‘ดิสนีย์’ ประกาศอัดงบ 9 พันล้าน ปั้นคอนเทนต์ใหม่กว่า 100 เรื่อง โดย 80% จ่อลง ‘Disney+’

เมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา ‘ดิสนีย์ (Disney)’ ได้ประกาศถึงทิศทางบริษัทว่าจะเน้นไปที่บริการ ‘สตรีมมิ่ง’ หลังจากที่แทบจะเป็นกลุ่มเดียวที่เติบโตท่ามกลางผลกระทบจาก COVID-19 และล่าสุดภายในงานนำเสนอ Investor Day ดิสนีย์ได้เปิดตัวไลน์อัพคอนเทนต์ใหม่ ๆ กว่า 100 เรื่อง ทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์และรายการต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับ แฟรนไชส์ เช่น Star Wars, Marvel, FX และ National Geographic

ในปี 2019 ดิสนีย์มีรายได้จากโรงภาพยนตร์ทั่วโลกราว 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยดิสนีย์มีภาพยนตร์ 7 เรื่องที่ทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านเหรียญในปีนั้น แต่จากการระบาดของ COVID-19 ทำให้ภาพยนตร์หลายเรื่องของดิสนีย์ต้องเลื่อนฉายไปปีหน้า หรืออย่าง ‘มู่หลาน’ ก็ฉายพร้อมกับลงสตรีมมิ่ง ‘Disney+’ โดย Bob Chapek CEO ดิสนีย์ กล่าวย้ำว่า บริษัทจะเน้นที่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง โดยประกาศเพิ่มการลงทุนในการผลิตคอนเทนต์และย้ำว่าจะทำกำไรได้ในปี 2024

สำหรับคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่จะสร้างส่วนใหญ่จะเป็นการสานต่อจักรวาลแฟรนไชส์สุดแกร่งอย่าง ‘Star Wars’ และ ‘Marvel’ โดยจะมีภาพยนตร์และซีรีส์รวมกันแฟรนไชส์ละประมาณ 10 เรื่อง/ปี นอกจากนี้จะมีภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่นของดิสนีย์อีก 15 เรื่อง แอนิเมชันดิสนีย์และซีรีส์ Pixar 15 เรื่อง

ปัจจุบัน Disney+ มีผู้ติดตาม 86.8 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 73 ล้านคนจากไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา โดยในโลกของ Star Wars Disney + จะเพิ่มซีรีส์ใหม่สองเรื่องนอกจาก ‘The Mandalorian ซีซั่น 3’  ได้แก่ ‘The Rangers of the New Republic’ และ ‘Ahsoka’ นอกจากนี้ยังมีซีรีส์ชื่อ ‘Lando’

“กลยุทธ์ด้านเนื้อหาของ Disney นั้นเกี่ยวกับความสมดุลและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค จากโครงการประมาณ 100 โครงการที่ Disney วางแผนสร้างไว้ประมาณ 80% จะลงที่ Disney + โดยตรง”

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแผนการสร้างคอนเทนต์จำนวนมหาศาลนี้ บริษัทมีแผนจะใช้จ่ายระหว่าง 8-9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 และดิสนีย์จำเป็นต้องเพิ่มผู้ใช้ให้ได้ 230-260 ล้านคนภายในปี 2024 นอกจากนี้ดิสนีย์มีแผนจะเพิ่มค่าบริการเป็น 7.99 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์

ในส่วนของบริการสตรีมมิ่งอื่น ๆ อย่าง ‘Hulu’ ปัจจุบันมีสมาชิก 38.8 ล้านคน ส่วน Hulu + Live TV มีสมาชิกที่จ่ายเงิน 4 ล้านคน ซึ่งบริษัทได้ขึ้นราคาของแพลตฟอร์มเป็น 65 ดอลลาร์ จาก 55 ดอลลาร์ โดยดิสนีย์คาดว่า Hulu จะมีสมาชิกระหว่าง 50-60 ล้านคนภายในปี 2024 โดยคาดการณ์ว่า Hulu จะทำกำไรได้ในปีงบประมาณ 2023 ส่วน ‘ESPN +’ ที่เป็นแพลตฟอร์มดูกีฬามีสมาชิก 11.5 ล้านคน โดยดิสนีย์กำลังจะก้าวเขาเข้าสู่การพนันกีฬาเพื่อพยายามเข้าถึงผู้ชมที่อายุน้อยกว่า

สำหรับภาพยนตร์ที่เลื่อนฉายจากปี 2020 ไปปี 2021 อย่าง ‘Black Widow’ และ ‘Jungle Cruise’ ยังคงวางแผนที่จะฉายให้ได้ตามกำหนด ส่วนแอนิเมชัน ‘Raya and the Last Dragon’ จะฉายโรงและลงสตรีมมิ่งพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ภาพยนตร์ทุกเรื่องจะฉายโรงและลงสตรีมมิ่งพร้อมกันหมด

Source