ยอดสมาชิก HBO ไตรมาสแรกโต 34% คาดกลยุทธ์ “ฉายหนังชนโรง” ในสตรีมมิ่งได้ผล

(Photo : Shutterstock)
HBO ประกาศตัวเลขรวมยอดสมาชิกเคเบิลและสตรีมมิ่งแตะ 44.2 ล้านคนในสหรัฐฯ โต 34% จากช่วงเดียวกันปีก่อน คาดเป็นผลจากกลยุทธ์ “ฉายหนังชนโรง” ในสตรีมมิ่ง แต่นักวิเคราะห์ยังไม่วางใจ เพราะหากการเข้าโรงหนังกลับมาเป็นปกติ กลยุทธ์นี้อาจหมดเสน่ห์ดึงดูดได้

WarnerMedia ประกาศตัวเลขรวมยอดสมาชิกเคเบิล HBO และสตรีมมิ่ง HBO Max เฉพาะในสหรัฐฯ สูงขึ้นแตะ 44.2 ล้านคนเมื่อสิ้นไตรมาส 1/2021 โดยเติบโต 34% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

หากวัดเฉพาะสตรีมมิ่ง HBO Max มีสมาชิก 11.1 ล้านคน เฉพาะไตรมาส 1/2021 มีสมาชิกใหม่ 2.7 ล้านคน

“HBO Max ยังคงมียอดสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแรงต่อเนื่อง จากกลยุทธ์ฉายหนังชนโรง และการปล่อยคอนเทนต์ใหม่ที่แข็งแรงขึ้นเช่นกัน” จอห์น สแตนกี้ ซีอีโอ AT&T บริษัทแม่ของ WarnerMedia เปิดเผยกับกลุ่มนักลงทุน

“กลยุทธ์ฉายหนังชนโรง” ในสตรีมมิ่งของ Warner Bros. เริ่มจากเรื่องแรกที่ได้ลงฉายใน HBO Max พร้อมกับในโรงคือ Wonder Woman 1984 ซึ่งเปิดตัวในวันคริสต์มาส 2020

Godzilla vs. Kong ภาพยนตร์ที่เข้าฉายพร้อมกันทั้งในโรงและ HBO Max

ตามด้วยลิสต์หนังปี 2021 อีกจำนวนมากที่จะฉายพร้อมกับในโรงที่คาดว่าจะดึงสมาชิกเข้ามาได้อีกมาก ล่าสุดคือเรื่อง Godzilla vs. Kong และที่กำลังจะฉายอีกหลายเรื่อง เช่น The Little Things, Judas and the Black Messiah, Tom & Jerry, Justice League เป็นต้น

 

ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วย

จุดเริ่มต้นของกลยุทธ์นี้ คือการปรับตัวเพื่อรับมือโรคระบาดซึ่งทำให้โรงภาพยนตร์ทั่วสหรัฐฯ ต้องปิดบริการชั่วคราวหลายครั้ง ส่งผลให้ภาพยนตร์ก็ต้องเลื่อนวันฉายตามไปด้วย รวมถึงคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่กำลังถ่ายทำเพื่อลงฉายใน HBO Max ก็ต้องเลื่อนออกกอง

ผลสุดท้ายคือ WarnerMedia ตัดสินใจนำคอนเทนต์ลงโรงมาฉายคู่ในสตรีมมิ่งเสียเลย (ไม่ใช่แค่ WarnerMedia ที่ตัดสินใจแบบนี้ เพราะ Disney+ ก็ใช้กลยุทธ์แบบเดียวกันกับ Mulan)

การตัดสินใจของ WarnerMedia ไม่ได้ทำให้ทุกคนพอใจ เพราะชุมชนผู้ผลิตภาพยนตร์และเอเยนซี่ดารานักแสดงไม่ได้รับแจ้งก่อนถ่ายทำว่าหนังจะลงฉายคู่ใน HBO Max ด้วย และอาจจะมีปัญหาด้านการแบ่งผลกำไรตามมา

อีกความกังวลที่เกิดขึ้นคือเรื่องของความยั่งยืนของนโยบาย “ไมเคิล แพตเชอร์” นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก Wedbush Securities มองว่ากลยุทธ์ฉายหนังชนโรงในสตรีมมิ่งอาจจะเป็นกลยุทธ์ที่ “เฉพาะหน้า” เกินไป เพราะขณะนี้ประชากรวัยผู้ใหญ่ของสหรัฐฯ ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส และโรงภาพยนตร์ก็กลับมาเปิดบริการแล้ว

อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่ากลยุทธ์นี้ WarnerMedia จะใช้ถึงแค่สิ้นปี 2021 เท่านั้น เพราะเมื่อเดือนก่อน Warner Bros. เซ็นสัญญากับ Cineworld ผู้จัดจำหน่ายหนัง ดีลสิทธิลงฉายหนังได้ก่อนใครเป็นเวลา 45 วัน เริ่มสัญญาปี 2022 นั่นเท่ากับว่า ปีหน้าการฉายหนังในโรงก่อนสตรีมมิ่งน่าจะกลับมาอีกครั้งหนึ่งสำหรับเครือ WarnerMedia

ส่วนกลยุทธ์ต่อไปของ HBO Max ที่จะต้องต่อสู้กับสารพัดยักษ์ใหญ่สตรีมมิ่งที่นำหน้าไปก่อนแล้ว เช่น Netflix, Amazon, Disney+ ต้องรอเดือนมิถุนายนนี้ เพราะ HBO Max แย้มๆ ว่าจะมีการเปิดตัวระบบสมาชิกแบบมีโฆษณาในแอปฯ เพื่อให้สมาชิกจ่ายถูกลง

รวมถึงจะเริ่มเปิดตัวไล่ตามคู่แข่งในต่างประเทศ เริ่มจากภูมิภาคละตินอเมริกาก่อน ต่อด้วยทวีปยุโรปภายในสิ้นปีนี้ โดยเมื่อเปลี่ยนเป็น HBO Max คอนเทนต์ในสตรีมมิ่งจะจัดเต็มครบครันกว่าเดิม

Source