เคลียร์…มั้ย ?

ถึงแม้ว่าจะสร้างแบรนด์จนเป็นที่รู้จัก ทั้ง“เคลียร์” แชมพูดขจัดรังแคดั้งเดิม และยังประสบความสำเร็จกับการทรานสฟอร์มแบรนด์สู่ตลาดผู้ชาย “เคลียร์เมน” ได้ผ่านฉลุย แต่ทั้งสองแบรนด์ก็ยังมีโจทย์ใหญ่รออยู่ นั่นคือ การที่ผู้บริโภคใช้แชมพูขจัดรังแคไม่ต่อเนื่อง มักจะใช้แชมพูขจัดรังแคเฉพาะในช่วงที่มีปัญหา พอเลิกเป็นก็เปลี่ยนไปใช้แชมพูยี่ห้ออื่นแทน ทำให้ตลาดแชมพูดขจัดรังแค่มี Penetration ต่ำมาโดยตลอด มีเพียงแค่ 40% เพราะขณะที่ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมโดยรวมมี Penetration มากกว่า 90%

ยูนิลีเวอร์ จึงต้องออกแคมเปญใหญ่แบบคู่ดูโอ รองรับทั้งแบรนด์ เคลียร์ และเคลียร์เมน สร้างสัมพันธ์กับผู้บริโภคผ่านแคมเปญ “เคลียร์รังแค เคลียร์ใจ 100%” โดยหยิบเอา “Emotional Benefit “ มาดึงดูดใจผู้บริโภค เช่น การเชื่อมโยงรังแคซึ่งเป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจกับปัญหาคาใจต่างๆ เพื่อสร้าง Consumer Engagement ให้แนบแน่นและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังคงเน้น Functional Benefit เช่นเคยตามสโลแกน “จุดจบของรังแค”

เคลียร์ปูทาง Emotional Benefit เข้ามา ตั้งแต่การเลือกพลอย เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์เมื่อราวปีเศษที่ผ่านมา เพื่อสื่อสารถึงความสวยงามของเส้นผมที่สามารถเกิดขึ้นได้ แม้ใช้แชมพูขจัดรังแค

“พลอยเป็นตัวแทนขจัดข้อข้องใจว่าเคลียร์ไม่ใช่แค่มีประสิทธิภาพเหมือนยาที่ขจัดรังแคได้ แต่บำรุงผมให้นุ่มสลวยได้เช่นกัน” สุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการตลาดผลิตภัณฑ์เส้นผมและทันตผลิตภัณฑ์ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด บอก

เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคคนไทยมี Mindset ในเรื่องป้องกันน้อย จะใช้ตอนที่แก้ปัญหา ต่างจากพฤติกรรมผู้บริโภคในต่างแดนที่มักจะสลับกันใช้ 2 ขวด การสร้าง Emotional ในลักษณะนี้จะช่วยทำให้ผู้บริโภคเกิดInteractive กับแบรนด์มากขึ้น และเชื่อมโยงกลับมาที่ผลิตภัณฑ์ เห็นผลเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น

“หากปรับ Mindset ดังกล่าวได้ จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแบบขจัดรังแคที่จะติดสปริงบอร์ดเติบโตได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน” สุทิพา บอก

แต่แคมเปญในลักษณะนี้ ต้องอาศัยการสื่อสารแบบ 360 องศา โดยมี TVC เป็นตัวสร้าง Brand Awareness โดยใช้คู่รักดารา “พลอยและนาวิน ต้าร์” เรียกความสนใจในระดับแมส และใช้สื่อออนไลน์กระตุ้น Interactive และยอดขาย ซึ่งยูนิลีเวอร์ได้อัดฉีดงบผ่านสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้นคิดเป็นสัดส่วน 20%

“ผู้บริโภคสามารถโทรศัพท์ไปยังช่องทางที่มี 4 คนดัง คือ โอปอล มาริโอ้ ดีเจพี่อ้อย และครูลิลลี่ คอยให้คำปรึกษาในปัญหาคาใจเรื่องอะไรก็ได้ ไม่เฉพาะความรัก หรือจะเข้าไปในเว็บไซต์ www.clearjai.com เลือกขอคืนดีผ่านเสียงของแฮมสเตอร์ แพนด้า และชิวาว่า ซึ่งจะมีการ Share ผ่าน Facebook ด้วย”

ขณะเดียวกัน ตัวบรรจุภัณฑ์ ถูกนำมาใช้เพื่อสร้าง Instant Participation และกระตุ้นให้เกิดยอดขาย เมื่อซื้อขนาด 380 มล.ขึ้นไป นำไปขูดรหัสไปลงทะเบียนก็จะได้ลุ้นแพ็กเกจไปเที่ยวญี่ปุ่นและไอโฟน 4

ดังนั้นไม่ว่าผู้บริโภคจะรับสื่อแบบไหน ช่องทางใด ก็มีโอกาสที่จะมี Interactive กับแคมเปญนี้ของเคลียร์และเคลียร์ เมน ได้แบบ 360 องศา ขณะเดียวกันจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ราว 1 ล้านคน และยังกระตุ้นให้เคลียร์ เมน ซึ่งมีสัดส่วนยอดขายเพียง 10% ของเคลียร์ทั้งหมด ให้มียอดขายตามไปด้วย หากสื่อสารให้ผู้ชายเข้าใจถึง เข้าใจถึงความสำคัญของปัญหารังแค

ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม มูลค่า 13,000 ล้านบาท (by segment)
เพื่อความงาม 9,380 ล้านบาท
ขจัดรังแค 2,970 ล้านบาท
เด็ก 650 ล้านบาท