โลมาผงาด! ‘ดอลฟิน’ ผนึก KBank ปล่อยกู้ 3 พันล้าน ชิงความได้เปรียบสงคราม e-Wallet

ให้บริการมาได้แค่ปีนิด ๆ สำหรับ ‘ดอลฟิน (Dolfin)’ อี-วอลเลตน้องใหม่แต่มีพ่อ-แม่ใหญ่อย่าง ‘กลุ่มเซ็นทรัล’ และ ‘กลุ่มเจดี ดอทคอม (JD.com)’ บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีนร่วมลงทุนถึง 8,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันดอลฟินมีผู้ใช้กว่า 2 ล้านรายเลยทีเดียว

ท้าชนทุกแพลตฟอร์มด้วยการ ‘ปล่อยกู้’

ประกาศชัดไปตั้งแต่ช่วง 5 เดือนก่อนว่าจะมีบริการใหม่ในช่วงสิ้นปีนอกเหนือจาก ‘เพย์เมนต์’ ที่เปรียบเสมือนเป็นเครื่องมือทำให้รู้จักลูกค้า และล่าสุดก็ไม่ทำผิดสัญญา โดยได้ก้าวขาเข้ามาสู่บริการ ‘ปล่อยเงินกู้ (loan)’ เต็มตัวโดยได้ร่วมกับ ‘เคแบงก์’ ในการให้บริการ ‘ดอลฟิน มันนี่ จากธนาคารกสิกรไทย (Dolfin Money | KBank)’ สินเชื่อส่วนบุคคลบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ผ่านแอป Dolfin โดย ‘รุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง’ ระบุว่า เจ้าของเงินที่ปล่อยกู้คือ ‘เคแบงก์’ แต่ใช้เทคโนโลยีและดาต้าผู้ใช้งานดอลฟินที่มีกว่า 2 ล้านราย และจากอีโคซิสเต็มส์ของเครือเซ็นทรัล โดยเฉพาะ ‘The 1Card’ ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 18 ล้านรายมาช่วยในการวิเคราะห์เพื่อปล่อยสินเชื่อ

“เคแบงก์เป็นเจ้าของเงิน แต่เรามีเทคโนโลยีมีข้อมูลที่ช่วยให้เลือกลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำได้ โดยเรามั่นใจว่ายอดหนี้เสีย (NPL) ของเราจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด 3.95%”

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถลูกค้าเข้าถึงวงเงินสินเชื่อได้ผ่านแอปพลิเคชัน Dolfin โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน ไม่ต้องส่งเอกสารแสดงรายได้ สามารถสมัครง่ายได้ทุกที่ ทุกเวลา รู้ผลอนุมัติเร็วสุดใน 5 นาที และพร้อมใช้วงเงินได้ทันที โดยสามารถโอนเข้าบัญชี เบิกถอนเงินสดผ่านตู้เคแบงก์ หรือจะใช้จ่ายช้อปปิ้งกับร้านค้าชั้นนำในเครือเซ็นทรัลและร้านค้าพันธมิตรได้ทันที

ดิจิทัลเลนดิ้งมีสัดส่วนเพียง 0.2%

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ระบุว่า ธุรกิจสินเชื่อบุคคลผ่านช่องทางดิจิทัลมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดย ณ ไตรมาส 2 ปี 2563 ภาพรวมตลาดสินเชื่อบุคคลในประเทศไทยที่อนุมัติผ่านสถาบันการเงิน และผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (non-bank) มีจำนวน 428,000 ล้านบาท เป็นสินเชื่อในช่องทางดิจิทัลเพียง 12,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.2 ของสินเชื่อบุคคลทั้งหมดในตลาด

ขณะที่ปัจจุบัน ฐานข้อมูลของลูกค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้ามีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้การพิจารณาสินเชื่อสามารถประเมินผู้ขอสินเชื่อได้จากข้อมูลอื่น ๆ นอกเหนือจากข้อมูลรายได้ เช่น ข้อมูลด้านการใช้จ่ายต่าง ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อประเมินความสามารถหรือความเต็มใจในการชำระหนี้

“แบงก์ปล่อยกู้ให้กับลูกค้าที่ไม่รู้จักน้อยมาก โดยเฉลี่ยมีเพียง 30% ที่ได้รับอนุมัติ ดังนั้น เมื่อเรากำลังเข้าไปในตลาดที่ไม่รู้ว่าพฤติกรรมการใช้เงินเป็นอย่างไร การร่วมกับดอลฟินที่มีข้อมูลลูกค้า เพื่อให้ K-Bank สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้ ดังนั้น ใครเลือกเก่งก็ไม่เจ๊ง ใครเลือกไม่เก่งก็ลำบากไป

