ILM ประกาศผลงานไตรมาส 1/2564 กำไรสุทธิ 145.4 ล้านบาท เติบโต 23.0% YoY และ 1.7% QoQ แม้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ครั้งที่ 2 ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ยอดออนไลน์พุ่งทะยานต่อเนื่ องยอด OEM เติบโตโดดเด่น รวมถึงยอดขาย Younique Customized Furniture สามารถทำยอดขายรายไตรมาสสูงสุ ดนับตั้งแต่เริ่มธุรกิจ ขณะที่สภาพคล่องยังแกร่ง-ชำระคื นเงินกู้ก่อนกำหนด และสินค้าคงเหลือลดลงอย่างต่ อเนื่อง ทั้งนี้ แม้มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ครั้งที่ 3 ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ผู้บริหารยังมีความมั่นใจว่า บริษัทฯ จะได้ประโยชน์ จากกระแสการทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home และสามารถสร้างการเติ บโตของยอดขายในช่วงเวลาดังกล่ าวได้
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิ เจอร์และของตกแต่งบ้ านครบวงจรในประเทศไทย เปิดเผยผลการดำเนินการไตรมาส 1/2564 ว่า แม้มีการระบาดของ COVID-19 ครั้งที่ 2 ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ในหลายพื้นที่ แต่กำไรสุทธิสามารถเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 145.4 ล้านบาท เติบโต 23.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกั นของปีก่อน และเติบโต 1.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยในไตรมาส 1/2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,146.7 ล้านบาท ลดลง 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกั นของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ด้วยความสามารถของบริษัทฯ ในการลดต้นทุนการดำเนินงานในทุ กส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ การลดต้นทุนทางการเงินของธุรกิ จจากการชำระหนี้เงินกู้ ระยะยาวจากสถาบันการเงินก่ อนกำหนด รวมถึงการลดสินค้าคงเหลืออย่ างต่อเนื่อง ช่วยลดต้นทุนการเก็บรักษาและต้ นทุนการจัดการ และช่วยเพิ่มรายได้ค่าเช่ าจากการนำพื้นที่ว่างของโกดังสิ นค้าไปให้พันธมิตรเช่าดำเนินงาน ซึ่งการดำเนินงานอย่างมีประสิ ทธิภาพในทุกด้านนี้ได้ช่วยส่ งเสริมให้กำไรของธุรกิจในไตรมาส 1/2564 เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
นางสาวกฤษชนก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยมี การแพร่ระบาดของ COVID-19 ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งล่าสุด ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ถือเป็นการแพร่ระบาดที่รุ นแรงและกว้างขวางกว่าทุกครั้งที่ ผ่านมา ส่งผลให้ภาครัฐออกมาตรการต่างๆ เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตั วของเศรษฐกิจในประเทศในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ จึงยังต้องใช้ความระมัดระวั งในการลงทุน รวมถึงต้องมีการติดตามและประเมิ นสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ไขและบรรเทาผลกระทบต่ อธุรกิจของบริษัทฯ ให้น้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้ างโอกาสในการเพิ่ มยอดขายจากกระแสการทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home ซึ่งผู้บริโภคจะมีความต้องการสิ นค้ากลุ่ม Home Office เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งกระแสการตกแต่งบ้ านจากการที่ต้องอยู่บ้ านยาวนานมากขึ้น หรือการทำอาหารรับประทานเองที่ บ้านมากขึ้น จะส่งผลบวกต่อยอดขายของเฟอร์นิ เจอร์ ของตกแต่งบ้าน และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครั วมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีสินค้าหลากหลายประเภทเพื่ อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริ โภคในช่วงเวลาดังกล่าวได้อย่ างครบถ้วน รวมถึงมีความพร้อมในการรับมือกั บสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวผ่านช่ วงเวลาที่ค่อนข้างยากลำบากนี้ เหมือนที่เคยทำได้ในอดีตอีกครั้ ง และพร้อมกลับมาเติบโตได้อย่างมั่ นคงเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็ นปกติในอนาคต หลังคาดการกระจายวัคซี นภายในประเทศสามารถบรรลุเป้ าหมายได้ภายในปี 2564 จากความร่วมมือกันของทั้งหน่ วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่ างๆ ที่รัฐบาลทยอยออกมาให้ความช่ วยเหลือทั้งภาคธุรกิจและภาคครั วเรือน ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิ จภายในประเทศกลับมาฟื้นตัวได้ ในช่วงครึ่งหลังของปี นางสาวกฤษชนกกล่าว