จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงพร้อมที่จะให้สนับสนุนการทำงานของแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งในโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศต่อเนื่อง ทั้งในด้านการสนับสนุนคลังอาหาร อาทิ น้ำดื่ม อาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูป (ข้าวรีทอร์ท) รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นในกรณีเร่งด่วนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งในปัจจุบัน กลุ่มบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ให้การสนับสนุนด้านอาหารอย่างเต็มพิกัดทั้งอาหารสด อาหารแช่แข็ง อาหารพร้อมทาน (ข้าวรีทอร์ท) น้ำดื่ม ให้กับกว่า 70 โรงพยาบาลหลักและรพ.สนามทั่วประเทศ รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ เครื่องตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด Fingertip Pulse Oximeter ฯลฯ เพื่อช่วยในการติดตามอาการให้กับศูนย์กู้ชีพ “นเรนทร” รพ.ราชวิถี และกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนรวมทั้งกำลังพลและครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ตามที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ของประเทศไทย ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 64 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันและสถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีผู้ป่วยติดเชื้อรายวันกว่าหนึ่งพันคนต่อวัน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมได้พุ่งขึ้นถึงกว่า 6 หมื่นคน และยอดผู้เสียชีวิตมากขึ้นในแต่ละวัน
“กลุ่มบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด พร้อมที่จะให้การสนับสนุนการทำงานของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์อย่างเต็มที่ ในการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งในโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามที่รับผู้ป่วย ซึ่งได้สนับสนุนไปแล้วกว่า 70 แห่ง โดยกลุ่มบริษัทฯได้ช่วยเหลือผ่านเครือข่ายสิงห์อาสาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงใช้โรงงานหลักของบริษัทฯ ที่อยู่ในหลายจังหวัดเป็นตัวหลักในการส่งมอบความช่วยเหลือในแต่จะจังหวัดแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศไทย” จุตินันท์ กล่าว
ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้สนับสนุนการทำงานของบุคลากรการแพทย์มาโดยตลอดด้วยความห่วงใย อาทิ มอบเงินสนับสนุนด้านการทำงานแก่บุคลากรการแพทย์แก่โรงพยาบาลหลัก 26 แห่ง 50 ล้านบาทเพื่อจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ช่วยเหลือการดูแลรักษาผู้ป่วยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อให้กับบุคลากรทางการแพทย์ อีกทั้งยังสนับสนุนอาหารและน้ำดื่มให้กับโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนกระจายความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผ่านโครงการสิงห์อาสาทั่วประเทศ ได้แก่ โครงการสิงห์อาสาจ้างงาน สร้างรายได้ ให้ชาวบ้านในท้องถิ่นทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครดูแลท้องถิ่นตน และโครงการสิงห์อาสา สร้างงานสร้างอาชีพ เปิดอบรม 3 กลุ่มทักษะ ได้แก่ กลุ่มทักษะวิชาชีพทางด้านอาหาร ต่อยอดสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก, กลุ่มทักษะวิชาชีพทางด้านงานช่าง และกลุ่มทักษะทางด้านวิสาหกิจชุมชน รวมเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งยังคงดำเนินอยู่จนถึงปัจจุบัน