กลุ่มทรู โดย ทรู อินคิวบ์ มุ่งสนับสนุนการเติบโตและลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งไทยและต่างประเทศที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัยมาขับเคลื่อนธุรกิจ ประกาศร่วมลงทุนใน “เครดิต โอเค” สตาร์ทอัพด้านฟินเทค (FinTech) สัญชาติไทย ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มรวมผลิตภัณฑ์ทางการเงินและประกัน ปลดล็อกข้อจำกัดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ เพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจเดินหน้าได้ไม่สะดุด เปิดวงเงินเครดิตเพื่อซื้อสินค้าจากคู่ค้าพันธมิตร อนุมัติวงเงินเร็ว ด้วยระบบคะแนนเครดิต (Credit Scoring) จากการวิเคราะห์ข้อมูล ไม่ต้องเช็คเครดิต บูโรโดย ทรู อินคิวบ์จะนำศักยภาพระบบนิเวศดิจิทัลของกลุ่มทรู ร่วมพัฒนาโซลูชันการให้คะแนนเครดิตที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการประเมินความเสี่ยงและอนุมัติวงเงินได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พร้อมสนับสนุนการขยายฐานลูกค้าของเครดิตโอเคสู่ผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มใหม่ๆ เตรียมต่อยอดความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยเร่งการเติบโตให้ “เครดิต โอเค” บรรลุเป้าหมายในการ ปลดล็อกเงินทุนหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยและองค์กรในประเทศไทยในปี 2564 ทั้งนี้ การลงทุนของ ทรู อินคิวบ์ ในครั้งนี้ เป็นการร่วมลงทุนในรอบการลงทุนแรก (Seed Round) ของ “เครดิต โอเค” ซึ่งนำโดย Wavemaker Partners องค์กรชั้นนำและบริษัทร่วมทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่นกล่าวว่า “ทรู อินคิวบ์ มีพันธกิจในการสร้างแรงบันดาลใจ สนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมและบ่มเพาะสตาร์ทอัพให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตลอดจนลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพการเติบโตและมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งจะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ล่าสุด ทรู อินคิวบ์ ได้ร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพฟินเทค “เครดิตโอเค” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรวบรวมผลิตภัณฑ์ทางการเงินและประกันภัย สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ที่มุ่งช่วยเสริมสภาพคล่องแก่ธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็กและขนาดย่อม (Micro SMEs) ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ โดยใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Analytics) ในการสร้างระบบคะแนนเครดิต (Credit Scoring) เพื่อประเมินความเสี่ยงและอนุมัติวงเงินเครดิตในการซื้อสินค้าจากพันธมิตรคู่ค้าของเครดิตโอเค โดยทรู อินคิวบ์ จะผสานความเชี่ยวชาญของทีมนักวิเคราะห์ข้อมูลในกลุ่มทรูในการร่วมพัฒนาโซลูชันการให้คะแนนเครดิตที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเพื่อเสริมศักยภาพในการประเมินความเสี่ยงและกำหนดวงเงินอนุมัติที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ตลอดจนสนับสนุนการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นพันธมิตรกับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกในเครือเจริญโภคภัณฑ์อีกด้วย มั่นใจว่า การร่วมลงทุนกับ “เครดิตโอเค” ในครั้งนี้ จะเสริมความแข็งแกร่ง สร้างการเติบโต เพิ่มมูลค่าของบริษัทสตาร์ทอัพไทย และที่สำคัญช่วยต่อลมหายใจของผู้ประกอบการรายย่อย ทำให้สามารถเดินหน้าธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่ต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นการช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศด้วยเครดิต โอเคเป็นสตาร์ทอัพด้านการเงินที่เปิดตัวตั้งแต่ปี2561มุ่งช่วยแก้ปัญหาในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อยและเอสเอ็มอี ด้วยแพลตฟอร์มที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และประกัน โดยใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และนำ Machine Learning มาประเมินความเสี่ยง ประมวลผลเป็นคะแนนเครดิต (Credit Scoring) ช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาการพิจารณาอนุมัติและกำหนดวงเงินเครดิตให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยโดยผู้ประกอบการสามารถเปิดวงเงินเครดิตได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการสมัคร อนุมัติเร็วภายใน 3 วันทำการเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อของและวัตถุดิบจากพันธมิตรของเครดิตโอเค ที่เป็นผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย ทั้งร้านจัดจำหน่ายและทางออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ รวมถึงโมเดิร์นเทรดซื้อก่อน จ่ายทีหลังระยะเวลาเครดิต 30-45 วันไม่คิดดอกเบี้ยวงเงินอนุมัติตรงกับความต้องการและยอดซื้อ ช่วยให้ผู้ประกอบการมีเงินหมุนเวียนตลอด และสามารถขยายกิจการได้
นายยิ่งยง ตันธนพงศ์พันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครดิต โอเคกล่าวว่า “นับเป็นก้าวสำคัญที่ เครดิต โอเค ได้ผู้ร่วมลงทุนอย่างทรู อินคิวบ์ ที่นอกจากจะเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงินเพื่อการขยายธุรกิจสตาร์ทอัพแล้ว ยังเป็นโอกาสที่เครดิต โอเคได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในระบบนิเวศของกลุ่มทรู ที่มีความแข็งแกร่งในบริการดิจิทัลครบวงจร ซึ่งจะเสริมศักยภาพการเติบโตของเครดิต โอเค ในด้านการนำเทคโนโลยีการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลมาใช้พัฒนาระบบคะแนนเครดิต (Credit Scoring) ให้มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงการขยายฐานลูกค้าเข้าถึงผู้ประกอบการรายย่อยกลุ่มใหม่ๆ ได้กว้างมากขึ้น โดยเฉพาะคู่ค้ากลุ่มธุรกิจค้าปลีกในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งจะติดปีกให้เครดิต โอเคสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยเครดิต โอเคเน้นการให้เครดิตแก่ธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 50 ล้านบาท รวมถึงผู้ประกอบการในระดับบุคคลธรรมดาทั้งที่จดและไม่จดทะเบียนการค้า ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดของธุรกิจในประเทศไทย ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น ผู้รับเหมาก่อสร้าง ร้านค้าช่วงธุรกิจขนส่งของอู่ซ่อมรถ โรงงานผลิต เกษตรกร โรงแรมร้านอาหาร คาเฟ่ และโชห่วย ซึ่งส่วนมากเป็นกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มั่นใจว่า เครดิต โอเค จะเติบโตต่อไปได้อย่างเข้มแข็งท่ามกลางวิกฤต และสามารถบรรลุเป้าหมายในการปลดล็อกเงินทุนหมุนเวียนกว่า 400 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศไทยในปี 2564
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เครดิต โอเค สามารถดูได้ที่ https://www.creditok.co/