เปิด 5 กลยุทธ์ พิชิตยอดขายสุดปังช่วงเทศกาลวันหยุดยุค COVID-19


เข้าสู่เดือนธันวาคมเป็นเดือนสุดท้ายของปี แน่นอนว่าเป็นช่วงเวลาแห่งเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อีกทั้งยังมีช่วงวันหยุดยาวให้ได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ สมกับที่ทำงานมาเหนื่อยๆ ทั้งปี เชื่อว่าถ้าใครที่ไม่ได้ไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว ก็ต้องอยู่บ้านพักผ่อน เล่นโซเชียลมีเดีย และช้อปปิ้ง กลายเป็นว่าช่วงหยุดยาวก็เป็นอีกหนึ่งช่วงที่จะโกยยอดขายได้เช่นกัน

ยิ่งการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยิ่งทำให้พฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หลายคนใช้เวลากับการช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น รวมไปถึงการใช้จ่ายผ่านบัตร Contactless เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสต่อกัน

เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการไม่ว่าจะรายใหญ่ หรือรายเล็กต้องเตรียมปรับตัวให้ทันต่อพฤติกรรมผู้บริโภค และสถานการณ์ในปัจจุบัน หากใครที่กำลังมาหาเคล็ดลับ หรือเทรนด์ของการช้อปปิ้งในยุค New Normal แล้วละก็ คุณมากถูกทางแล้ว

มีผลสำรวจของวีซ่าเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจภาคฮอลิเดย์อิดิชั่น (The Visa Back to Business Study, Holiday Edition) ได้เผยให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงพร้อมที่จะจับจ่ายในช่วงเทศกาลวันหยุด

สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย
  • โดย 88% ของผู้ทำแบบสำรวจยังคงวางแผนที่จะซื้อและมอบของขวัญให้กันในช่วงการแพร่ระบาด
  • ธุรกิจขนาดเล็ก60%กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาได้เริ่มเตรียมพร้อมสำหรับเทศกาลนี้ ซึ่งรวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตอล หรือแม้กระทั่งเปิดให้บริการนานขึ้น

ทั้งนี้ จากผลวิจัยของวีซ่า ชี้ให้เห็นว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิด 5 เทรนด์ใหม่ ซึ่งหากเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กสามารถปรับตัวตามกระแสได้ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตอลก็จะช่วยเพิ่มโอกาสเพิ่มยอดขายและเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้

1. อีคอมเมิร์ซ “ในชีวิตจริง”

การสำรวจของวีซ่า เกี่ยวกับการทำธุรกิจในช่วงเทศกาลวันหยุดแสดงให้เห็นว่า 59% ของผู้บริโภคที่ใช้จ่ายออนไลน์ในช่วงการแพร่ระบาดหนักของ COVID-19 จะยังคงเลือกใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของการจับจ่ายทั้งหมดในช่วงเทศกาลวันหยุด และ “ในชีวิตจริง” ยังมีนักช้อปอีกไม่น้อยที่ยังคงชอบที่จะไปซื้อสินค้าในร้านอยู่

48% ของผู้บริโภคยังวางแผนที่จะออกไปช้อปปิ้งในห้างร้านตามปกติ โดยวีซ่าเชื่อว่าเส้นบางๆ ที่กั้นระหว่างการช้อปออนไลน์หรือที่ร้านค้าได้หายไปอย่างถาวร ดังนั้น สิ่งสำคัญสำหรับร้านค้าไม่ว่าจะเล็ก หรือใหญ่ ควรพิจารณาการทำดำเนินธุรกิจที่ผสมผสานระหว่างออนไลน์ และการมีหน้าร้าน หรือเรียกว่า Omnichannel

2. โซเชียล คอมเมิร์ซกลายเป็นกระแสอย่างเต็มตัว

โซเชียลคอมเมิร์ซเป็นที่นิยมมากทั้งในตลาดเมืองไทยและเอเชีย และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในซีกโลกตะวันตก โดยมันทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมและก่อให้เกิดการพูดคุยกันทางออนไลน์พร้อมๆ กับการซื้อขายโดยผู้ซื้อไม่ต้องสลับแอพพลิเคชั่นมีการคาดการณ์ว่ามากกว่า 10% ของออเดอร์จากโทรศัพท์มือถือในช่วงเทศกาลวันหยุดจะเกิดจากการซื้อขายผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซ

โดย 66% ของกลุ่มคน GEN Z พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาเคยซื้อสินค้าบนโซเชียลในช่วงการแพร่ระบาดที่ผ่านมา อ้างอิงจากผลสำรวจของวีซ่า ชี้ให้เห็นว่า 28%ของธุรกิจขนาดเล็ก ได้เคยพยายามทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเข้าถึงลูกค้าใหม่

3. สร้างความแตกต่างด้วยการชำระเงินแบบ Contactless

ผลสำรวจของวีซ่า ระบุว่า 78% ของผู้บริโภคได้เปลี่ยนวิถีการชำระเงินไปแล้ว โดยหันมาใช้จ่ายผ่านดิจิตอลคอมเมิร์ซและพึ่งพาเทคโนโลยีอย่างการชำระเงินในรูปแบบ Contactless มากขึ้นเพราะเป็นช่องทางที่ปลอดภัยที่สุดในช่วง COVID19

การเติบโตของการใช้จ่ายในรูปแบบ Contactless เกิดขึ้นทั่วโลก เพราะความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพียงแตะเพื่อจ่าย และได้กลายเป็นทางที่ลูกค้าเลือกใช้มากกว่าวิธีการเดิมๆ และธุรกิจขนาดเล็กเองควรให้ความสำคัญของประสบการณ์การซื้อและการชำระเงินที่เอื้อต่อลูกค้า

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาในประเทศไทยได้มีการ “แตะเพื่อจ่าย” ผ่านบัตร Visa Contactless มากกว่าสองล้านครั้งในหนึ่งเดือนเป็นครั้งแรกของวีซ่าในประเทศไทย และ 2 ใน 3 ของผู้บริโภคทั่วโลกคาดว่าจะใช้บริการธุรกิจที่นำเสนอทางเลือกในการจ่ายผ่านบัตร Contactless

4. บัตรของขวัญกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น

ผลสำรวจของวีซ่า ได้คาดการณ์ว่าผู้บริโภค 32% จะมอบบัตรของขวัญในรูปแบบดิจิตอลมากขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตามมาด้วยบัตรชนิดอื่นๆ กิจกรรมต่างๆ หรือทริปท่องเที่ยว ที่มีสัดส่วน 19% และดิจิตอลเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ 18% ร้านค้าที่คิดว่าตัวเองเป็นมากกว่า “ร้านค้า” จะมีโอกาสมากกว่าในการเตรียมพร้อมเพื่อเทศกาลช้อปปิ้งที่จะมาถึง

5. กันไว้ดีกว่าแก้

ก่อนหน้าการเกิดโรคระบาดครั้งนี้ เป็นเรื่องง่ายที่จะสันนิษฐานว่าอาชญากรทั้งหลายพยายามที่จะโจรกรรมผู้ค้า และองค์กรขนาดใหญ่ น่าเสียดายที่พวกเขาพบว่าบรรดาผู้ประกอบขนาดกลาง และขนาดย่อมกลับไม่ค่อยใส่ใจดูแลป้องกันตัวเองเท่าที่ควร ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาตกเป็นเป้าให้กับมิจฉาชีพเหล่านี้

ร้านค้าจำเป็นต้องมีวิธีการป้องกัน ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาสมดุลไม่ทำให้ประสบการณ์การใช้จ่ายของลูกค้าสะดุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลวันหยุดที่คาดว่าจะมีการค้าขายมากกว่าปกติ

ทางที่ดีที่สุดคือการใช้เครื่องมือตรวจจับการทุจริตที่สามารถใช้งานได้จริง แนะนำให้คุณปรึกษากับธนาคารผู้ให้บริการทางการชำระเงินของคุณ เพื่อหาหนทางที่จะช่วยเพิ่มการอนุมัติธุรกรรมที่ดี ในขณะเดียวกันลดจำนวนธุรกรรมที่น่าสงสัย

Photo : Pixabay

ต้องบอกว่าธุรกิจ SME มีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก มีการจ้างงานมากกว่า 1 ใน 3 ทั่วโลก ขณะที่ COVID-19 ไม่เพียงแต่พิสูจน์ให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของร้านค้าขนาดเล็ก มันยังเผยให้เห็นถึงจุดอ่อนของธุรกิจเหล่านั้นด้วย

เพราะฉะนั้นการใช้ความสร้างสรรค์ และการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ได้ช่วยให้ร้านค้าขนาดเล็กมากมายประสบความสำเร็จมาแล้วมานับไม่ถ้วน ในความเป็นจริงเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก 75% ยังคงมีมุมมองที่ดีต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต ซึ่งนั่นไม่ใช่เป็นความเพียงความฝัน แต่บางทีการมีทัศนคติที่ดีอาจจะเป็นเคล็ดลับที่ดีที่สุดในการทำธุรกิจก็ว่าได้

เรียกได้ว่า 5 เทรนด์ของวีซ่าล้วนมีประโยชน์แก่ผู้ประกอบการอย่างมาก ทำให้ได้เห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อีกทั้งยังทราบความต้องการที่แท้จริง ร้านค้าควรเรียนรู้ และนำไปปรับใช้ เพื่อสร้างยอดขายสุดปังในช่วงเทศกาลหยุดยาวไปด้วยกัน