงคนรุ่นใหม่ สร้างทีมงานขับเคลื่อนธุรกิจอย่างรวดเร็ว ร่วมกับพันธมิตร คู่ค้า พร้อมตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของโลก

สยามพิวรรธน์ก้าวข้ามการแข่งขันจากภายในประเทศสู่เวทีโลก จากการคว้ารางวัลชนะเลิศหลายสาขาของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกของโลกติดต่อกันหลายปี

จนได้รับการยอมรับจากพันธมิตรทางธุรกิจ องค์กรชั้นนำระดับสากล โครงการทั้งหมดของสยามพิวรรธน์สร้างความประทับใจให้แก่ผู้คนที่เดินทางมาจากทั่วโลกจนกลายเป็นจุดหมายปลายทางในสิบอันดับแรกที่มีคนมาเช็คอินบนเฟสบุค และอินสตาแกรมมากที่สุดแห่งหนึ่ง  

ในวันนี้ สถานการณ์โควิด-19 มิใช่อุปสรรค แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนและขับเคลื่อนให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อขยายการขายและบริการครอบคลุมถึงลูกค้าปัจจุบันที่มีอยู่แล้วทั่วประเทศและทั่วโลก  

 นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์

กรุงเทพฯ (16 พฤศจิกายน 2563) – บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ “ไอคอนสยาม” และสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต  ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย ประกาศปรับโครงสร้างองค์กร ดึงบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการสร้างประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ผ่านช่องทางออมนิชาแนล (Omni Channel) แบบไร้รอยต่อ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ “สร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่ายสู่ความยั่งยืน” แต่งตั้ง 2 แม่ทัพใหญ่ ผนึกกำลังคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมกันขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จที่มากกว่าเดิม และดึงคนรุ่นใหม่จากหลากหลายสายงานมาสร้างทีมงานย่อยที่เน้นกระบวนการคิดและทำงานรวดเร็วอย่างมีอิสระเสรี (Agile Team) พร้อมปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความคล่องตัว และเร็วต่อการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า การทำธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 คือ การบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในเรื่องความต้องการของลูกค้าของเราทั้งในประเทศและที่เคยเดินทางมาเยี่ยมเยือนโครงการของเราจากทั่วโลก (Global Citizen) บริหารความคาดหวังจากบรรดาร้านค้า และพันธมิตรทางธุรกิจที่เราจะต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความสำเร็จในรูปแบบใหม่ๆร่วมกัน  จึงนับเป็นโอกาสที่ทำให้เราเร่งปรับและพัฒนาองค์กรให้สำเร็จในปีนี้ เพื่อให้บรรดาบุคลากรทั้งหมดสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ  เราเชื่อว่าในที่สุดสถานการณ์โควิด-19 จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ที่ทุกคนจำเป็นต้องออกมาใช้ชีวิตตามปกติอย่างมีวินัย  และผู้คนจากทั่วโลกยังต้องเชื่อมโยงเข้าหากัน  สยามพิวรรธน์จึงต้องเร่งปรับเปลี่ยนองค์กร เพื่อทำให้เกิดผลงานได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์

ท่ามกลางความท้าทายนี้ สยามพิวรรธน์ได้พัฒนาโครงสร้างสู่การเป็นองค์กรที่นำเสนอประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ผ่านช่องทางออมนิชาแนล (Omni Channel) ที่ขยายเครือข่ายบนแพลทฟอร์มต่างๆให้เข้าถึงตัวลูกค้าทั่วประเทศและทั่วโลกแล้วเชื่อมโยงกลับมาที่สินค้าและบริการในศูนย์การค้า  รวมทั้งการพัฒนาระบบอัตโนมัติ (Automation)  ในการบริหารจัดการและการให้บริการ  โดยได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกแห่งหนึ่งมาจัดแผนงานเรื่องนี้โดยเฉพาะ อีกทั้งเสริมทีมงานโดยมีผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าด้านเทคโนโลยี ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย คือ นายอริยะ พนมยงค์ อดีต Head ของ Google ประเทศไทย , อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท  LINE  ประเทศไทย และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Transformational  ที่จะเข้ามาเป็นผู้นำทัพการเปลี่ยนแปลงด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital transformation) ให้กับสยามพิวรรธน์ในครั้งนี้

นางชฎาทิพ กล่าวว่า  “บริษัทที่ปรึกษาดังกล่าวจะนำความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลออมนิชาแนลและประสบการณ์จากการให้คำแนะนำแก่บริษัท Fortune Global 500 มากมาย มาสนับสนุนให้สยามพิวรรธน์บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้นำออมนิชาแนลที่โดดเด่นในประเทศไทย และภูมิภาคในอนาคต และในส่วนของ คุณอริยะ พนมยงค์ ซึ่งเคยเป็นผู้นำในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก รวมทั้งมีประสบการณ์ที่กว้างขวาง เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและโซเชียล จะมาสนับสนุนสยามพิวรรธน์ในการขับเคลื่อน และสร้างมิติใหม่ในการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

