บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ (“VGI”) ผู้นำการตลาด Offline-to-Online (“O2O”) โซลูชั่นส์ บนแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ เผยผลดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2563/64 ธุรกิจเริ่มฟื้นตัว รวมถึงได้รับผลบวกจากการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งแรกของ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“KEX”) จึงส่งผลให้ VGI พลิกมีกำไรสุทธิ 713 ล้านบาท ชดเชยการขาดทุนสะสมในครึ่งปีแรกของปี 2563/64 ที่ผ่านมา
คุณเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2563 เกิดการหดตัวอย่างรุนแรง ส่งผลลบต่อกิจกรรมทางธุรกิจและการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค จนนำไปสู่การลดงบโฆษณาจากหลายบริษัท ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจสื่อโฆษณา อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของประเทศไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สืบเนื่องมาจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการผ่อนคลายข้อจำกัดในกิจกรรมทางสังคมต่างๆ ทำให้ VGI สามารถพลิกกลับมาทำกำไรสุทธิที่ 713 ล้านบาท ชดเชยการขาดทุนสะสมในครึ่งปีแรกของปี 2563/64 ที่ผ่านมา ด้วยรายได้รวมที่ 680 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมีรายได้ 458 ล้านบาท และธุรกิจบริการด้านดิจิทัลมีรายได้ 222 ล้านบาท
ด้านทิศทางดำเนินงานและพัฒนาการสำคัญของกลุ่มบริษัท
ธุรกิจสื่อโฆษณา ยังคงส่งมอบแคมเปญสื่อโฆษณาและการตลาดให้กับลูกค้า ผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้โฆษณาของแบรนด์เข้าถึงในทุกการเดินทางของผู้บริโภค ธุรกิจบริการชำระเงิน บริษัท แรบบิท ไลน์เพย์ จำกัด (“RLP”) ได้เปิดตัวบริการที่มอบความสะดวกสบายในการเติมเงิน ผ่านบริการ app-to-app ที่ได้เชื่อมระหว่าง RLP e-wallet และแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือ ปัจจุบันสามารถใช้ร่วมกับ 3 แอปพลิเคชันของธนาคาร ได้แก่ SCB EASY, K PLUS และ KMA สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ จากการประสบความสำเร็จในการ IPO ของ KEX ที่ผ่านมา โดยในวันแรกของการซื้อขายมีราคาเพิ่มขึ้นถึง 132 % จากราคา IPO ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวนับเป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัทฯ โดยมี VGI เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้การโฆษณาการ IPO ครั้งนี้ มีประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านการใช้สื่อโฆษณาในทุกแพลตฟอร์มของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อสร้างการรับรู้ (awareness) สร้างการมีส่วนร่วม (engagement) และกระตุ้นให้เกิดการซื้อขาย (conversion) แก่นักลงทุนรวมถึงผู้ที่สนใจในหุ้นของ KEX ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากลยุทธ์ Offline-to-Online (“O2O”) ของ VGI สามารถส่งมอบโซลูชั่นส์ทางการตลาดได้อย่างครบวงจร ทั้งยังสร้างการรับรู้ที่มีต่อแคมเปญต่างๆ ให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
“สถานการณ์ที่ท้าทายจากการเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรค COVID-19 ภายในประเทศ และความล่าช้าในแผนการกระจายวัคซีนของภาครัฐ รวมทั้งปัจจัยความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในระดับโลก ได้สร้างแรงกดดันให้เกิดความไม่แน่นอนต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ทั้งบริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับการมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อเทรนด์ New Normal รวมถึงมุ่งเน้นในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินและการเพิ่มสภาพคล่องของบริษัทฯ สำหรับการเตรียมพร้อมรองรับของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ด้วยรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายและประสบการณ์การรับมือต่อวิกฤตที่ผ่านมา ทำให้เราเชื่อมั่นว่า VGI จะสามารถเอาชนะความท้าทายนี้ พร้อมทั้งมอบประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทุกท่านได้อีกครั้ง” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของบริษัท ให้แก่ผู้ถือหุ้นรวมมูลค่า 172.2 ล้านบาทในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท ให้แก่ มีชื่อผู้ถือหุ้นปิดสมุดทะเบียนวันที่ 1 มีนาคม 2564 (Record Date) วันที่จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลคือ 15 มีนาคม 2564