บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสมาร์ทคาร์พร้อมยกระดับเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะในรถยนต์ไปอีกขั้นด้วยการอัพเกรดระบบ i-SMART ได้ง่ายยิ่งขึ้น ผ่านระบบออนไลน์ หรือ FOTA เป็นครั้งแรกของสมาร์ทคาร์ ในเมืองไทย ทำให้ลูกค้าสามารถอัพเกรดฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านระบบออนไลน์โดยไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันเทคโนโลยียานยนต์มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าเทคโนโลยียานยนต์จะต้องสอดคล้องกลมกลืนกับทุกจังหวะไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ทำให้เอ็มจีไม่เพียงมีความมุ่งมั่นเป็นผู้นำเทคโนโลยีใหม่ แต่ต้องการพัฒนาการใช้งานเทคโนโลยีในแบบที่ไม่เคยมีบริษัทรถยนต์รายใดทำมาก่อน ซึ่งนำไปสู่การแนะนำรถยนต์สมาร์ทคาร์ที่มีความอัจฉริยะในการเชื่อมต่อด้วยการติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ “i-SMART” ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจของเอสเอไอซี คอร์ปอเรชั่น นั่นคือการพัฒนารถยนต์แห่งอนาคตให้มีความเป็นอัจฉริยะ (Intelligent) รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตและระบบการเชื่อมต่อภายในรถยนต์ ระบบการควบคุมภายในรถยนต์ให้มีความล้ำสมัยและใช้งานง่าย เพื่อให้ชีวิตของลูกค้ามีความสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิมไม่ว่าพวกเขาจะนั่งอยู่ในรถยนต์หรือไม่ก็ตาม โดยจุดเด่นของระบบ “i-SMART” นอกจากจะมาพร้อมความอัจฉริยะด้านการสั่งการ หรือ SMART Command ด้านการเชื่อมต่อ หรือ SMART Connect และด้านการตรวจเช็ครถหรือ SMART Check แล้ว ยังสามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์ให้มีความทันสมัยได้ตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์ ครอบคลุมทั้งในด้านประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ พร้อมการติดตั้งคุณสมบัติใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับความบันเทิงภายในรถยนต์ ฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
สำหรับ FOTA หรือ Firmware Over-The-Air คือการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ในรถยนต์สมาร์ทคาร์ผ่านระบบออนไลน์ เป็นครั้งแรกที่ทำให้ลูกค้าสามารถอัพเกรดระบบ i-SMART ได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์บริการ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งการอัพเกรดฟีเจอร์ใหม่นั้นจะแตกต่างกันไปในรถยนต์แต่ละรุ่น โดยปัจจุบันการอัพเกรดระบบ i-SMART ผ่านระบบออนไลน์ หรือ FOTA สามารถทำได้ใน MG HS โดยระบบจะทำการส่งข้อความไปยังรถยนต์และแอพพลิเคชัน MG i-SMART บนมือถือ เพื่อแจ้งให้ลูกค้ารับทราบ ซึ่งการอัพเกรดล่าสุดจะทำให้รถรุ่นดังกล่าวสามารถสามารถรองรับ Apple CarPlay และมีฟีเจอร์ใหม่ๆ อาทิ การรายงานสภาพอากาศ พร้อมเสียงแจ้งเตือนเมื่อรถน้ำมันใกล้หมดและแนะนำสถานีบริการน้ำมันใกล้เคียง โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งเวอร์ชันใหม่ได้ง่ายๆ ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเตอร์เน็ตและขนาดของไฟล์
ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART
- SMART COMMAND – สั่งการทุกฟังก์ชันอย่างแม่นยำ
ระบบ i-SMART รองรับการสั่งการควบคุมการทำงานในรถยนต์เอ็มจีด้วยเสียงภาษาไทยช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย เพียงแค่พูด “ฮัลโหล เอ็มจี” (Hello MG) เพื่อเริ่มต้นสั่งการฟังก์ชันต่างๆ อาทิ โทรออกค้นหาจุดสนใจ เปิด-ปิดหรือเปลี่ยนเพลง ควบคุมระบบปรับอากาศ รวมไปถึงเปิด-ปิดซันรูฟและหน้าต่างฝั่งคนขับ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมหรือสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอภายในรถ อาทิ โทรออก – รับสายจากจอทัชสกรีนในกรณีฉุกเฉินซึ่งโทรฟรีได้ 50 นาทีต่อเดือน ใช้ระบบ i – CALL ติดต่อ MG CALL CENTRE เพื่อสอบถามข้อมูลและขอรับจุดสนใจ (Point Of Interest) ด้วยปุ่มลัดบนพวงมาลัย หรือเลือกสั่งการบนสมาร์ทโฟนผ่าน MG Mobile Application เพื่อสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดเครื่องปรับอากาศ
- SMART CONNECT เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ให้สนุกได้ไม่รู้จบ
ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์เข้ากับการใช้งานรถยนต์เอ็มจีผ่านระบบ i-SMART ทั้งฟังเพลงฮิตจากทั่วโลกได้มากกว่า 1 ล้านเพลงผ่านระบบไลฟ์สตรีมจาก TRUE Online Music ค้นหาร้านอาหารยอดนิยมหรือที่พักระหว่างเดินทางผ่าน FOOD & TRAVEL GUIDE สามารถเชื่อมต่อแอพพลิเคชันต่างๆในระบบแอนดรอยด์ บนสมาร์ทโฟนเข้ากับรถผ่านเทคโนโลยี MG LINK หรือค้นหาเส้นทางผ่าน Smart Navigation ซึ่งแสดงผลการจราจรแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถอัพเกรดระบบได้เองผ่านออนไลน์ (OTA upgrade system)
- SMART CHECK – ขับขี่ปลอดภัยเมื่อความมั่นใจอยู่ในมือ
ระบบ i-SMART มาพร้อมฟังก์ชันที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจเช็คการทำงานของรถยนต์เอ็มจีได้ง่ายๆ เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบความผิดปกติและแจ้งสถานะการทำงานของรถ (Remote vehicle diagnosis) อาทิ เครื่องยนต์ ลมยาง ระบบเบรก ถุงลมนิรภัย และการล็อกประตู หรือใช้คำสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู (Remote vehicle control) รวมทั้ง ค้นหารถโดยกำหนดให้รถเปิดไฟหน้าไฟท้ายหรือใช้เสียงแตรผ่านการตั้งค่า (Find my Car) และตรวจสอบตำแหน่งของรถพร้อมบอกเส้นทางไปยังรถยนต์ และสามารถกำหนดขอบเขตการใช้รถได้ตั้งแต่ 500 ม. ถึง 10 กม. ซึ่งระบบจะแจ้งเตือนเมื่อรถเข้าออกในขอบเขตที่กำหนดไว้