AWC เปิดผลประกอบการปี 63 ขาดทุนอ่วม 1,881 ล้านบาท

แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC ประกาศผลประกอบการในปี 2563 และ ไตรมาส 4/2563 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานวมที่ 6,133 ล้านบาท และ 1,578 ล้านบาท ตามลำดับ หากพิจารณารายได้รวมของไตรมาส 4/2563 เปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2563 รายได้รวมปรับตัวสูงขึ้น 24.60% ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ได้รับประโยชน์จากแผนกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลายและสมดุลเชิงธุรกิจ (Balanced and Diversified Portfolio) ทำให้บริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงานที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตการณ์

วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า

“เราเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในระยะยาว AWC จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างปรากฏการณ์โดยการเปิดโครงการใหม่ระดับแลนด์มาร์ก ที่ผ่านมาเราดำเนินการได้บรรลุตามเป้าหมายของแผนธุรกิจที่วางไว้ ด้วยการเข้าซื้อทรัพย์สินกลุ่ม 3 และการเปิดโครงการ โรงแรมมีเลีย เกาะสมุย โรงแรมบันยันทรีกระบี่ เรือสิริมหรรณพ และลาซาล อเวนิว เฟส 2 เป็นต้น

วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC

การดำเนินการดังกล่าวได้สร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตทรัพย์สินของ AWC ทำให้ ณ สิ้นปี 2563 AWC มีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 125,696 ล้านบาท โดยเติบโตจาก 99,549 ล้านบาท ในปี 2562 อยู่ที่ 26%

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามแผนปรับปรุง ไม่ว่าจะเป็น ตะวันนา บางกะปิ 2 โรงแรมคอร์ทยาร์ด บาย แมริออท ภูเก็ตทาวน์

บริษัทฯ ยังมีนโยบายในการลดค่าเช่าให้กับผู้ประกอบการร้านค้าเช่าในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า (Retail) เพื่อให้สามารถผ่านวิกฤตไปได้ด้วยกันอย่างดีที่สุด ส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ ไตรมาส 4/2563 ที่ 492 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 20.6% จากไตรมาส 3/2563 อย่างไรก็ดีบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคง เนื่องจากการต่อยอดในการดำเนินกลยุทธ์ในการลงทุนที่หลากหลายและสมดุลเชิงธุรกิจ (Balanced and Diversified Portfolio)

  • ธุรกิจโรงแรม และการบริการ (Hospitality)

ยังคงได้รับผลกระทบจากภาพรวมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับรายได้ของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการของบริษัท โดยรายได้ของกลุ่มธุรกิจโรงแรม และการบริการของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จาก 470 ล้านบาทในไตรมาส 3/2563 เป็น 773 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2563 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 64.6%

  • กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail and Commercial)

มีรายได้ปรับตัวสูงขึ้นจาก 836 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2563 เป็น 872 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2563 หรือเพิ่มขึ้น 4.3% เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้า (Retail) ที่มีจำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการ (Traffic) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง