เชฟรอนและจุฬาฯ พร้อมส่ง “รถดมไว” นำสุนัขดมกลิ่นโควิด-19 ร่วมภารกิจคัดกรองในพื้นที่ชุมชนของกรมควบคุมโรค

การรับมือกับต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากการฉีดวัคซีนเพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว การตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างทันท่วงที ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โครงการวิจัย “การใช้สุนัขดมกลิ่นคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ” จึงได้ออกแบบห้องปฏิบัติงานเคลื่อนที่ “รถดมไว” เพื่อนำสุนัขดมกลิ่นไปสนับสนุนภารกิจคัดกรองโรคในพื้นที่ชุมชนของกรมควบคุมโรค หลังการวิจัยพบว่า สุนัขดมกลิ่นมีความแม่นยำในการจำแนกผู้ป่วยโควิด-19 ได้มากกว่า 96%

โครงการวิจัยดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด (เชฟรอนประเทศไทย) ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (จุฬาฯ) และบริษัท พี คิว เอ แอสโซซิเอท จำกัด (PQA Associates Ltd.) เพื่อพัฒนาทักษะสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ จำนวน 6 ตัว ให้สามารถจำแนกผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ไม่แสดงอาการออกจากกลุ่มคนปกติได้  และเป็นต้นแบบการฝึกสุนัขดมกลิ่นเพื่องานทางการแพทย์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเริ่มดำเนินการวิจัยมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2563  และพบว่าสุนัขสามารถจำแนกผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากกลิ่นเหงื่อได้ถึง 96% และต่อยอดสู่การพัฒนาห้องปฏิบัติงานเคลื่อนที่ “รถดมไว” นำโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการคัดกรองเชิงรุกในชุมชนของเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างทดสอบการทำงานของสุนัขดมกลิ่นบนรถดมไว โดยทดลองปฏิบัติงานร่วมกับกรมควบคุมโรค เพื่อนำ “รถดมไว” ไปปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ชุมชนต่อไป พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานตามข้อกำหนดของกรมควบคุมโรค ซึ่งทำให้ทั้งสุนัขดมกลิ่นและผู้เข้ารับการตรวจมีความปลอดภัย

ศ.สพ.ญ.ดร.เกวลี ฉัตรดรงค์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวว่า “ข้อดีของการใช้สุนัขดมกลิ่นมี 3 ประการ คือ บอกผลฉับไว ไม่เจ็บ และคัดกรองคนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากผลการวิจัยสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ในเดือนมีนาคม 2564 เราจึงนำสุนัขดมกลิ่นมาปฏิบัติงานจริง โดยเริ่มจากคัดกรองพนักงานของเชฟรอนที่จะเดินทางไปปฏิบัติงานนอกชายฝั่ง และช่วยสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ในการตรวจหาผู้ติดเชื้อ ต่อมาเมื่อมีการระบาดของโรคในกรุงเทพฯ สุนัขดมกลิ่นจึงได้เดินทางจากจังหวัดสงขลา มาตั้งจุดตรวจที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อให้บริการคัดกรองแก่บุคลากรจุฬาฯ และผู้ป่วยติดเตียง โดยความร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งมีอาสาสมัครลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเหงื่อมาส่งตรวจแล้วจำนวนกว่า 1,500 ราย ทั้งนี้ เป้าหมายต่อไปของโครงการฯ คือขยายการคัดกรองเชิงรุกในคลัสเตอร์ชุมชน จึงร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ออกแบบห้องปฏิบัติงานเคลื่อนที่ ‘รถดมไว’ ซึ่งเป็นแนวทางที่มีการดำเนินงานแล้วในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์รวมถึงได้มีการเตรียมความพร้อมและฝึกฝนสุนัขอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้สุนัขดมกลิ่นมีความแม่นยำในการจำแนกผู้ป่วยโควิด-19 ได้มากกว่า 96%”

ผศ.ดร.จุฑามาศ รัตนวราภรณ์ ประธานหลักสูตรสหสาขาวิชาวิศวกรรมชีวเวช คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ออกแบบ “รถดมไว” กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของ ‘รถดมไว’ คือ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของสุนัขดมกลิ่นคัดกรองโควิด-19 ในการค้นหาเชิงรุก โดยมีการออกแบบให้การทำงานของทั้งสุนัขดมกลิ่นและเจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้ที่เข้ารับบริการ มีความปลอดภัย สะดวกสบาย และประสิทธิภาพสูงสุด ภายในรถจึงมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเตรียมตัวอย่าง และการปฏิบัติงานของสุนัขอย่างครบครัน และติดตั้งระบบความดันลบในห้องเตรียมตัวอย่าง ระบบฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV ในช่องรับส่งตัวอย่าง ห้องเตรียมตัวอย่าง และห้องปฏิบัติงาน ติดตั้งตู้ยาปฐมพยาบาล ถังดับเพลิง ไฟขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน และไฟแจ้งเตือนขณะปฏิบัติงานบนรถ อีกทั้งยังมีห้องพักสุนัขสำหรับพักผ่อนในเวลาที่ไม่ได้ปฏิบัติงาน”

นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า “วิกฤตโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง ซึ่งในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้สนับสนุนงบประมาณเกือบ 20 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งความช่วยเหลือเฉพาะหน้า เช่น การมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์และเครื่องมือต่างๆ รวมถึงการสร้าง know-how เพื่อเสริมศักยภาพการรับมือกับการระบาดของโรคให้กับหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนสนับสนุนโครงการวิจัยนี้ ซึ่งเชฟรอนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การวิจัยประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม สามารถขยายผลสู่การพัฒนา “รถดมไว” ทั้งยังสร้างองค์ความรู้ที่สามารถต่อยอดสู่การฝึกสุนัขเพื่อคัดกรองโรคอื่นๆ ได้ในอนาคต และมีความมุ่งหวังที่จะเห็นการขยายองค์ความรู้สู่ประเทศต่างๆ ที่มีความสนใจในการฝึกสุนัขดมกลิ่นคัดกรองโรค เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการรับมือกับโรคระบาดได้อย่างยั่งยืน”

เกี่ยวกับรถดมไว

รถ “ดมไว” (Dog Olfactory Mobile Vehicle for Viral Inspection: DOMVVI) ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่สำหรับสุนัขดมกลิ่นคัดกรองโควิด-19 ในการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในพื้นที่ชุมชน เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้สุนัขและเจ้าหน้าที่สัมผัสโดยตรงกับผู้เข้ารับการตรวจหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง จึงทำให้เกิดความปลอดภัยทั้งกับผู้เข้ารับการตรวจและกับสุนัขที่ปฏิบัติงาน ซึ่งบนรถมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 16.8 ตารางเมตร (7เมตร x 2.4 เมตร) ภายในแบ่งเป็น 4 ห้อง ได้แก่

  1. ห้องเอนกประสงค์ เป็นห้องสำหรับวางตู้ล็อคเกอร์เก็บสัมภาระผู้ปฏิบัติงานบนรถ และอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานต่างๆ และอุปกรณ์ทำความสะอาดรถ
  2. ห้องพักสุนัข สำหรับให้สุนัขพักในช่วงเวลาที่ไม่ได้ปฏิบัติงาน
  3. ห้องเตรียมตัวอย่าง สำหรับรับตัวอย่างที่เก็บจากภายนอกตัวรถ เข้ามาเตรียมเปลี่ยนถ่ายภาชนะ
  4. ห้องปฏิบัติงาน เป็นพื้นที่สำหรับให้สุนัขดมกลิ่นตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากตัวอย่างที่วางบนแท่นวางตัวอย่างจำนวนรอบละ 12 แท่น