เวียดนามได้สั่งระงับเที่ยวบินขาเข้าและกำหนดมาตรการควบคุมการระบาดของ COVID-19 เข้มงวดขึ้นในเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ และได้เรียกร้องให้มีการจัดหาวัคซีนจากภาคเอกชน ในความพยายามที่จะเข้าถึงวัคซีน และจัดการกับการระบาดที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วงเดือนที่ผ่านมา
เวียดนามยังไม่ได้เริ่มการฉีดวัคซีนกับประชาชนจำนวนมาก แต่รัฐบาลระบุว่าต้องขจัดอุปสรรคในการเข้าถึงวัคซีน รวมทั้งการอนุญาตให้หน่วยงานท้องถิ่นและบริษัทต่างๆ จัดหาวัคซีนได้ด้วยตัวเองผ่านกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้นำเข้าที่ได้รับอนุญาต 27 ราย
เวียดนามได้ติดต่อกับต่างประเทศเพื่อขอความช่วยเหลือในการจัดหาวัคซีน รวมทั้งสหรัฐฯ
“ต้องมีมาตรการเพื่อให้ได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด อุปสรรคทั้งหมดต้องหมดไป และปัญหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องได้รับการแก้ไข” รองนายกรัฐมนตรีหวู ดึ๊ก ดาม กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
หลังประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดในช่วงปีที่ผ่านมา เวียดนามพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และตรวจพบโควิดสายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้รวดเร็วหลายสายพันธุ์ ที่รวมถึงสายพันธุ์ใหม่ที่ประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ 29 พ.ค. ที่มีองค์ประกอบของสายพันธุ์ที่ตรวจพบครั้งแรกในอังกฤษ และอินเดีย
เหวียน แถ่ง ลอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าเป้าหมายของการได้รับวัคซีน 150 ล้านโดสในปีนี้ ‘เป็นไปได้’
เวียดนามได้อนุมัติวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า และสปุตนิกวี และเมื่อวันเสาร์ที่ 29 พ.ค. เหวียน แถ่ง ลอง กล่าวว่าวัคซีนของโมเดอร์นา และไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคอยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติ
รัฐบาลกล่าวในวันที่ 31 พ.ค. ว่าเที่ยวบินระหว่างประเทศมายังกรุงฮานอยจะถูกระงับจนถึงวันที่ 7 มิ.ย. หลังจากนครโฮจิมินห์ได้ดำเนินการระงับเที่ยวบินแบบเดียวกันนี้ไปแล้วก่อนหน้า ขณะเดียวกันนครโฮจิมินห์ยังเริ่มดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดเป็นเวลา 15 วัน ที่รวมทั้งการห้ามทานอาหารในร้านอาหาร ห้ามการรวมกลุ่มในที่สาธารณะเกินกว่า 10 คน รวมถึงปิดกาสิโนและร้านเสริมสวย
เวียดนามมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 7,321 คน และมีผู้เสียชีวิต 47 คน และการระบาดระลอกใหม่ได้กระจายไปใน 34 จังหวัดจาก 63 จังหวัดของประเทศ รวมถึงจ.บั๊กนิง และจ.บั๊กซยาง ที่เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก เช่น บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และบริษัทฟ็อกซ์คอนน์
เจ้าหน้าที่ได้เริ่มฉีดวัคซีนให้กับคนงานในจ.บั๊กนิง และจ.บั๊กซยาง เมื่อวันศุกร์ที่ 28 พ.ค. โดยแต่ละจังหวัดได้รับวัคซีน 150,000 โดส ตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุข
ผู้แทนองค์การอนามัยโลกในเวียดนามกล่าวว่าโควิดสายพันธุ์ลูกผสมที่ประกาศเมื่อสุดสัปดาห์นั้น เป็นสายพันธุ์อินเดียที่มีการกลายพันธุ์แบบที่พบในสายพันธุ์อังกฤษ โดยอ้างถึงการหายไปของเซลล์ Y144 ในโปรตีนหนาม
“การกลายพันธุ์ของไวรัสเป็นสิ่งที่คาดไว้” กิดง ปาร์ค กล่าว และเสริมว่าองค์การอนามัยโลกกำลังเฝ้าติดตามการกลายพันธุ์และจะสนับสนุนการตรวจสอบหากจำเป็น