ผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีของไต้หวัน โดยเฉพาะบริษัทผลิต ‘ชิป’ ซึ่งกำลังขาดตลาดอยู่ในขณะนี้ กำลังกลัวว่ากำลังผลิตของบริษัทจะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งที่เลวร้ายที่สุดของเกาะในรอบหลายทศวรรษของไต้หวัน เนื่องจาก ‘น้ำ’ เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต
ไต้หวันเป็นแหล่งชิปขั้นสูงที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่ขับเคลื่อนทุกอย่างตั้งแต่รถยนต์, โทรศัพท์ ไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์และเกมคอนโซล ขณะที่การผลิตชิปต้องใช้ ‘น้ำปริมาณมาก’ แต่แหล่งกักเก็บน้ำในไต้หวันมีน้อยมาก โดยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลไต้หวันได้คุมเข้มการใช้น้ำในหลาย ๆ เมือง ซึ่งบางเมืองเป็นที่ตั้งของกลุ่มผู้ผลิตรายสำคัญ อย่างบริษัทผู้ผลิตในเมืองเจียอี้และไถหนานซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company ซึ่งเป็นผู้รับจ้างผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้ผลิตชิปของ iPhone ได้ถูกขอให้ลดการใช้น้ำ 7%
ความกังวลเรื่องน้ำเกิดขึ้นเมื่อชิปกำลังเกิดปัญหาการขาดแคลนทั่วโลก โดยไต้หวันเองสัญญาว่าจะช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐฯ, เยอรมนี และญี่ปุ่น โดยเร่งการผลิตชิปยานยนต์เพื่อลดปัญหาการผลิตรถยนต์ทั่วโลก
“อุตสาหกรรมทั้งหมดมีความกังวลว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเร็ว ๆ นี้ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเห็นสถานการณ์ที่เลวร้ายแต่ตอนนี้ผู้ผลิตชิปกำลังเจอปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ ซึ่งกระทบกับการผลิต” ผู้บริหารของ Winbond ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำชั้นนำ กล่าว
ไม่ใช่แค่ปริมาณ แต่คุณภาพน้ำก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสายการผลิต และมันอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้ ดังนั้นจึงต้องมีการจัดการอย่างระมัดระวัง ซึ่งจนถึงขณะนี้ หลายบริษัทยังพอรับมือกับสถานการณ์ได้ โดยบางบริษัทได้ใช้น้ำบาดาล แต่ถ้าฝนไม่ตกอย่างเหมาะสมและยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม นั่นจะเป็นปัญหาใหญ่อย่างแท้จริง
Unimicron ผู้ผลิตบอร์ดสร้างฟิล์ม ajinomoto รายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสำคัญสำหรับชิปประมวลผลยานยนต์ระดับไฮเอนด์และชิปที่ใช้ในสถานีฐาน 5G กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนน้ำเป็นเรื่องที่น่ากังวลโดยเฉพาะในเมืองซินจู๋ซึ่งเป็นหัวใจของอุตสาหกรรมชิป
“เราสำรองน้ำและเราจะใช้เช่าซื้อน้ำเพื่อสนับสนุนการใช้งานของเราหากจำเป็น แต่ถ้าเราไม่มีฝนตกต่อไป…มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะแก้ไขปัญหานี้” Michael Shen CFO ของ Unimicron กล่าว
ปัจจุบัน อัตราการกักเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำเป่าซานและเป่าซานสอง ซึ่งอยู่ในอุทยานวิทยาศาสตร์ซินจู๋อยู่ที่ 25.6% และ 14.7% สำหรับอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งที่อุทยานวิทยาศาสตร์ไถจงมีอัตราการกักเก็บอยู่ที่ 16.6% และ 13.9% ตามลำดับในขณะที่อ่างเก็บน้ำของ Tainan Science Park อยู่ที่ 15% เท่านั้น ข้อมูลจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแสดงให้เห็นว่าอ่างเก็บน้ำเหล่านี้จะสามารถจ่ายน้ำได้ภายใน 30-60 วันเท่านั้น เว้นแต่จะมีปริมาณน้ำฝนเพียงพอที่จะเติมเต็มได้
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการผลิตชิปของไต้หวันมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากสหรัฐอเมริกา และถือเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจไต้หวัน อย่างไรก็ตาม การจัดหาน้ำ, ไฟฟ้า และแรงงานที่มีอยู่อย่างจำกัดของไต้หวันทำให้เกิดความไม่แน่นอนสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว