ตลาด ‘คริปโตเคอเรนซี่’ หรือ ‘สกุลเงินดิจิทัล’ ขึ้นลงก็เพราะ ‘อีลอน มัสก์’ เพราะที่ผ่านมา การสนับสนุนจาก Tesla มีส่วนทำให้ราคาของสกุลเงินดิจิทัลรวมถึง bitcoin และ dogecoin พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาทวีตว่า ‘Tesla’ จะระงับการรับซื้อรถโดยใช้ ‘Bitcoin’ เพราะการขุด Bitcoin เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ตลาดคริปโตเคอเรนซี่ร่วงทุกสกุลไม่ใช่แค่เฉพาะ Bitcoin
โดยอีลอน มัสก์ ได้ทวีตว่า “Tesla จะระงับการซื้อรถโดยใช้ Bitcoin เนื่องจากเรากังวลเกี่ยวกับการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับการขุด Bitcoin และการทำธุรกรรม โดยเฉพาะถ่านหินซึ่งมีการปล่อยเชื้อเพลิงที่เลวร้ายที่สุด อย่างไรก็ตาม เรายังเชื่อมั่นว่าคริปโตเคอเรนซี่ยังมีอนาคตที่สดใส แต่สิ่งนี้ไม่ควรจะทำให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น Tesla จะไม่ขาย Bitcoin ใด ๆ และจะกลับมารับคริปโตฯ อีกครั้งทันทีที่การขุดเปลี่ยนไปสู่พลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น เรากำลังดูสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ที่ใช้พลังงานในการทำธุรกรรมน้อยกว่า <1%”
เพียงนาทีแรกหลังจากมีทวีตดังกล่าวราคา Bitcoin ร่วงไป -5% จนตอนนี้ร่วงถึง -12% มีจุดต่ำสุดที่ 45,700 เหรียญ ขณะที่มูลค่าคริปโตเคอเรนซี่ร่วงทั้งหมดเฉลี่ยเกินกว่า -10% เนื่องจากตลาดกำลังกังวลว่าทำไม Tesla ถึงกลับลำเร็วเช่นนี้ หลังจากเดือนกุมภาพันธ์เคยรับชำระเงินเป็น Bitcoin
ทั้งนี้ ตลาดกำลังจับตามองว่าทาง Tesla ได้ทำการขายเหรียญ Bitcoin ในบัญชีตัวเองออกไปหรือยัง แม้ว่าในทวีตของ อีลอน มัสก์จะย้ำว่า Tesla ยังไม่ได้ขาย Bitcoin ออกไปและยังเชื่อมั่นในในคริปโตฯ ก็ตาม
ที่ผ่านมา นักลงทุนกระแสหลักและองค์กรบางราย อาทิ Tesla, Square, Metromile และ Nexon ต่างแห่กันไปที่ Bitcoin โดยมองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นตัวป้องกันเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้น โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 Tesla ซื้อ “สินทรัพย์ดิจิทัล” มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ โดย Tesla มีผลกำไรจากการขาย bitcoin ได้ถึง 101 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ อีลอน มัสก์นั้นเป็นแฟนตัวยงของ bitcoin และ dogecoin โดยได้ทวีตและคุยเล่นเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้กับผู้ติดตาม Twitter หลายล้านคนในช่วงปีที่ผ่านมา