IRPC เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 5 รุ่น อายุ 3 – 15 ปี อันดับความน่าเชื่อถือ A-(tha) พฤษภาคมนี้ มุ่งเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่าน 7 สถาบันการเงิน โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A-(tha) จากฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) สะท้อนถึงความได้เปรียบในการแข่งขันในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเลียมและธุรกิจปิโตรเคมีแบบครบวงจรที่มุ่งเน้นนวัตกรรมวัสดุและการใช้พลังงานแห่งอนาคต ที่สร้างสมดุลในด้านสังคมสิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล

นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า IRPC เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 5 รุ่น ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ ประกอบด้วยหุ้นกู้อายุ 5 ปี เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป  อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 3 ปี 7 ปี 10 ปี และ 15 ปี เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่  ซึ่งจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ พร้อมกับกำหนดมูลค่าของการออกหุ้นกู้ โดยกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุของหุ้นกู้ คาดว่าจะเปิดจองซื้อในวันที่ 17 – 1 9 พฤษภาคมนี้ ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารทหารไทย และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร

สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อนำไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด พร้อมขยายธุรกิจของ IRPC โดยมีโครงการลงทุนที่สำคัญ ได้แก่  โครงการผลิตเม็ดพลาสติก PP เกรดพิเศษสำหรับผลิตผ้าไม่ถักไม่ทอ (Non–woven Fabric) หรือ Melt blown รวมถึงการร่วมทุนกับ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (บริษัทย่อยที่ ปตท. ถือหุ้นทั้งหมด) ในการจัดตั้ง บริษัท อินโนโพลีเมด จำกัด เพื่อผลิตผ้า Melt blown ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสำคัญสำหรับผ้าชั้นกรองหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 ชุดกาวน์ และแผ่นกรองอากาศ เป็นต้น คาดว่าจะดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ และการสร้างห้องปฏิบัติการทดสอบคุณภาพของอุปกรณ์ทางการแพทย์ ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ปีนี้ รวมทั้ง โครงการปรับปรุงการผลิตเพื่อรองรับมาตรฐานน้ำมัน EURO V คาดว่าจะดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4 ปี 2566 รวมถึงการมองหาพันธมิตร เพื่อสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจ

ทั้งนี้ เพื่อต่อยอดทางธุรกิจและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และความสามารถในการเติบโตของ IRPC ในระยะยาว ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษมีมูลค่าสูง (High Value Products: HVP) ที่ใช้งานได้อย่างหลากหลายมากขึ้น (Smart Material) และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ  เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ทุกรูปแบบ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสุขอนามัย เป็นต้น

ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด Covid-19 ทำให้ปี 2563 เกิด Stock Loss สูง และส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ต่ำ สำหรับปีนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นมากจากต้นปี  ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในเรื่อง stock gain รวมทั้งส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมียังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุอาหาร ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสุขอนามัย และชิ้นส่วนยานยนต์

หุ้นกู้ของ IRPC เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุนในสภาวะตลาดที่มีความไม่แน่นอนและผันผวนสูงเช่นนี้ เนื่องจากสามารถให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ A-(tha) จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564

ทั้งนี้ IRPC เป็นหนึ่งในแกนนำสำคัญของธุรกิจปิโตรเคมี (Petrochemical Flagship) ของกลุ่มปตท. โดย ปตท. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 45.05% นอกจากนี้ IRPC ยังประกอบธุรกิจสาธารณูปโภค ได้แก่ ท่าเรือ คลังน้ำมัน และโรงไฟฟ้าที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจในประเทศ

สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ IRPC สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณ 100,000 บาท โดยศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th และสามารถติดต่อผู้จัดการการจัดจำหน่ายตามรายละเอียดด้านล่าง รวมทั้งสามารถทำการจองซื้อหุ้นกู้ผ่านช่องทาง online ของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เว้นแต่ธนาคารทหารไทย ได้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ลงทุนภายใต้สถานการณ์ Covid-19 ในปัจจุบัน

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โทร. 1333 หรือ Bualuang mBankin‪g

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 หรือ MoneyConnect by Krungthai

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 กด 819 โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคลจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-6784 หรือ SCB Easy App

ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 1558 กด #9

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 หรือ Mobile application – CIMB Thai Digital Banking

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-165-5555