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (ซ้าย), รุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง (ขวา), นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด (กลาง)

วางเป้าปล่อย 3,000 ล้าน ผู้กู้ 1 แสนราย

รุ่งเรือง กล่าวว่า เป้าหมายใน 1 ปีของดอลฟิน มันนี่ คือ ปล่อยกู้ได้ 1 แสนราย ยอดเงินรวม 3,000 ล้านบาท ส่วนผู้ใช้งานดอลฟินคาดว่าจะเติบโตเป็น 4 ล้านราย โดยนอกจากจะมีดอลฟิน มันนี่ที่ช่วยดึงดูดให้มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นแล้ว ดอลฟินเตรียมเปิดบริการใหม่ ๆ เพิ่มเติมอีกตามแผนที่จะมีบริการอย่าง การขายประกัน (insurance) และ การจัดการสินทรัพย์ (Asset Management)

“เราหวังว่าจะปล่อยกู้ได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่า 80% จะใช้เป็นเงินสด ส่วนอีกประมาณ 20% มีโอกาสที่จะกู้เพื่อใช้ซื้อสินค้าในเครือเซ็นทรัล แต่เรามองว่าเป็นผลพลอยได้มากกว่า ไม่ได้คาดหวังขนาดนั้น”

ยืนยัน เงินสด คือคู่แข่งเบอร์ 1

สำหรับแบงก์เราไม่ได้มองเป็นคู่แข่งแต่มองเป็นพาร์ตเนอร์ อย่างการปล่อยเงินกู้ เราทำเองได้แต่ไม่คิดจะทำเอง และเราไม่ได้ปิดกั้นว่าจะต้องจับกับเคแบงก์รายเดียว หรือเคแบงก์ไม่จำเป็นต้องเป็นพันธมิตรเพียงรายเดียว โดยดอลฟินยินดีเปิดรับพาร์ตเนอร์ใหม่ ๆ หรือแบงก์อื่น ๆ ที่จะมาปล่อยเงินกู้ผ่านดอลฟิน เพราะแต่ละธนาคารมีเป้าหมายไม่เหมือนกัน

ขณะที่ส่วนของผู้ให้บริการอีวอลเลตรายอื่น ๆ เราก็ไม่ได้มองใครเป็นศัตรู เพราะศัตรูที่เราแข่งอยู่คือ ‘เงินสด’ ตอนนี้ไทยมีการใช้ e-payment ไม่ถึง 3% ดังนั้น ผู้เล่นในตลาดทุกรายยังต้องวิ่งตามหาความฝัน ดังนั้น ตอนนี้มองว่ายังเป็นช่วงเริ่มต้นสร้างอีโคซิสเต็มส์ของตัวเอง จนกว่าจะถึงวันที่ไทยกลายเป็นสังคมไร้เงินสดถึงจะเป็นช่วงต้องแข่งขัน

“ปัจจุบันภาครัฐก็ผลักดันเต็มที่ทั้งมีพร้อมเพย์ หรือแอปเป๋าตัง ซึ่งมันผลักดันให้ประชาชนชิน แต่เมื่อผู้บริโภคใช้จนเป็นเรื่องปกติแล้ว เขาจะเลือกใช้ใครก็ต้องดูว่าใครให้อะไรเขา จุดรับชำระมีเยอะไหม สิทธิประโยชน์อะไรที่เขาจะได้”

สำหรับ ‘ดอลฟิน มันนี่ จากธนาคารกสิกรไทย (Dolfin Money | KBank)’ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สินเชื่อที่ได้จะเป็นวงเงินพร้อมใช้ หากไม่ใช้วงเงินไม่เสียดอกเบี้ย ฟรีค่าธรรมเนียม ไม่ต้องพกบัตร ใช้วงเงินได้ทันทีผ่านแอป Dolfin และ K PLUS ลูกค้าที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อฯ และใช้สินเชื่อดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 จนถึง 31 ม.ค. 2564 จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ K-Contact Center โทร. 02-888-8888 ต่อ 814 หรือ ศูนย์บริการลูกค้า Dolfin โทร. 02-255-5959 ต่อ 2 หรือ https://bit.ly/3601BPA