Me's beauty โตได้อีก

สกินแคร์สำหรับผู้ชาย จัดเป็นอีกหนึ่งในสินค้าสุดฮอตของปี 2554 หลังจากปรากฏการณ์ Brand Transformation จากแบรนด์ผู้หญิงสู่แบรนด์ผู้ชายสำเร็จมาแล้ว ทั้งจากนีเวีย วาสลีน เคลียร์เมน ล่าสุดยูเซอรีน แตกไลน์ออกยูเซอรีน เมน เป็นครั้งแรกของเวชสำอางสำหรับผู้ชายในไทย นิวโทรจีนาที่ก่อนหน้ามีภาพลักษณ์แบบ Unisex ก็ยังออก “นิวโทรจีนา เมน” รองรับลูกค้าหนุ่มๆ หลังจากการ์นิเย่คลอด “การ์นิเย่ เมน เทอร์โบไลท์”

ขณะที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ เปิดพื้นที่ Men Skincare Wall รองรับกับตลาดสกินแคร์ผู้ชายนับสิบแบรนด์ โดยมีแบรนด์หลักอย่างนีเวีย ฟอร์เมน วาสลีน เมน และลอรีอัล เมน เอ็กซ์เพิร์ทจับจองพื้นที่ ประมาณการกันว่าห้างสรรพสินค้าจะมีพื้นที่สำหรับสกินแคร์ผู้ชายเพิ่มขึ้น

ที่น่าจับตาคือ การเตรียมรุกเข้ามาในตลาดสกินแคร์ผู้ชายอย่างจริงจังของพีแอนด์จี หลังจาก เมธี จารุมณีโรจน์ ได้รับโปรโมตให้ดูแลตลาด Men’s Grooming ในเอเชีย มองว่า ตลาดยังเปิดกว้างอีกมาก เนื่องจากฐานเล็ก และไม่เป็นการสายเกินไปที่แบรนด์ใดจะก้าวเข้ามาในตลาดนี้ แต่ต้องมีวิธีการสื่อสารที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย

พีแอนด์จี มีแบรนด์สกินแคร์ผู้ชายอยู่ในมือถึง 5 แบรนด์ ที่ทยอยทำตลาดในไทย โดยยิลเลตต์เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ครอบคลุมสกินแคร์สำหรับผู้ชายทุกประเภทไม่เฉพาะผลิตภัณฑ์สำหรับโกนหนวด และแบรนด์ใหม่อย่าง โอลด์ สไปซ์ ที่เด่นในเรื่องผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย หรือแม้กระทั่งโอเลย์ซึ่งเชี่ยวชาญในเรื่องดูแลผิวพรรณก็อาจแตกไลน์มาเป็น Me’s Grooming ได้ไม่ยาก เพราะมี Expert Level ในระดับสูง (โอเลย์ เมน โซลูชั่นวางจำหน่ายในตลาดจีนเป็นประเทศแรกในโลกตั้งแต่ปี 2552 )

ขณะที่คลินิกเสริมความงามได้รับผลพวงจากสกินแคร์ทั้งแมสและเคาน์เตอร์แบรนด์ เปิดตลาดหนุ่มสำอางด้วยการจัดโปรแกรมดูแลผิวสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะของรมย์รวิน เป็นต้น

มิติของสกินแคร์ผู้ชายจะสลับซับซ้อนและมีการออกเซ็กเมนต์ถี่ยิบ เรียกได้ว่าผู้หญิงใช้อะไรผู้ชายก็มีไม่ต่างกัน โดยปัจจุบันมีสกินแคร์ผู้ชายมากกว่า 40 แบรนด์ และมีสินค้ามากกว่า 300 ชนิด ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลว่า ผู้ชายกว่า 43% ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและในจำนวนนี้มีถึง 81% ที่ใช้สกินแคร์ดูแลผิวเป็นประจำทุกวัน

แม้ตลาดเครื่องสำอางผู้ชายจะไม่มีข้อมูลครบในทุก Category แต่มูลค่าตลาดสกินแคร์สำหรับผิวหน้ามีมูลค่า 1,400 ล้านบาทในปี 2553 และคาดว่าจะเติบโต 10% เป็น 1,540 ล้านบาทในปี 2554 โอกาสจึงมีให้เห็นอยู่ตรงหน้าและท้าทายยิ่งนัก