โลกยุคใหม่คือโลกแห่งการทำคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งคอนเทนต์ที่สะท้อนถึงตัวตน หรือสิ่งที่ตนเองสนใจ ซึ่งด้วยแพลทฟอร์มที่หลากหลายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Instagram Facebook TikTokหรือ YouTube ล้วนรองรับและส่งเสริมให้ทุกคนเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ด้วยกันทั้งสิ้น
‘วิดีโอคอนเทนต์’ เทรนด์ใหม่มาแรงที่สุดในทศวรรษนี้
หนึ่งในสื่อหลักที่คนนิยมใช้ในการทำคอนเทนต์ คือ ‘ภาพนิ่ง’ (Still photos) เพราะด้วยความคุ้นเคย ความง่ายและสะดวกรวดเร็ว โดยไม่ต้องคิดถึงการสร้างเนื้อเรื่องก่อน (Storyline) รวมถึงการที่คนส่วนใหญ่คิดว่าการถ่ายวิดีโอต้องมีการวางแผนเนื้อเรื่อง หรือต้องมีความรู้ด้านเทคนิคถึงจะสื่อสารคอนเทนต์ออกมาได้เป็นอย่างดี ทำให้คนไม่ค่อยเลือกบันทึกช่วงเวลาสำคัญต่างๆ ด้วยโหมดวิดีโอมากนัก
แต่ด้วยเทรนด์ที่เปลี่ยนไป จะเห็นได้ว่า ‘วิดีโอ’ คือสื่อที่กำลังมาแรงที่สุดในยุคนี้ ทั้งในมุมของการรับชมคอนเทนต์และการผลิตคอนเทนต์วิดีโอ ดังจะเห็นได้จากผลสำรวจที่ว่าคนไทยใช้เวลาบน YouTube เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า พร้อมทั้งมีคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในช่อง YouTube ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคนมากถึง 450 ช่อง รวมถึงมีจำนวนผู้ใช้ TikTokเพิ่มขึ้น 44.5% ภายใน 4 เดือน โดยมียอดชมวิดีโอ 61.9 พันล้านครั้งต่อเดือน และสร้างวิดีโอ 89.8 ล้านวิดีโอต่อเดือน
สร้างคอนเทนต์ให้ปัง ต้องมาทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
คอนเทนต์เพียงรูปแบบเดียวไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนยุคใหม่อีกต่อไปแล้ว เพราะจากประสบการณ์
การใช้งานที่ผ่านมา ทำให้คนรับรู้ว่าภาพนิ่งและภาพวิดีโอทำหน้าที่ที่แตกต่างกัน โดย ‘ภาพนิ่ง’ จะเป็นการแคปเจอร์ภาพที่เกิดจากความตั้งใจ หรือเป็นการถ่ายทอดวินาทีที่สวยและโดดเด่นที่สุด ซึ่งเราสามารถมาปรับแต่งเพิ่มเติมให้สวยงามมากขึ้นในภายหลังได้ แตกต่างจาก ‘วิดีโอ’ ที่จะถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกเหตุการณ์ หรือสิ่งที่ต้องการจะสื่อสารกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรอบข้างได้ดียิ่งกว่า พร้อมสร้างให้เกิดการมีส่วนร่วมได้ง่ายกว่า ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นคนเริ่มทำคอนเทนต์ทั้งสองแบบเพื่อลงในโซเชียลมีเดียมากขึ้น
โดยวิดีโอคอนเทนต์ถือเป็นรูปแบบสื่อที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงมาก โดยโพสต์ประเภทวิดีโอใน Facebook ได้รับการแชร์มากกว่าภาพนิ่งถึง 65% พร้อมทั้งเทรนด์คนดูและแชร์ต่อโพสต์บน IG Story มากขึ้นถึง 30.23% รวมถึงการมีส่วนร่วมบน Instagram เพิ่มขึ้น 2 เท่า และบน Facebook สูงที่สุดอยู่ที่ 9.52%[1] ในปี 2019 ซึ่งด้วยโซเชียลมีเดียแพลทฟอร์มยอดนิยมในปัจจุบันกว่า 9 ใน 10 ได้พัฒนาให้รองรับทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ทำให้เทรนด์นี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตไปอย่างไม่หยุดยั้งในปี 2021 นี้
คอนเทนต์ที่ดี เริ่มจากการมีเครื่องมือที่ใช่
จากการที่วิดีโอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนมากยิ่งขึ้น โดยทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการนำเสนอตัวตนและความชอบของตนเองบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบคอนเทนต์วิดีโอยาว ที่ทำหน้าที่บรรยายความรู้สึกในรูปแบบที่หลากหลายและแสดงตัวตน ผ่านช่องทาง YouTube หรือคอนเทนต์วิดีโอสั้น เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจในชีวิตประจำวัน
