Big Move! “วานา นาวา หัวหิน” ควง “เป๊ปซี่” คู่หูคนใหม่ ระเบิดศึกอีเวนต์ เนรมิต “หัวหิน” ให้คึกคัก


เป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของสวนน้ำ “วานา นาวา หัวหิน” กับ “เป๊ปซี่” เป็นพาร์ทเนอร์ด้านกลยุทธ์ที่สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ ประเดิมงานอีเวนต์ พร้อมสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์ที่หลากหลาย เพื่อเนรมิตเมืองหัวหินให้กลับมาคึกคัก

ผนึกกำลัง “เป๊ปซี่” สร้างความท้าทายบทใหม่

ถ้าเอ่ยชื่อ “หัวหิน” แน่นอนว่าต้องเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของคนไทยที่นึกถึงเมื่อยามที่ต้องการพักผ่อน เพราะด้วยการเดินทางสะดวก ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่กี่ชั่วโมง อีกทั้งยังมีบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้หัวหินกลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของใครหลายๆ ใครหลายๆ คน

ปัจจุบันหัวหินขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีโครงการใหม่ๆ ผุดขึ้นมากมาย ไม่ได้มีเพียงแค่ทะเลอย่างเดียวเท่านั้น มีสวนน้ำขนาดใหญ่ “วานา นาวาวอเตอร์ จังเกิ้ลหัวหิน” และเมื่อไม่กี่ปีมานี้ได้มี “ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ท มอลล์” รวมไปถึง “ทรู อารีน่า” ทำให้หัวหินมีกิจกรรมที่ครบวงจรได้เลยทีเดียว

“กลุ่มบริษัทพราว”หรือ “พราว กรุ๊ป” เป็นผู้พัฒนาโครงการใหญ่ๆ ของเมืองหัวหิน ได้แก่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท,โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ต วานา นาวา หัวหิน,สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์จังเกิ้ลหัวหิน, ศูนย์กีฬาครบวงจรทรู อารีน่า หัวหิน และศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ท มอลล์

แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้การท่องเที่ยวไม่ได้มีเพียงแค่การพักผ่อนอย่างเดียวเท่านั้น จำเป็นต้องมี “คอนเทนต์” อื่นๆ มาเสริม เพื่อสร้างประสบการณ์มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้กลุ่มบริษัทพราวได้เดินเกมรุกครั้งใหญ่ ประกาศดึง “เป๊ปซี่” เป็นพาร์ทเนอร์กับสวนน้ำ “วานา นาวา หัวหิน” เรียกว่าเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญทั้งในเชิงการตลาด และกลยุทธ์

พราวพุธ ลิปตพัลลภ  กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พราว กล่าวว่า

“กลุ่มบริษัทพราวรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป๊ปซี่มาร่วมเป็น Strategic Partnerจริงๆ แต่เดิมมีพาร์ทเนอร์หลายๆด้านทั้งทรูไทยประกันชีวิต และฮอนด้าแต่เชื่อว่าครั้งนี้ผนึกกำลังแข็งแกร่งกว่าเดิมเป็นความร่วมมือที่นอกเหนือจากในเรื่องของสินค้าแต่มีการทำการตลาด ทำอีเวนต์ต่างๆ ร่วมกันเพราะการทำการตลาดในยุคนี้ต้องเปลี่ยนไปผู้บริโภคต้องการหาประสบการณ์ในการพักผ่อนจริงๆ ซึ่งกลุ่มลูกค้าของทั้งสวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน และเป๊ปซี่เองก็เป็นกลุ่มที่ต้องการหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต เป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการหาประสบการณ์ไม่ซ้ำจากเดิม”

ทางด้านของ “ลัดดาวรรณ เลิศวศิน” ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดเครื่องดื่มเป๊ปซี่บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เสริมว่า

“ในส่วนของเป๊ปซี่ที่ได้ร่วมมือกับสวนน้ำวานานาวา วอเตอร์ จังเกิ้ลหัวหิน เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของหัวหิน เป็นสวนน้ำที่สำคัญของประเทศ ซึ่งหัวหินเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเป็น Top of Mind ที่ติด Top 5ของคนไทยที่จะเดินทางไปเที่ยว และจุดประสงค์ของเป๊ปซี่เองต้องการสร้างความสดชื่นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อีกทั้งกลุ่มเป้าหมายของเราก็มาพักผ่อนที่นี่เยอะ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน ครอบครัว เลยอยากสร้างความสดชื่นด้วยเป๊ปซี่ให้กับลูกค้า”

โดยทั้งคู่ได้บอกว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นพาร์ทเนอร์ในระยะยาว ซึ่งกลุ่มบริษัทพราวมีหลายโปรเจ็คต์ โครงการอสังหาริมทรัพย์ และโรงแรม แต่เริ่มต้นที่สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหินก่อน อาจจะมีโปรเจ็คต์อื่นๆ ตามมาอีกได้

บุกหนักอีเวนต์ สร้างสีสันให้หัวหินเป็นมากกว่าทะเล

การร่วมมือของทั้ง 2 ยักษ์ใหญ่ ประเดิมด้วยงานอีเวนต์ Glamping Festival ที่จัดไปเมื่อวันที่ 23-24 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ทรู อารีน่า ไม่ไกลจากสวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหินเท่าไหร่นัก ซึ่งงานนี้ไม่เชิงว่าเป็นงานคอนเสิร์ต แต่เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ อีเวนต์ที่รวบรวมความบันเทิงไว้ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น คอนเสิร์ต, ภาพยนตร์, Sneaker Market จาก atmos และทอล์กโชว์

พราวพุธได้บอกว่า “งานนี้เป็นอีเวนต์แรกที่จัดร่วมกับเป๊ปซี่ เป็นอีเวนต์ที่มีมาตรการ Social Distancing อย่างดี จัดเอาท์ดอร์ ตีตารางให้ผู้เข้าชมอย่างชัดเจน คอนเทนต์ภายในงานเป็นส่วนผสมของเอ็นเตอร์เทนเมนต์หลายๆ อย่าง ตอนนี้ต้องมองความต้องการผู้บริโภคที่แปลกใหม่ไม่ได้มองด้านเดียวอีกต่อไป เหมือนอย่างที่มาเที่ยวหัวหินไม่ได้มาเที่ยวสวนน้ำอย่างเดียว แต่มีอีเวนต์อยู่ด้วยทำให้การพักผ่อนสมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วย”

“สวนน้ำ” ยังได้ไปต่อ ต้องกระตุ้นการกลับมาซ้ำ

เชื่อว่าในตอนนี้ทุกธุรกิจย่อมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยิ่งในส่วนของธุรกิจท่องเที่ยว และโรงแรมก็อาจจะเจ็บหนักมากกว่าเพื่อนหน่อย สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหินเองก็ได้รับผลกระทบไม่น้อย เพราะเป็นสถานที่ที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว แต่การสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค และการกระตุ้นด้วยโปรโมชั่น ก็สามารถทำให้ผู้บริโภคยังกลับมาได้

พราวพุธบอกว่าสวนน้ำได้กลับมาเปิดให้บริการช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา จากมาตรการคลายล็อกดาวน์ของรัฐบาล ซึ่งตอนนี้ก็ยังกังวลอยู่ว่าคนไทยจะออกมาเที่ยวหรือไม่ บางคนแค่เดินห้างสรรพสินค้ายังรู้สึกกลัวเลย แต่ทางสวนน้ำก็ได้มีการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยกำหนดจำนวนคนในการเข้าสวนน้ำ เร่งสร้างความเชื่อมั่นความปลอดภัย เป็นสวนน้ำที่แรกที่ได้รับรอง SHA จากทางททท. ด้วย

ด้วยความที่ตอนนี้แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ยังต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวไทยเป็นหลัก เพราะยังไม่เปิดรับชาวต่างชาติ จึงค่อนข้างเป็นโจทย์ใหญ่ให้สวนน้ำวานา นาวาหัวหินในการดึงลูกค้าให้กลับมาเที่ยวซ้ำให้ได้

“ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนกลยุทธ์แต่เดิมลูกค้าต่างชาติเกือบ 50% ทีนี้พอมีแต่คนไทย ความยากอยู่ที่คนที่เคยมาแล้ว จะทำอย่างไรให้กลับมาอีกถ้าเป็นชาวต่างชาติได้มาหัวหินครั้งแรกต้องมาลองที่สวนน้ำโจทย์ใหญ่คือ ทำอย่างไรให้กลับมาเที่ยวอีกส่วนหนึ่งคือ ต้องมีอีเวนต์มีเครื่องเล่นใหม่ๆอัพเดตในช่วงหลัง COVID-19ได้เปิดตัว VR Slide ครั้งแรกในเอเชียพอมีเครื่องเล่นใหม่ ก็ทำให้เขาอยากจะมาอีกครั้งหนึ่ง ประกอบกับผู้บริโภคอึดอัดอยากเที่ยวด้วยแล้วสวนน้ำป็นสถานที่ที่มาเที่ยวได้ทั้งครอบครัว จึงได้ลูกค้าจากกลุ่มนี้เยอะ”

หลังจากที่กลับมาเปิดให้บริการตามปกติ ตอนนี้สวนน้ำวานา นาวาหัวหินมีทราฟิกกลับมาราวๆ 60% เมื่อเทียบกับก่อนช่วง COVID-19 มีการใช้โปรโมชั่นเป็นตัวดึงดูด

เช่น โปรวันธรรมดาราคา 400 บาทในวันจันทร์-พฤหัสบดี เป็นโปรโมชั่นถึงสิ้นปีส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ อาจจะมีโปรโมชั่นมา 4 จ่าย 2ซึ่งจะอยู่แล้วแต่ช่วงในเดือนหน้าจะมีโปรโมชั่นครบรอบ 6 ปีมีขายบัตรรายปีที่ออกปีละครั้งล้อกับโปร 11.11 ปกติขาย 1,200 บาทปีนี้ขาย 1,201 บาทสามารถเล่นได้ทั้งปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เป็นกลยุทธ์ที่ต้องการจับRepeat Customer เข้ามาด้วย

