เยอรมนีได้ประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่เพื่อลดการติดเชื้อระลอกที่สาม โดยมาตรการดังกล่าวคาดว่าจะมีผลจนถึงเดือนมิถุนายน ส่งผลให้เกิดการประท้วงเกิดขึ้นในหลายเมือง
เยอรมนีได้ออกมาตรการเคอร์ฟิวเพื่อชะลอการระบาดในระลอกที่สาม ซึ่งการออกมาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากในช่วง 7 วันที่ผ่านมา อัตราการติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่สัดส่วน 161 คนต่อประชากร 100,000 คน ทั้งนี้ การติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการแพร่กระจายของสายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อมากขึ้น
มาตรการดังกล่าวจะเน้นภูมิภาคที่มีอัตราผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 คนจากประชากรทั้งหมด 100,000 คน ซึ่งมีถึง 16 รัฐ ที่มีผู้ติดเชื้อสูงเกินเกณฑ์ นอกจากนี้ยังออกมาตรการเคอร์ฟิว ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 22.00 น. ถึงตี 5 โดยจะอนุญาตให้ออกจากบ้านได้เฉพาะในกรณีที่ต้องไปหรือกลับจากที่ทำงาน, ไปขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ หรือพาสุนัขไปเดินเล่น
อย่างไรก็ตาม มีประชาชนส่วนหนึ่งที่ไม่พอใจกับมาตรการดังกล่าว ส่งผลให้มีการเดินขบวนเล็ก ๆ เกิดขึ้นในหลายเมือง อาทิ แฟรงก์เฟิร์ตและฮันโนเวอร์ แม้ว่าจะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นก็ตาม
Olaf Scholz รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า เขาไม่คิดว่ามาตรการต่าง ๆ จะคลี่คลายลงก่อนสิ้นเดือนพฤษภาคม ขณะที่ Jens Spahn รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
“สถานการณ์ร้ายแรง และไม่ได้มีแค่การฉีดวัคซีนที่ลดการแพร่ระบาดได้ แต่ต้องลดการสัมผัสและลดการแพร่เชื้อเท่านั้น ถึงจะสามารถยับยั้งการระบาดรอบที่สามได้”
ทั้งนี้ มีชาวเยอรมันได้รับวัคซีนแล้ว 606,000 คน และภายในต้นเดือนพฤษภาคม รัฐบาลตั้งเป้าจำนวนผู้ได้รับวัคซีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด และภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม คาดหวังว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มเป็น 1 ใน 3