H&M และ Adidas เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรในอุตสาหกรรม เพื่อส่งต้นแบบสำหรับแฟชั่นแบบยั่งยืน

การเปลี่ยนรูปแบบอุตสาหกรรมแฟชั่นจากโมเดลแบบเส้นตรงคือ “ใช้ – ผลิตใหม่ – เป็นขยะ” ให้เป็นโมเดลแบบวงกลมโดยการรีไซเคิลวัสดุและหมุนเวียนกลับมาใช้อย่างต่อเนื่องถือเป็น “ต้นแบบ” แห่งความยั่งยืน จากสถิติการซื้อเครื่องแต่งกายทั่วโลกซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 63% หรือคิดเป็นจำนวน 102 ล้านตันในปี 2573 และมีการทิ้งเสื้อผ้าเป็นขยะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย (มูลนิธิ Ellen MacArthur Foundation รายงานความสูญเสียคิดเป็นมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ทุกปี เนื่องจากไม่นำเสื้อผ้าไปรีไซเคิล) การเปลี่ยนให้เป็นระบบรีไซเคิลแบบครบวงจรกลายเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งขึ้น เรื่องนี้อาจเข้าใจยากแต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบในห่วงโซ่แฟชั่นที่จำเป็นเพื่อ “ผลิตเสื้อผ้าแบบยั่งยืนตั้งแต่ต้นจนจบ” แบรนด์แฟชั่นในปัจจุบันเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน อาทิ การกระตุ้นให้ผู้ซื้อซ่อมและสวมใส่ เสื้อผ้าให้นานขึ้น การขายต่อ การเช่าและการรีไซเคิล ความพยายามของผู้บริโภคถือว่ามีความก้าวหน้าไปในทางที่ดี ในขณะที่ข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ต้องการแนวทางแก้ปัญหาในระดับโลกเพื่อหยุดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพภายในกรอบเวลาที่กำหนดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตกลงกันไว้ การเติบโตที่คาดการณ์ไว้ของอุตสาหกรรมแฟชั่นและผลจากการปล่อยมลพิษและการสร้างของเสียทำให้การแก้ปัญหาอุตสาหกรรมแฟชั่นให้เป็นโมเดลแบบวงกลมมีความจำเป็นเร่งด่วนด้านสิ่งแวดล้อม แต่ก็ต้องมองจากระดับความร่วมมือของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมที่จะต้องทำให้เกิดระบบการหมุนเวียนนี้ และจะร่วมมือกันอย่างไรในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

การสร้างต้นแบบของการรีไซเคิลแบบครบวงจร

จากข้อมูลที่อ้างถึงข้างต้นและศักยภาพในการรีไซเคิลสิ่งทอในระดับที่เหมาะสม Infinited Fiber Company กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพของฟินแลนด์ได้นำไปสู่การเสนอราคาที่ประสบความสำเร็จในการระดมทุนวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมของสหภาพยุโรปกว่า  ล้านยูโร โดยมีวัตถุประสงค์คือการจัดตั้งกลุ่มเพื่อสร้างต้นแบบอุตสาหกรรมแฟชั่นแบบครบวงจร เงินทุนนี้สนับสนุนบรรดาสมาชิกในกลุ่มโครงการเส้นใยฝ้ายใหม่ (New Cotton Project) ทั้ง 12 ประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยฟินแลนด์ สวีเดน เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส สโลวีเนีย และตุรกี เพื่อทำงานร่วมกันในการจัดการขยะ การรีไซเคิล การค้าปลีก การผลิต และสถาบันการศึกษา ทั้งนี้เพื่อกำหนดระบบแฟชั่นและธุรกิจแบบครบวงจรใหม่ รูปแบบที่พวกเขาหวังว่าจะนำไปสู่การยอมรับทั่วทั้งอุตสาหกรรม การลดขยะแฟชั่นและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยยะสำคัญ ความแปลกใหม่เกี่ยวกับโครงการนี้คือการรวมบริษัทที่แข่งขันในตลาดเข้าด้วยกัน แต่ยังตระหนักดีว่าการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระดับอุตสาหกรรม บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม Adidas และ H&M เป็นหุ้นส่วนในโครงการนี้และจะทำงานร่วมกันเพื่ออำนวยความสะดวก ขนาดและจำนวนที่จำเป็นในการทดสอบ (เทคโนโลยี) อย่างเหมาะสมเพททรี อลาวา CEO ของ Infinited Fiber กล่าวในระหว่างการสนทนาทางวิดีโอเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยในการนี้ แคทลีน ราเดอแมนเป็นตัวแทนของ Fashion for Good ซึ่งอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระหว่างโครงการคือ เธอกล่าวว่า เราสังเกตเห็นว่าการลงมือปฏิบัติการณ์บางอย่างให้ลุล่วงไปด้วยดี เช่น การเดินหน้ารีไซเคิลสารเคมีให้เป็นไปตามที่วางแผนไว้ จำเป็นต้องร่วมมือกันมากกว่าหนึ่งแบรนด์”