“วานา นาวาหัวหิน” ขึ้นแท่นเดสติเนชั่นสำคัญเมืองหัวหิน

ถ้าถามถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้สวนน้ำวานา นาวาหัวหิน เป็นหนึ่งในเดสติเนชั่นที่คนมาหัวหินจะต้องแวะมาให้ได้ อีกทั้งยังเป็นสวนน้ำในระดับต้นๆ ของประเทศไทย พราวพุธได้มองถึง 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่

  1. สถานที่ตั้ง แต่ก่อนคนมองว่าทำสวนน้ำไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมืองส่วนใหญ่จะไปนอกเมือง วานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหินอยู่ห่างจากเมืองหัวหินแค่ 10 นาที มีการเดินทางสะดวก
  2. มาตรฐานความปลอดภัยยึดมั่นความปลอดภัยระดับโลกอย่างสูงที่สุด
  3. การตลาดที่แข็งแกร่ง ต้องหาเหตุผลให้คนกลับมาเรื่อยๆผ่านการทำการตลาดและทำกิจกรรมร่วมกับพาร์ทเนอร์

ในส่วนของการแข่งขัน และกระแสความนิยมของสวนน้ำนั้น พราวพุธได้ให้ความคิดเห็นว่า ภาพรวมในปีนี้ทุกคนต้องเหนื่อยแน่นอน แต่ด้วยความที่สวนน้ำวานา นาวาหัวหินเป็นเจ้าเดียวในหัวหิน และความโชคดีของหัวหินที่ยังมีฐานนักท่องเที่ยวคนไทยคอ่นข้างเยอะ เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ทำให้พลิกสถานการณ์ได้ง่ายกว่า มีการเดินทางง่าย คนไทยรู้จัก

ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาหลังจากที่ทำตลาดมา ได้เห็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ในช่วงปีแรกได้รับผลตอบรับดีมากเพราะเป็นของใหม่ ตอนนั้นยังไม่มีใครทำตลาดกลายเป็นเทรนด์ที่ทุกคนต้องไปลองกลุ่มลูกค้าอาจจะเป็น First Mover ที่ต้องไปเยือนให้ได้ก่อนใคร เป็นวัยรุ่น หรือ Influencer ตอนนี้กลุ่มลูกค้าก็เปลี่ยนเป็นกลุ่มครอบครัวเยอะขึ้น ข้อดีคือ มาบ่อยเพราะเด็กๆ ชอบเล่นกิจกรรม ชอบสวนน้ำ

“เราอยากให้สวนน้ำเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของคน เหมือนกับไปห้างสรรพสินค้า ไม่จำเป็นต้องรอช่วงพิเศษ หรือวันหยุดยาว แต่สามารถมาได้ทุกสุดสัปดาห์”

ต้องเป็น “เวิล์ดคลาส เดสติเนชั่น” ให้ได้ ในอนาคต

ในวันนี้หัวหินอาจเป็นเดสติเนชั่นที่หลายคนนึกถึงเวลาอยากไปพักผ่อน หรือนึกถึงทะเล แต่ในแง่ของการรู้จักในระดับโลกอาจจะยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร ความฝันของพราวพุธจึงอยากให้หัวหินเป็น “เวิลด์คลาส เดสติเนชั่น” ในระดับโลกให้ได้

“เป้าหมายเราอยากให้หัวหินเป็นเวิลด์คลาสเดสติเนชั่น ตอนนี้ในแง่ของการเป็นที่รู้จักกับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่เท่าภูเก็ต หรือสมุย แต่ตอนนี้ในระยะสั้นต้องการดึงนักท่องเที่ยวไทยมาเที่ยวก่อนมีบางกลุ่มที่ชอบหัวหินมาก ต้องมาทุกอาทิตย์ด้วยแต่ก็ต้องดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ด้วยตอนนี้มีสายการบินแอร์เอเชียเปิดเส้นทางจากเชียงใหม่ อุดรธานีบินมาหัวหิน เป็นโอกาสที่จะดึงฐานลูกค้าที่ไม่ใช่คนกรุงเทพฯ มาหัวหินด้วยเช่นกัน”

ต้องบอกว่าการตลาดในยุคนี้ไม่สามารถใช้ตำราเดียว และตำราเดิมได้ไปตลอด ต้องมีการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย เพื่อให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภค การได้เห็นความร่วมมือกันครั้งใหญ่ของสวนน้ำวานา นาวาหัวหิน และเป๊ปซี่ เรียกว่าเป็นการเดินเกม Lifestyle Marketing ที่จะช่วยสร้างสีสันใหม่ๆ ให้กับเมืองหัวหินอย่างแน่นอน