เรียกได้ว่าเกิดเป็นดราม่ารายสัปดาห์ในวงการตลาด ‘คริปโตเคอเรนซี่’ หรือ ‘สกุลเงินดิจิทัล’ เลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุนั้นก็มาจาก ‘อีลอน มักส์’ (Elon Musk) เจ้าของบริษัท ‘Tesla’ เพราะทุกทวิตที่ออกมาจากเจ้าตัว มักส่งผลต่อตลาดเสมอ ดังนั้น ไปดูกันว่าอาเฮียอีลอน มักส์แกทำวีรกรรมอะไรไว้บ้าง
ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 63 อีลอน มักส์ได้ทวีตว่า “Bitcoin คือคำที่ทำให้ผมปลอดภัย” ซึ่งการทวิตลอย ๆ ในครั้งนั้นยังไม่ได้สร้างแรงกระเพื่อมอะไรให้กับตลาดนัก แต่ในวันเดียวกันนั่นก็ได้ทวิตอีกว่า ‘Doge’ ที่หมายถึงเหรียญ ‘Dogecoin’ แต่คราวนี้มันกลับทำให้มูลค่าของ Dogecoin พุ่งถึง 299,330 เหรียญ ภายใน 30 นาที
ในมกราคมที่ผ่านมา ราคาของ ‘Bitcoin’ หนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้มีมูลค่าเเตะ 1 ล้านบาท เติบโตถึง 300% จากปี 2020 จากนั้นก็มีการขึ้นลงมาตลอด จนกระทั่งในวันที่ 29 ม.ค. มักส์ได้เปลี่ยนคำบรรยายประวัติส่วนตัวหน้าโปรไฟล์ทวิตเตอร์เป็นคำว่า “#bitcoin” ซึ่งแค่นั้นก็ทำให้ราคาบิตคอยน์พุ่งสูงถึง 20% ในระยะหนึ่งเลยทีเดียว
จากนั้นในเดือน กุมภาพันธ์ Tesla บริษัทของอีลอน มักส์ก็ได้ทุ่มเงินถึง 1,500 ล้านเหรียญ (ราว 4.5 หมื่นล้านบาท) ซื้อ Bitcoin ทำให้ราคา Bitcoin ทุบนิวไฮรอบใหม่ ทะลุ 1.3 ล้านบาท และในวันที่ 24 มี.ค. มัสก์ก็ได้ประกาศให้ใช้ Bitcoin ซื้อรถยนต์ของ Tesla ได้
ในวันที่ 27 เม.ย. Tesla ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 พร้อมกับเปิดเผยว่าบริษัทได้ขาย Bitcoin ที่ลงทุนไปแล้ว 10% และได้กำไรมากถึง 101 ล้านเหรียญ ซึ่งการเข้ามาสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลของ Tesla ก็ได้สร้างความน่าเชื่อถือต่อสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น
แต่ในวันที่ 7 พ.ค. มัสก์ก็ได้ทวีตเตือนว่า “ให้ลงทุนคริปโตด้วยความระมัดระวัง เพราะไม่รู้ว่าเงินดิจิทัลตัวไหนจะมั่นคงที่สุด” และนั่นก็ทำให้ Dogecoin พุ่งขึ้นสูงราว 26% ภายใน 24 ชั่วโมง จากนั้นในวันที่ 9 พ.ค. มัสก์ได้ทวีตลิงก์ตอนไปออกรายการ Saturday Night Live หรือย่อว่า SNL ที่ตนได้แสดงความเห็นด้านลบเกี่ยวกับ Dogecoin จนทำให้ราคา Dogecoin ร่วง –36%
และในวันที่ 10 พ.ค. มัสก์ก็ทวิตเปิดตัวโครงการเยือนดวงจันทร์ “DOGE-1 Mission to the Moon” ของ “Space X” ในปีหน้า พร้อมกับจะรับชำระเงินด้วยเหรียญ Dogecoin และราคาเหรียญ Dogecoin ก็พุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในวันที่ 11 พ.ค. เนื่องจากมักส์ทวีตถามว่า “เทสล่าควรรับ Dogecoin ในการขายรถยนต์หรือไม่”
แต่ที่พีคจนเป็นข่าวดังไปทั่วก็คือวันที่ 13 พ.ค. มัสก์ ได้ทวีตว่าจะระงับการซื้อรถโดยใช้ Bitcoin เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการใช้เชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในการขุด Bitcoin และการทำธุรกรรม พร้อมยืนยันว่า Tesla ยังไม่ขาย Bitcoin ใด ๆ และจะกลับมารับคริปโตอีกครั้งทันทีที่การขุดเปลี่ยนไปสู่พลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น
ทวีตดังกล่าวทำให้ Bitcoin มีจุดต่ำสุดที่ 45,700 เหรียญ ขณะที่มูลค่าคริปโตเคอเรนซี่ร่วงทั้งหมดเฉลี่ยเกินกว่า -10% เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่แน่ใจว่าทำไม Tesla ถึงกลับลำเร็วขนาดนี้ พร้อมกับจับตามองว่าทาง Tesla ได้ทำการขายเหรียญ Bitcoin ในบัญชีตัวเองออกไปหรือยัง
17 พ.ค. ตลาดคริปโตร่วง -10% เกือบทั้งแผง โดย Bitcoin ร่วงเหลือ 42,000 เหรียญเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากมีทวิตจากบัญชี ‘Cryptowhale’ ทวิตว่า มักส์ทวิตว่า “เหล่านักลงทุน Bitcoin อาจจะต้องตกใจถ้ารู้ทีหลังว่า Tesla ขาย Bitcoin ออกไปหมดแล้ว เนื่องจากความเกลียดของชาว Crypto ต่ออีลอน เป็นผม ผมก็คงไม่โทษเขาที่จะทำเช่นนั้น” ซึ่งทางมัสก์ก็ออกมาทวีตตอบว่า ‘Indeed’ ที่สื่อเหมือนจะเห็นด้วยกับทวีตดังกล่าว
แต่หลังจากที่มีการเทขายกันไปแล้ว ในวันนั้นเองมัสก์ก็ได้ทวิตเคลียร์ว่า “เพื่อไม่ให้ใครมาตีความผิด ขอชี้แจงว่า Tesla ยังไม่ได้ขาย Bitcoin ออกไป” ซึ่งนั่นก็ทำให้ราคา Bitcoin เริ่มดีดกลับมาที่ 45,000 เหรียญแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าตลาดคริปโตจะกลับมาสงบสุขอีกทีเมื่อไหร่ และเราเองก็ไม่รู้ว่าอีลอน มักส์จะทวิตอะไรอีก แต่หากย้อนดูก็คงต้องยอมรับว่าตลาดมีความผันผวนสูงมากไม่ใช่แค่มีอีลอน มักส์เป็นตัวแปรเดียว ดังนั้นก็คงได้แต่ต้องติดตามกันต่อไป