บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจเครื่องประดับเพชรอันดับหนึ่งของเมืองไทย ภายใต้แบรนด์ “Jubilee Diamond” แนะมูลค่าเพชรแท้ยิ่งใหญ่ สามารถสร้างคุณค่าทางจิตใจและมูลค่าเพิ่มได้ในอนาคต เหมาะสำหรับผู้มองหาแนวทางการลงทุนในระยะกลางถึงยาว ด้วยราคาที่ผันผวนน้อย พร้อมชี้มูลค่าของเพชรแท้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา
“เพชร” อัญมณีอันล้ำค่าและมีมูลค่า กำเนิดจากแร่หินที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ด้วยกระบวนการอันซับซ้อนฝังตัวเป็นรูปร่างต่าง ๆ อยู่ตามแหล่งธรรมชาติที่ดี และพัฒนาเปลี่ยนแปลงรูปร่างตามกาลเวลาที่ผ่านไป ซึ่งเพชรไม่ใช่เพียงแค่สินทรัพย์ที่ไว้สวมใส่เป็นเครื่องประดับเท่านั้น แต่ยังมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต จึงนิยมสะสมเป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่น และยังเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่มั่นคงในการลงทุน สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ในตลาดโลก ไม่ต่างจากทองคำ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ใช้กันทั่วโลกและมีใบเซอร์ (certificate) ที่มีมาตรฐานโลกรองรับ หลายคนจึงนิยมซื้อและสะสมสำหรับลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว ซึ่งผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินไว้ในธนาคารที่ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินอยู่ในระดับต่ำ ทำให้คุณค่าของเพชรไม่ได้เป็นเพียงอัญมณีล้ำค่า แต่ยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความน่าสนใจในการลงทุนในยุคปัจจุบันอีกด้วย
โดยเหตุผลบ่งชี้ที่ทำให้การลงทุนมีความน่าสนใจ คือ จากสถิติพบว่าราคาเพชรมีแนวโน้มสูงขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตามความต้องการในตลาดที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการที่ผู้คนให้การยอมรับว่าเพชรเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในทุก ๆ มิติ ขณะที่ปริมาณหลักในตลาดเพชรขณะนี้ถูกควบคุมโดยเดอเบียร์ส (De Beers) ซึ่งราคาของเพชรเปลี่ยนแปลงตามหลักอุปสงค์และอุปทาน (Demand-Supply) ดังนั้นเพชรที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนควรเป็นเพชรที่มีคุณภาพสูงไร้ที่ติทางธรรมชาติ เน้นเพชรที่เป็นท็อปเกรด เช่น น้ำ 100 น้ำ 99 D Color หรือ E color ซึ่งเป็นเพชรที่หายากมีปริมาณน้อย
นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนในเพชรได้รับความสนใจมากขึ้นจากทั่วทุกมุมโลกอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปลายปี 2563 ซึ่งสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในต่างประเทศเริ่มดีขึ้น เช่นในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของอุตสาหกรรมเพชรแท้ มีการเติบโตในยอดขายอย่างต่อเนื่อง ในระดับ 5-10% และ 15-20% สำหรับตลาดอเมริกาและจีนตามลำดับ ซึ่งในช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ราคาเพชรมีการปรับเพิ่มขึ้นในเพชรทุกสีและทุกขนาด ที่สำคัญเพชรเป็นทรัพย์สินที่มีความผันผวนต่ำ ทั้งนี้ในฐานะที่ Jubilee Diamond อยู่ในวงการเพชรมายาวนานกว่า 92 ปี พบว่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เคยเจอราคาเพชรลดลงเพียง 2 ครั้ง จากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่กระทบต่อภาพรวมในมุมความต้องการซื้อและความต้องการขาย แต่ใช้ระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ก็ปรับสู่ภาวะปกติ สะท้อนให้เห็นว่าความเสี่ยงของการลงทุนในเพชรนั้นมีแนวโน้มที่ต่ำมาก เพราะราคามีความมั่นคงที่ไม่ผันผวนแรงเท่ากับสินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ และแม้จะมีความผันผวนก็ไม่ได้เกิดขึ้นในระยะยาว
“ปัจจุบันเพชรถือเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ระดับโลกที่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการลงทุน ตอบโจทย์การลงทุนเรื่องการกระจายความเสี่ยง ช่วยลดความผันผวนในพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนที่มีสินทรัพย์เสี่ยงราคาหวือหวา ด้วยคุณสมบัติของเพชรที่เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ราคาอาจเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้หวือหวามาก เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีมุมมองการลงทุนคุ้มค่าในระยะกลางถึงยาว” นางสาวอัญรัตน์ กล่าว
สำหรับผู้สนใจเริ่มต้นลงทุนในเพชรสิ่งที่ต้องตระหนักเป็นอย่างแรก คือ การเลือกซื้อเพชรที่มาจากแหล่งน่าเชื่อถือ มีใบรับรองจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล อาทิ GIA หรือ HRD ซึ่งปัจจุบันการซื้อเพชรเริ่มต้นที่ขนาด 30 สตางค์ขึ้นไปก็สามารถได้รับใบรับรองจากสถาบันที่ทั่วโลกให้การยอมรับได้ ซึ่งนอกจากจะสร้างความมั่นใจในคุณภาพของเพชรแล้ว ยังสามารถทำให้การขายต่อในอนาคตมีความคล่องตัวด้วย แต่สิ่งที่ควรระวังเกี่ยวกับใบรับรองคือต้องตรวจสอบรายละเอียดให้มั่นใจว่าเป็นใบรับรองของแท้ โดยสามารถเช็คได้ที่เว็บไซต์ของสถาบันรับรองว่าหมายเลขถูกต้องหรือไม่
“เพชร” เป็นอัญมณีหายาก ยิ่งเพชรที่มาจากแหล่งธรรมชาติที่ดีราคาจะยิ่งสูง แต่อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเพชรอีกหลายเท่าตัวก็คือ การเจียระไนอย่างประณีตพิถีพิถัน ซึ่ง Jubilee ในฐานะผู้นำธุรกิจเครื่องประดับเพชรในเมืองไทยที่มีอายุกว่า 92 ปี ได้เลือกคัดสรรเพชรจากแหล่งเจียระไนที่ดีที่สุดในเมืองแอนด์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ทำให้ได้เพชรที่มีคุณลักษณะในการเปล่งประกายที่สวยที่สุด รวมถึงการเป็นแหล่งค้าเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งนี้ การลงทุนในเพชรที่ได้ชื่อว่าเป็นอัญมณีที่แข็งที่สุด อาจไม่เหมือนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น ดังนั้น ต้องเลือกซื้อเพชรในแบบที่ถูกต้อง นั่นคือนอกจากเรื่องความงามแล้วคุณภาพต้องถูกต้องตามหลัก 4Cs ได้แก่ 1.Cut การเจียระไน 2.Color สี 3.Carat Weight น้ำหนักกะรัต และ 4.Clarity ความสะอาด
“การซื้อเพชรแต่ละครั้งนอกจากมองเรื่องความสวยถูกใจ การดีไซน์ที่ตรงความต้องการแล้ว สิ่งที่ควรคำนึงและให้ความสำคัญคือ มูลค่าเพชร เพราะไม่ว่าคุณจะซื้อเพชรกี่กะรัต เพชรที่คุณเลือกต้องเป็นเพชรที่มาจากแหล่งธรรมชาติที่ดี คุณภาพดี มีการเจียระไนที่ประณีต อีกทั้งเรื่องใบรับรองคุณภาพเพชรต้องมี เพื่อให้การเลือกซื้อในแต่ละครั้งคุ้มค่า ซึ่งปัจจุบันหลายคนมักเข้าใจว่าหากจะเริ่มต้นสะสมเพชรหรือต้องการเพชรที่มีใบเซอร์ระดับโลกต้องมีเงินแสนเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเพชรที่ได้รับการรับรองจากสถาบันระดับโลกเริ่มต้นตั้งแต่เม็ดเล็ก โดยเพชรของ Jubilee ทุกเม็ด ทุกขนาดมาจากเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ราคาเริ่มต้นหลักพันบาท อีกทั้งมีใบรับรองคุณภาพเพชรตั้งแต่ 0.19 กะรัตขึ้นไป เพื่อทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าเพชรของ Jubilee เป็นเพชรแท้ในราคาที่จับต้องได้ การันตีด้วยความเชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในธุรกิจเพชรมากว่า 92 ปี” นางสาวอัญรัตน์ กล่าว
“เพชร” นอกจากเป็นอัญมณีล้ำค่าและเป็นเครื่องประดับที่เสริมบุคลิกภาพให้ผู้สวมใส่ รวมทั้งสร้างคุณค่าทางใจให้กับผู้เป็นเจ้าของแล้ว หากมองในแง่สินทรัพย์การลงทุน เพชรเป็นสินทรัพย์ในการลงทุนที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในระดับโลกโดยเฉพาะในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เพราะเพชรมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะมีวิกฤตทางเศรษฐกิจหรือโรคระบาด ราคาของเพชรยังคงเติบโตขึ้นได้ สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักสะสมทั่วโลก ทั้งยังเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ มีตัวตน เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำจึงถือทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจมากในระยะกลางถึงยาว