บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) นำเสนอ ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อดูแลสุขภาพผู้มีภาวะเบาหวานครั้งแรกในประเทศไทย

  • ภาวะการแพร่กระจายโควิด-19 เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้หลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทในการดูแลด้านสุขภาพของประเทศไทยผนึกกำลังและร่วมมือกันผลักดันให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในระบบสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม
  • ในประเทศไทยมีประชากร4.3 ล้านคนที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะเบาหวานและได้รับการรักษา แต่มีเพียง 1 ใน 3 ของผู้ป่วยเท่านั้นที่สามารถบรรลุเป้าหมายในการรักษา

“บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด แผนกธุรกิจเบาหวาน” แนะนำดิจิทัลแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีศักยภาพและความสามารถในการปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมชัดเจนและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ด้วยวิธีการรักษาแบบองค์รวมที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางในการรักษาโดยมีเป้าหมายในการจัดการภาวะเบาหวานเฉพาะบุคคล และมีเป้าหมายหลักในการปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลรักษาและอำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์

ดิจิทัลแพลตฟอร์มของ “โรช ไดอะบี-ทีส แคร์ (Roche Diabetes Care) จะทำหน้าที่รวบรวมและเก็บข้อมูลสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยทั้งหมดที่มาจากระบบให้บริการต่างๆ ของโรชฯ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถทำงานร่วมกันกับภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งรวบรวมและใช้ประโยชน์จากโซลูชันของตนเองและคู่ค้าได้ทั่วโลก โดยมีเป้าหมายสำคัญในการเปิดใช้งานบริการวิเคราะห์และสร้างข้อมูลเชิงลึกจากโซลูชันที่ทำงานบนแพลตฟอร์มและให้บริการผู้มีภาวะเบาหวานเฉพาะบุคคลได้อย่างมีประสิทธิผลและในอนาคตอันใกล้นี้ดิจิทัลแพลตฟอร์มของโรชฯ จะสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาเพื่อผู้มีภาวะเบาหวานโดยเฉพาะซึ่งระบบจะช่วยแจ้งเตือนข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ให้ผู้ป่วยทราบล่วงหน้าในขณะเดียวกันทีมแพทย์ก็จะสามารถตรวจสอบและวินิจฉัยอาการได้จากซอฟต์แวร์ที่ใช้ร่วมกันทั่วโลก โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์

มร.มิไฮ อีริเมสซู (Mr.Mihai Irimescu) ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ (ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค) บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด แผนกธุรกิจเบาหวานกล่าวว่า“เรามีความภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอแนวคิดของ iPDM – integrated personalized Diabetes Management ระบบการจัดการภาวะเบาหวานแบบบูรณาการเฉพาะบุคคลสู่ตลาดในประเทศไทย ซึ่งเป็นแนวทางการดูแลแบบครบองค์รวมที่เน้นให้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง โดยแนวคิดดังกล่าวจะใช้วิธีการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโรคทั้งหมดไว้ในแพลตฟอร์มเดียวเพื่อช่วยให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ป่วยสามารถตัดสินใจเลือกวิธีการในการรักษาได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาให้กับผู้ป่วยแต่ละรายได้อย่างเหมาะสม”

ทั้งนี้แนวคิดของ iPDM ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถนำมาดูแลผู้มีภาวะเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิผลโดยงานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาในกลุ่มผู้มีภาวะเบาหวานประเภทที่ 2 จำนวน 907 คนและแพทย์ 100 คน เป็นระยะเวลา 12 เดือน โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ประกอบด้วย 1)ผู้มีภาวะเบาหวานในกลุ่มควบคุมยังคงได้รับการดูแลตามมาตรฐานการรักษาเดิม และ 2)ผู้มีภาวะเบาหวานในอีกกลุ่มได้รับการดูแลตามแนวทาง iPDM โดยผู้มีภาวะเบาหวานในกลุ่มนี้ จะได้รับคำแนะนำให้มีการติดตามระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ และนำผลระดับน้ำตาลที่ตรวจได้มาปรับเปลี่ยนการดูแลตนเองในเรื่องต่างๆ เช่น การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย รวมทั้งนำผลน้ำตาลที่ตรวจได้มาทำการวิเคราะห์กับแพทย์ โดยแพทย์จะวิเคราะห์ข้อมูลผลระดับน้ำตาลในเลือดโดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งในส่วนนี้แพทย์จะมีข้อมูลในการอธิบายคนไข้เรื่องการใช้ยา และการปรับเปลี่ยนยาให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายในกลุ่ม iPDM

หลังจากผ่านไป 12 เดือนผู้ป่วยในกลุ่ม iPDM ประสบความสำเร็จในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้นกว่าเดิม และแตกต่างจากกลุ่มควบคุมที่ได้รับการดูแลตามมาตรฐานการรักษาเดิมอย่างมีนัยสำคัญทั้งยังสามารถลดระดับค่าน้ำตาลในเลือดได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมตามปกติ และแพทย์รายงานว่าผู้ป่วยมีความสม่ำเสมอในการรักษาเบาหวานและมีความพึงพอใจต่อการรักษาเช่นเดียวกัน [1]

ดิจิทัลแพลตฟอร์มโรชฯรองรับการแพทย์ทางไกลในประเทศไทย

ดิจิทัลแพลตฟอร์มโรชฯเริ่มมีการนำไปใช้งานในสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และมีอัตราการใช้งานที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวให้บริการต่างๆ ครอบคลุมไปถึง การตรวจคัดกรองทางไกล การให้คำปรึกษาทางไกล การติดตามและฝึกสอนผู้ป่วยทางไกล เป็นต้น ปัจจุบัน โรชฯ  ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชน เพื่อเชื่อมต่อเครื่องตรวจระดับน้ำตาลในเลือดของโรชฯ เข้ากับแพลตฟอร์มในการดูแลผู้ป่วยทางไกลที่มีอยู่แล้ว

อาจารย์แพทย์หญิง ณิชกานต์ หลายชูไทยแพทย์ต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสมโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า “ระบบดิจิทัลเป็นเครื่องมือที่ช่วยเชื่อมต่อระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และผู้มีภาวะเบาหวานให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ระบบจะแบ่งปันข้อมูลบนคลาวด์ช่วยให้แพทย์เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยได้เร็วและแม่นยำขึ้นกว่าเดิมจากเดิมที่โรงพยาบาลเป็นศูนย์กลางในการรักษาโดยคนไข้จะต้องเดินทางมาพบแพทย์ ไปสู่การดูแลรักษาเฉพาะบุคคลโดยที่คนไข้เป็นศูนย์กลางในการรักษา

นายแพทย์ เอกพล พิศาล อายุรแพทย์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านตาขุน กล่าวว่า “ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบันทำให้วงการแพทย์และการดูแลสุขภาพได้พลิกโฉมวิธีการรักษาและช่วยให้ผู้ป่วยสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ผู้ป่วยเริ่มเรียนรู้และใช้เทคโนโลยีเพื่อดูแลสุขภาพของตนเองผ่านอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ส่วนตัวซึ่งสามารถแปลผลข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่นตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษาได้ด้วยตนเองส่วนแพทย์ก็สามารถดูข้อมูลเชิงลึกผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มการจัดการเบาหวานออนไลน์ได้ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยลดระยะเวลาในการรวบรวมข้อมูล ทำให้แพทย์มีเวลาที่จะให้คำปรึกษากับผู้ป่วยได้เต็มประสิทธิภาพ”

เมื่อมีการเชื่อมต่อและเพิ่มข้อมูลเชิงลึกในการรักษาของผู้ป่วย ร่วมกับการใช้เครื่องมือดิจิทัลของแพทย์ที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ทำให้เกิดกระบวนการรักษาที่ครบวงจรเพราะผู้มีภาวะเบาหวานสามารถเข้าถึงบริการและดูแลตัวเองได้สะดวกสบายในขณะที่ข้อมูลของผู้มีภาวะเบาหวาน รวมทั้งอาการป่วยจากโรคอื่นๆและประวัติการรักษาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะถูกเก็บไว้ในระบบบันทึกแบบอิเล็กทรอนิกส์ของโรงพยาบาลซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดูแลรักษาในลำดับต่อไปเนื่องจากผู้มีภาวะเบาหวานในประเทศไทยจำนวนมากได้รับการรักษาอันเนื่องมาจากภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานด้วยเช่นกัน

มร.มิไฮ อีริเมสซู  (Mr.Mihai Irimescu) ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ (ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค) บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด แผนกธุรกิจเบาหวาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ “โรชฯ แผนกธุรกิจเบาหวานของเราเล็งเห็นว่าการแพร่กระจายของ COVID-19 ทั่วโลก เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้ทุกภาคส่วนในวงการแพทย์และระบบสาธารณสุขของประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญและนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้งานอย่างแพร่หลาย ซึ่งโรชฯมีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเป้าหมายนี้เพื่อประโยชน์ของผู้มีภาวะเบาหวานในประเทศไทย รวมทั้งระบบการดูแลสุขภาพและสังคมโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ข้อมูลอ้างอิง

[1] Kulzer B, Daenschel W, Daenschel I, Schramm W, Messinger D, Weissmann J, Vesper I, Parkin CG, Heinemann L (2018). Integrated personalized diabetes management improves glycemic control in patients with insulin-treated type 2 diabetes: Results of the PDM-ProValue study program. Diabetes Res Clin Pract. 2018 Oct;144:200-212

เกี่ยวกับ โรช

โรช มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองบาเซล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และดำเนินธุรกิจในมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โรช เป็นผู้บุกเบิกของโลกในด้านเวชภัณฑ์และด้านการวินิจฉัยโรค ที่มุ่งเน้นสร้างความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชากรทั่วโลก  ด้วยจุดแข็งทั้งด้านเวชภัณฑ์และด้านการวินิจฉัยโรคที่รวมกันของโรช ทำให้โรชเป็นผู้นำในด้านกลยุทธ์การดูแลรักษาสุขภาพแบบจำเพาะบุคคล (Personalised Healthcare) ซึ่งมุ่งเน้นมอบการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละบุคคลด้วยวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นได้

โรช เป็นหนึ่งในบริษัทไบโอเทคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นผู้คิดค้นยาที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการรักษาโรคมะเร็ง ภูมิคุ้มกันวิทยา โรคติดเชื้อ จักษุวิทยา และระบบประสาท นอกจากนี้ โรชยังเป็นผู้นำของโลกในการวินิจฉัยในห้องปฏิบัติการ การวินิจฉัยโรคมะเร็งจากชิ้นเนื้อ รวมถึงการจัดการโรคเบาหวาน

นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2439 โรชยังคงมุ่งมั่นค้นคว้าวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกัน การวินิจฉัย และการรักษาโรคต่างๆ รวมถึงการตอบแทนคืนสู่สังคมอย่างยั่งยืน   และยังคงเดินหน้าร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงนวัตกรรมทางการแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น  ผลิตภัณฑ์ยาที่โรชคิดค้นขึ้นจำนวน 30 รายการ ได้บรรจุอยู่ในรายการยา Model Lists of Essential Medicines ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งได้แก่ ยาปฏิชีวนะ ยาต้านโรคมาลาเรีย และยารักษามะเร็ง  โรช ได้รับการยกย่องในในฐานะผู้นำของกลุ่ม (Group Leader) ในด้านความยั่งยืนของกลุ่มเวชภัณฑ์ เทคโนโลยีชีวภาพและอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์จากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices) เป็นเวลา 11 ปีต่อเนื่องกัน

กลุ่มบริษัท โรช ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงบาเซล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสำนักงานอยู่ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ ใน พ.ศ. 2562 โรชมีพนักงานทั่วโลกกว่า 98,000 คน และลงทุนมากกว่า 11.7 พันล้านฟรังก์สวิสเพื่อการวิจัยและพัฒนาโดยเฉพาะ  โรชมียอดขายของกลุ่มบริษัทเป็นจำนวนเงินกว่า 61.5 พันล้านสวิสฟรังก์ สำหรับบริษัท Genentech ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทโรช (Roche Group) ที่ทางโรชถือหุ้นทั้งหมด นอกจากนั้น โรชยังถือหุ้นใหญ่ในบริษัท Chugai Pharmaceutical ประเทศญี่ปุ่น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ www.roche.com

เครื่องหมายการค้าที่ใช้หรือถูกกล่าวถึงในข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้ได้รับการสงวนสิทธิ์ตามกฏหมาย