Reckitt รายงานยอดขายไตรมาส 1/2021 ถุงยางแบรนด์ Durex เติบโต “ดับเบิล ดิจิต” ตามเทรนด์การคลายล็อกดาวน์ในหลายประเทศทั่วโลก ขณะเดียวกัน แบรนด์ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่าง Dettol ยังเติบโตต่อเนื่อง สวนทางกับสินค้ากลุ่มยาและนมผงที่มีดีมานด์ลดลง
Reckitt Benckiser บริษัทแม่ของแบรนด์ถุงยาง Durex เปิดเผยว่า ยอดขายแบรนด์ในไตรมาส 1 ปี 2021 เติบโตได้แบบ “ดับเบิล ดิจิต” เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อนซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของโรคระบาด บริษัทระบุว่าผู้บริโภคเริ่มมีเพศสัมพันธ์กันน้อยลง เนื่องจากวิกฤตการระบาดของไวรัส ส่วนหนึ่งเกิดจาก “ความกังวล”
ในขณะที่ปีนี้ ยอดขายถุงยาง Durex กลับมาโตพุ่งเพราะการคลายล็อกดาวน์ กฎการเว้นระยะห่างทางสังคมลดลงในช่วงฤดูร้อน โดยยอดขายที่เห็นการเติบโตชัดเจนเกิดขึ้นในประเทศจีน สหรัฐอเมริกา และทวีปยุโรป
ไม่น่าแปลกใจที่ยอดขายจะดีขึ้นเมื่อคลายล็อกดาวน์ เพราะทำให้ผู้คนกลับไปพบปะตัวต่อตัวได้เหมือนปกติ และลดความกังวลเรื่องโรคระบาดลง
นอกจาก Durex แล้ว บริษัท Reckitt ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ/ทำความสะอาด Dettol และ Lysol ซึ่งพบว่าสินค้ากลุ่มนี้ยังมียอดขายเติบโต 21.1% เพราะผู้บริโภคยังระวังเรื่องการระบาด และนิสัยการดูแลความสะอาดเป็นเรื่องปกติมากขึ้น
แต่ Reckitt ระบุด้วยว่า เริ่มเห็นการเติบโตที่ช้าลงในกลุ่มประเทศที่การระบาดควบคุมได้หรือฉีดวัคซีนให้ประชากรแล้วเป็นจำนวนมาก เช่น จีน ประชากรจะเริ่มใช้น้ำยาล้างมือหรือใช้แอลกอฮอล์ล้างมือน้อยลง
อย่างไรก็ตาม แบรนด์กลุ่มสินค้าอื่นในเครือมียอดขายต่ำลง ได้แก่ Enfa นมผงสำหรับทารก ยอดขายไตรมาสแรกลดลง -12.3% และกลุ่มสินค้าสุขภาพ เช่น ยาแก้ปวด Nurofen ยาอมแก้เจ็บคอ Strepsils ยอดขายลดลง -16.4% คาดว่าเกิดจากผู้ป่วยโรคหวัดลดลง และผู้บริโภคมีการกักตุนสินค้ากลุ่มนี้ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
เทรนด์ยอดขายสินค้าของ Reckitt อาจเป็นดัชนีหนึ่งที่ทำให้เราเห็นเทรนด์ภายในประเทศว่าสินค้าใดจะรุ่งหรือร่วง หากการระบาดในไทยเริ่มดีขึ้น