นายอริยะ พนมยงค์ กล่าวว่า “ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส และในเวลานี้ สยามพิวรรธน์พร้อมที่จะเริ่มสร้าง และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจในครั้งนี้  ยังมีโอกาสอีกมากมายสำหรับการเติบโตในตลาดการค้า และ E-Commerce  ที่มีพื้นที่เพียง 6 % ของอุตสาหกรรมค้าปลีก แต่ทั้งนี้เป้าหมายหลักของเรายังคงเป็นการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและไม่ซ้ำใคร การปรับเปลี่ยนของสยามพิวรรธน์ในครั้งนี้จะนำไปสู่ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบเพื่อสร้างสุดยอดประสบการณ์ดิจิทัลแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยการนำนวัตกรรม และ Data Powered Marketing เพื่อการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ลึกขึ้น  มาสร้างเป็นแพลตพอร์มใหม่ที่จะตอบโจทย์ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้คนจากทั่วโลก

นางอัมพร โชติรัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เสริมว่า “ใน 3 ปีที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์ ได้ใช้เงินไปประมาณ 900 ล้านบาท ในการพัฒนาระบบนวัตกรรม Digital Platform และระบบบริหารฐานข้อมูลอย่างครบวงจร โดยมีแผนที่จะลงทุนต่อเนื่องในปี 2564 เพื่อพัฒนาระบบอัตโนมัติ 30 โครงการ (Automation) เพื่อลดขั้นตอนการทำงานของพนักงานในการให้บริการเรื่องต่างๆ ลดขั้นตอนการอนุมัติที่ซับซ้อน ผลักดันให้ทุกคนทำงานได้สำเร็จเร็วขึ้น”

กลยุทธ์สำคัญในการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลของสยามพิวรรธน์ คือการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายรายที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลต่างๆ ให้เกิดธุรกิจโมเดลใหม่ๆ อีกทั้งทำงานร่วมกับ Global Partners ที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค้าปลีกในประเทศต่างๆในการร่วมกันขยายเครือข่าย Omni Channel ให้ครอบคลุมทุกมิติได้ทั่วโลก อีกทั้งมุ่งสร้างช่องทางของการจัดจำหน่ายใหม่ๆ ที่จะสร้างประสบการณ์ที่น่าสนุก แตกต่างและประทับใจ ร่วมกับบรรดาคู่ค้าและร้านค้าที่มีอยู่ในศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์ อย่างไร้พรมแดน

นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ ยังได้ปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลตามกลยุทธ์ พร้อมประกาศแต่งตั้ง นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์  รับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ (President) สายส่งเสริมการตลาดและองค์กรสัมพันธ์  รับผิดชอบในการมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าทั่วโลก พร้อมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและนอกประเทศเพื่อสร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่จะประสานประโยชน์ร่วมกันได้ในหลากหลายวิถีทาง และได้แต่งตั้ง นางแคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ รับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ (President)   สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ รับผิดชอบในการยกระดับการขายเชื่อมโยงออฟไลน์สู่ออนไลน์ให้กับบรรดาร้านค้าเพื่ออำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยจากฐานลูกค้าของสยามพิวรรธน์ที่มีอยู่แล้วทั่วโลก ซึ่งทั้ง 2 ท่านจะเสริมทัพผู้บริหารระดับสูงที่ดูแลด้านอื่นๆ อยู่แล้ว ได้แก่ นางอัมพร โชติรัชสกุล ซึ่งรับผิดชอบหน่วยงานสนับสนุนทั้งหมดของสยามพิวรรธน์ และทำ Digital Transformation นางกนกลดา ฤกษ์เกษม รับผิดชอบในเรื่องบริหารการเงินและการขยายการลงทุน  และ นางอุสรา ยงปิยะกุล  ที่รับผิดชอบในการดำเนินการและบริหารกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของบริษัทในเครือรวมถึงการขายออนไลน์

เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปการบริหารจัดการในยุคที่ความเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สยามพิวรรธน์ได้จัด Agile Team  คนรุ่นใหม่ และสร้างหน่วยงาน Think Tank เข้าทำงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูง ให้เป็นทีมงานที่จะรับผิดชอบหลากหลายโปรเจ็คในการพัฒนาธุรกิจของบริษัท และทำงานร่วมกับบรรดาร้านค้า พันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างโมเดลในการขายใหม่ๆให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมเป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้แสดงศักยภาพเต็มที่เพื่อช่วยขับเคลื่อนองค์กร และส่งผลให้รายได้เติบโตในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย

การจัดโครงสร้างใหม่ภายใต้การบริหารของกรรมการผู้จัดการใหญ่ทั้ง 5 ท่าน ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในวงการค้าปลีกจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจในเครือของสยามพิวรรธน์ทั้งหมดมีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน  ส่วน Agile Team คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถหลากหลาย มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทีมนี้จะทำหน้าที่มองหาโอกาส และนำแนวความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ที่เกิดในโลกดิจิทัล มาช่วยพัฒนาและต่อยอดให้องค์กรสามารถมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่เหนือความคาดหมาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจากทั่วโลกได้อย่างเต็มที่”  นางชฎาทิพ กล่าวปิดท้าย

 สยามพิวรรธน์ยังมีแผนที่จะปรับปรุง 3 ศูนย์การค้าในเครือ ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ในปี 2564-2565  ด้วยการปรับคอนเซ็ปต์การนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ผ่านช่องทางออมนิชาแนลทั่วทุกอาคาร เพื่อสร้างสุดยอดประสบการณ์ และทำให้ผู้คนจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงประสบการณ์ต่างๆได้ตลอดเวลา