Back into the game

3 ปีแล้วที่ไมโครซอฟท์เฝ้าดูส่วนแบ่งตลาดของ ”วินโดวส์ โฟน” ค่อยๆ หายไป จนเมื่อเปิดตัววินโดวส์ โฟน 7 ช่วงต้นปี 2553 และกำลังเร่งทำตลาดทั้งหาพันธมิตรโปรโมชั่น ผ่อนและชิงรางวัล ทำให้ไมโครซอฟท์มีความหวังมากขึ้น อย่างที่ ”ปฐมา จันทรักษ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัดบอกว่า ”วินโดวส์ โฟน กำลัง Back into the game”

ตลาดสมาร์ทโฟนในไทยในไทยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาคือช่วงโอกาสทองที่สุด เพราะมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นจนยอดขายเติบโตปีละ 30% แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่วินโดวส์ โฟนพลาดโอกาสสำคัญ จนไม่เคยมีส่วนแบ่งตลาดเกิน 10% ซึ่ง ”ปฐมา” บอกว่า เพราะคู่แข่งเปิดตัวเร็ว และถูกเวลา

วินโดวส์ โฟน ทำตลาดในไทย และเติบโตพร้อมกับสมาร์ทโฟนสัญชาติไต้หวัน ”เอชทีซี” ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ Geek และกลุ่มไฮเอนด์ที่ใช้เพื่อการทำงาน เวอร์ชั่นล่าสุดคือรุ่น 6 ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2550 จากนั้นก็มีแค่ไมเนอร์เชนจ์ เป็น 6.5 ช่วงปี 2009 ขณะที่สมาร์ทโฟนเริ่มเข้าสู่ตลาดคนทั่วไปที่ใช้เพื่อไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะการเข้าโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คอย่างทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และแชต โดยมีแบล็คเบอร์รี่ และไอโฟน เป็นดาวรุ่งที่เปิดตัวเร็วและถูกเวลา จนทำให้สมาร์ทโฟนเป็นของกลุ่มคนทั่วไป รวมไปถึงแอนดรอยด์ที่กำลังเร่งเครื่อง แต่วินโดวส์ โฟนเงียบหาย

การเข้ามาในเกมธุรกิจนี้อีกครั้งเป็นสิ่งที่ ”ปฐมา” บอกว่าเดินกลับมาอย่างมั่นใจ หลังจากใช้เวลาพัฒนาวินโดวส์ โฟน 7 มาระยะหนึ่ง จนแน่ใจว่าภายใต้คอนเซ็ปต์ Anywhere Anytime Any device จะทำให้ชนะในเกมนี้

วิธีการคือต้องเข้าถึงตลาดหลักของสมาร์ทโฟนปัจจุบัน คือคนรุ่นใหม่ และศึกษาพฤติกรรมให้ชัดเจน เช่น คนรุ่นใหม่ถ่ายรูปแล้วคือโพสต์เลย ในกระแสโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค จึงต้องสามารถทำได้ด้วยคลิกเดียว ขณะที่คนรุ่นเดิมอาจกลับบ้านเปิดคอมพิวเตอร์แล้วค่อยโพสต์รูป แต่คนรุ่นใหม่ยังต้องการสมาร์ทโฟนช่วยทำงานซึ่งเป็นจุดแข็งเดิมของวินโดวส์โฟน และ Any Device ที่ตอบสนองความต้องการหลากหลาย ด้วยการร่วมมือกับสมาร์ทโฟนหลายแบรนด์ และผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเพื่อทำแพ็กเกจค่าบริการให้ลูกค้าเลือก รวมถึงทำตลาดด้วยการผ่อน และชิงรางวัล ผ่านเกม “Windows Phone 7 Puzzle” ในเฟซบุ๊กแจกเอชทีซี HD 7 ราคา 22,900 บาท

นอกจากประกาศบุกตลาดครั้งแรกด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับเอชทีซีและดีแทคแล้ว ทั้งซัมซุง แอลจี และค่ายมือถืออย่างทรู และเอไอเอส ก็อยู่ระหว่างเจรจากับไมโครซอฟท์เช่นกัน

ยุทธศาสตร์การมีพันธมิตรคืออาวุธสำคัญ แม้เริ่มต้นด้วยการจับมือกับเบอร์รองในตลาดอย่างดีแทค และเอชทีซี ขณะที่วินโดวส์โฟนยังรั้งท้ายในตลาดนี้ แต่สำหรับค่ายมือถืออย่างดีแทคแล้วไม่ว่าระบบปฏิบัติการใดที่มีคนใช้งาน ก็หมายถึงรายได้ค่าบริการเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับเอชทีซีที่แม้จะมีแอนดรอยด์สำหรับตลาดหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังสู้แบรนด์คู่แข่งอย่างบีบีและไอโฟนไม่ได้ 3 พลังที่ประสานกันครั้งนี้
จึงดีกว่าบุกเดี่ยว เพื่อที่ว่าอย่างน้อยจะสามารถชิงตลาดบางส่วนกลับคืนมาได้บ้าง

จำนวนชั่วโมงที่คนไทยออนไลน์ต่อวัน
มากกว่า 10 ชม. 5%
1 ชม. 19%
น้อยกว่า 1 ชม. 13%
5-10 ชม. 12%
3-5 ชม. 20%
1-3 ชม. 31%
ที่มา : ไมโครซอฟท์

Profile
ไมโครซอฟท์เปิดตัววินโดวส์ โฟน 7 ในตลาดโลกเมื่อกุมภาพันธ์ 2553 ด้วยงบเปิดตัวถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เริ่มจำหน่ายเมื่อ 21 ตุลาคม 2553 ที่ยุโรป และตามด้วยอเมริกา และเอเชีย โดยสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สื่อสารที่พร้อมใช้ OS ตัวนี้แล้วคือ เอชทีซี เดลล์ ซัมซุง แอลจี กับผู้ให้บริการมือถือทั่วโลก 60 ราย ใน 30 ประเทศ โดยไตรมาส 3/2553 วินโดวส์ โฟน 7 ได้ส่วนแบ่งตลาดที่อเมริกา 3% ขณะที่ไอโฟนได้ 29.2% และบีบีได้ 24.2%