กลุ่มพันธมิตรร่วมค้า

ในระหว่างโครงการระยะเวลา 3 ปี Infinited Fiber จะจัดหาเส้นใยเซลลูโลสคาร์บาเมตจำนวน 3 ตัน (รีไซเคิลจากสิ่งทอกระดาษแข็งและของเสียที่มีเซลลูโลสสูงอื่นๆ) ให้กับ H&M และ Adidas เพื่อใช้ในโรงงานและผู้ผลิตพันธมิตร ได้แก่ Inovafil, Tekstina และ Kipas ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการภายในห่วงโซ่การผลิตของแบรนด์อยู่แล้ว โรงงานผลิตจะปั่น ย้อม ถัก และทอเส้นใยเป็นเส้นด้ายและผ้า (เสื้อเจอซี่ และเดนิม) เพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์แฟชั่นเชิงพาณิชย์ของแบรนด์ โดยทั้ง H&M และ Adidas จะรับคำติชมของผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตลอดวงจรชีวิต รวมถึงเมื่อสิ้นสุดอายุการใช้งาน นั่นคือแผนการรับคืนซึ่งจะป้อนผลิตภัณฑ์เข้าสู่โรงงานคัดแยก และจากนั้นก็ส่งไปยังวัตถุดิบรีไซเคิลสารเคมีหรือช่องทางการขายต่อขึ้นอยู่กับคุณภาพเสื้อผ้า

ในด้านการจัดการของเสียและการประมวลผลผู้ทำงานร่วมกันหลายกลุ่มจะดำเนินการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อกำหนดขั้นตอนการทำงานและกระบวนการใหม่ที่จำเป็นในการส่งมอบรูปแบบการผลิตแบบวงกลมตามขนาด Frankenhuis ซึ่งตั้งอยู่ในฮอลแลนด์จะคัดแยกและแปรรูปขยะสิ่งทอล่วงหน้าในขณะที่ SouthEastern Finland University of Applied Sciences (XAMK) จะพัฒนาทางออกในเชิงเทคนิคสำหรับการแปรรูปเส้นใยสิ่งทออย่างต่อเนื่องเพื่อการผลิตรูปแบบใหม่เพื่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมแฟชั่น บทบาทของ REvolve Waste คือการรวบรวมและจัดการข้อมูลขยะสิ่งทอเพื่อประมาณการพร้อมใช้งานของวัตถุดิบทั่วยุโรปและกำหนดระดับของขยะสิ่งทอที่ใช้แล้ว ในด้านการค้าปลีกสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจ RISE (สถาบันวิจัยของสวีเดน) จะทำการวิเคราะห์ด้านความยั่งยืนและเทคโนโลยี เศรษฐกิจควบคู่ไปกับ Infinited Fiber Company นอกเหนือจากการจัดการฉลากเชิงนิเวศสำหรับโครงการรวมไปถึงผ้าและเสื้อผ้าที่ตามมาด้วย มหาวิทยาลัย Aalto ของฟินแลนด์จะวิเคราะห์ระบบนิเวศที่เป็นผลลัพธ์ของโครงการและรูปแบบธุรกิจแบบวงกลมในระดับมหภาคมากขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อกำหนดรูปแบบธุรกิจที่จะมีความเป็นไปได้มากที่สุด