สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักสาธารณสุขสวีเดนประกาศระงับการใช้งานวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) เนื่องจากเสี่ยงพบผลข้างเคียงร้ายแรงเพิ่มขึ้น
ก่อนหน้านี้หลายประเทศตัดสินใจระงับการใช้งานวัคซีนของแอสตราเซเนกา หลังมีรายงานว่าอาจเกี่ยวข้องกับอาการลิ่มเลือดอุดตัน และเลือดออกในสมอง ทว่าแอนเดอร์ส เท็กเนล นักระบาดวิทยาของสวีเดนระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของสวีเดน อ้างอิงรายงานในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่ไม่เคยพบมาก่อน
ผลข้างเคียงที่พบข้างต้นส่วนหนึ่งเป็นอาการลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งพบในคนหนุ่มสาวหลังรับวัคซีน โดยเท็กเนลกล่าวกับสถานีโทรทัศน์สวีดิช เทเลวิชัน ว่าประเทศอื่นๆ ในแถบยุโรป รายงานการตรวจพบผู้มีอาการดังกล่าว 10-15 ราย
“อาการลิ่มเลือดอุดตันที่ถูกพบครั้งนี้มีความร้ายแรงกว่า และไม่เหมือนกับที่เคยถูกรายงานก่อนหน้านี้ ซึ่งพบในคนที่อายุอ่อนกว่า และตอนนี้ยังไม่พบผู้มีอาการลิ่มเลือดอุดตันข้างต้นมีโรคร่วมหรือไม่” เท็กเนลกล่าวถึงรายงานชิ้นใหม่ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มี.ค. พร้อมเสริมว่าตรวจพบผลข้างเคียงดังกล่าวหลังรับวัคซีนสองสัปดาห์
“การตัดสินใจระงับใช้งานวัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นมาตรการเฝ้าระวังล่วงหน้า เรามีความรู้ความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับวัคซีนตัวนี้ แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะระงับการใช้งานจนกว่าองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) สืบสวนว่าผลข้างเคียงนี้เกี่ยวข้องกับวัคซีนของแอสตราเซเนกาหรือไม่”
ริชาร์ด เบิร์กสตรอม ผู้ประสานงานวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ฯ ว่าการระงับใช้งานวัคซีนของแอสตราเซเนกาอาจนานไม่กี่วัน เพราะเขาเชื่อว่าองค์การฯ จะทำการตัดสินใจในวันพฤหัสบดีที่ 18 มี.ค. และหวังว่าการระงับใช้งานจะไม่กินเวลานาน