ด้วยพฤติกรรมตามแพลทฟอร์มวิดีโอต่างๆ ทำให้สมาร์ทโฟนถูกใช้งานเพื่อถ่ายวิดีโอมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้การเลือกสมาร์ทโฟนที่มีกล้องคุณภาพดี ฟีเจอร์ยอดเยี่ยม เพื่อมอบการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอที่สร้างคอนเทนต์ได้ดี เป็นหนึ่งในเกณฑ์การตัดสินใจซื้อของคนยุคนี้
Galaxy S21 Series 5G ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์‘การทำคอนเทนต์’ให้เก็บทั้งภาพและวิดีโอได้คุณภาพสูงดั่งมืออาชีพ ถ่ายรูปสวย ครบทุกสีสัน ผ่านเซ็นเซอร์กล้องใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในซัมซุง กาแลคซี่ พร้อมแต่งภาพได้มากกว่าโดยไม่เสียรายละเอียด กับไฟล์ภาพแบบ Raw12-bit มาตรฐาน D.S.L.R รวมถึงการถ่ายวิดีโอระดับ HDR10+ คมชัดทุกสภาพแสง ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ ที่จะช่วยให้การถ่ายวิดีโอง่ายและสนุกขึ้น อย่างโหมด Director’s View กับมุมมองหลากหลายเลนส์ให้เลือกปรับเปลี่ยนได้ขณะถ่าย ไม่ต้องตัดต่อ ใช้งานได้ทันที รวมถึงโหมด Vlogger View ถ่ายคอนเทนต์ผ่านกล้องหน้า-หลังได้พร้อมกัน เพื่อเก็บความประทับใจทุกช็อตได้แบบไม่มีพลาด
พร้อมทั้งยังเหมาะกับ ‘การดูคอนเทนต์’ ด้วยจอแสดงผลรีเฟรชเรท 10 – 120Hz บนความละเอียดสูงระดับ WQHD+ เพื่อการดูคอนเทนต์ได้อย่างลื่นไหล แสดงผลเฉดสีที่แม่นยำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยจอขอบเขตสีกว้างถึง 3 ล้านต่อหนึ่งนอกจากนี้ยังสู้แดดได้ดี ใช้งานกลางแจ้งชัดเจนกับความสว่างจอ 1,500 nits
- Galaxy S21 Ultra 5G เปิดตัวมาใน 2 สีสุดคลาสสิก ได้แก่ Phantom Black และ Phantom Silver
- Galaxy S21+ 5G มาใน 3 เฉดสีสุดโมเดิร์น นำโดย Phantom Violet, Phantom Black และ Phantom Silver
- Galaxy S215G มาใน 3 สี ได้แก่ Phantom Pink, Phantom Gray และ Phantom Violet
พบกับสมาร์ทโฟนสำหรับสายทำคอนเทนต์ อย่าง Samsung Galaxy S21 Series 5G ได้แล้ววันนี้ ในราคาเริ่มต้นที่ 27,900 บาท พร้อมใช้งานฟรี 3 แอปพลิเคชัน เพื่อการสร้างคอนเทนต์ได้ดีขึ้น ทั้ง YouTube Premium สำหรับการดูวิดีโอแบบไม่มีโฆษณาคั่นนาน 4 เดือน[2]Adobe Photoshop Lightroom ปรับแต่งรูปได้ระดับโปร นาน 2 เดือน[3] รวมถึงAdobe Spark Post เพื่อการสร้างคอนเทนต์ทั้งภาพและวิดีโอได้แบบไม่เหมือนใคร นาน 2 เดือน3 ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.samsung.com/th/s21ultra
[1]2019-2020 Thailand Social Media Statistic Report
[2]เฉพาะลูกค้าที่ซื้อและเปิดใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นที่กำหนด ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 –6 มีนาคม 2564 ภายในเวลา 13.59 น. และลงทะเบียนรับสิทธิ์ภายในวันที่ 6 เมษายน 2564 เวลา 13.59 น.
[3]เฉพาะลูกค้าที่ซื้อและลงทะเบียนรับสิทธิ์จากสมาร์ทโฟนรุ่นที่กำหนดภายใน 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 23.59 น. สงวนสิทธิ์ให้เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ครั้งแรก และผู้สมัครต้องไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิ์ทดลองใช้งานฟรีใน Google Music, YouTube Music, YouTube Premium หรือ Adobe มาก่อน