นายอเลฮานโดร โอโซริโอ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่สาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนในขณะนี้ แกร็บ ประเทศไทย ตระหนักถึงบทบาทในฐานะบริษัทภาคเอกชนที่สามารถมีส่วนร่วมในการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือต่อสังคม โดยนอกเหนือจากกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการ ‘แกร็บแคร์ (GrabCares)’ ที่ได้ดำเนินการตั้งแต่ต้นปี 2563 แล้ว บริษัทฯ ยังได้ประกาศ 3 มาตรการเร่งด่วนในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อร่วมให้ความช่วยเหลือกับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ภายใต้งบประมาณรวมกว่า 40 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็ก ซึ่งได้รับผลกระทบจากการประกาศงดการบริโภคอาหารภายในร้านในช่วงที่ผ่านมา”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา แกร็บฟู้ด (GrabFood) ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี ได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการกระตุ้นให้เกิดการใช้บริการสั่งอาหารออนไลน์ ผ่านกิจกรรมการตลาดและการมอบส่วนลดเพื่อจูงใจผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนให้เกิดการสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารโดยปริยาย ทั้งยังช่วยสร้างรายได้ให้กับพาร์ทเนอร์คนขับผู้จัดส่งอาหารอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้พยายามอย่างดีที่สุดในการบริหารธุรกิจโดยมุ่งตอบสนองความต้องการและสร้างประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วนให้เกิดความสมดุลมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ผู้บริโภค ผู้ประกอบการร้านอาหาร คนขับ รวมถึงแพลตฟอร์มอย่างแกร็บเอง ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจของเราจะยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน และสามารถสร้างโอกาสในการเข้าถึงรายได้ให้กับพาร์ทเนอร์ร้านค้า พาร์ทเนอร์คนขับและผู้จัดส่งอาหาร รวมถึงตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม
“นอกจากการลงทุนอย่างเต็มที่และต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นพฤติกรรมผู้บริโภค ด้านเทคโนโลยี ด้านระบบบริหารจัดการทางธุรกิจ รวมถึงการบริหารค่าตอบแทนสำหรับพาร์ทเนอร์คนขับ ล่าสุด บริษัทฯ ได้ประสานเพื่อให้ความร่วมมือกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการมีส่วนช่วยลดภาระและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารเป็นการชั่วคราว โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้าขนาดเล็ก ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านโครงการ ‘มาตรการช่วยเหลือร้านค้า สำหรับพาร์ทเนอร์ร้านค้าที่จ่ายค่าคอมมิชชันเกินกว่า 25%’ ซึ่งมุ่งให้ความช่วยเหลือกับพาร์ทเนอร์ร้านอาหารของแกร็บที่จ่ายค่าคอมมิชชันเกินกว่า 25% ซึ่งผ่านเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการฯ เป็นระยะเวลา 1 เดือน ระหว่างวันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2564”
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวประกอบด้วย 2 มาตรการ คือ
- การคืนเงินส่วนต่างค่าคอมมิชชัน: โดยแกร็บจะทำการ “คืนเงินส่วนต่างค่าคอมมิชชัน (Commission rebate)” ที่เกินกว่าการคิดค่าคอมมิชชันที่อัตรา 25% สำหรับ 100 ออเดอร์แรกในช่วงระยะเวลา 1 เดือนของโครงการ
- การรับโค้ดส่วนลดเพื่อเพิ่มยอดขายจากแกร็บ: แกร็บจะทำการสนับสนุนโค้ดส่วนลด 50 บาทให้กับผู้ใช้บริการแกร็บฟู้ด เมื่อมียอดสั่งอาหารครบ 200 บาทต่อออเดอร์ จำกัดจำนวน 10,000 โค้ดต่อวัน
พาร์ทเนอร์ร้านอาหารสามารถลงทะเบียนเพื่อเลือกรับความช่วยเหลือจากมาตรการที่ต้องการได้ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 4 มิถุนายน 2564 ผ่านทาง https://grb.to/2Sqi8I6 และสามารถติดตามรายละเอียดของโครงการผ่านทางเว็บไซต์ https://www.grabmerchantth.com/commission-rebate โดยบริษัทฯ จะทำการสื่อสารเพื่อชี้แจงรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ให้กับร้านค้าที่สามารถเข้าร่วมโครงการโดยตรงอีกครั้ง