บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ร่วมกู้วิกฤตโควิด เพิ่ม Hospitel – ICU รองรับ COVID-19 UCEP รวม 2,000 เตียง ให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม

บมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG ห่วงใยสถานการณ์ COVID-19 กระทบเตียงโรงพยาบาลขาดแคลน พร้อมร่วมมือและให้การสนับสนุนภาครัฐเพิ่มจำนวนเตียงทั้งกลุ่มสีเหลืองเหลืองเข้ม รองรับผู้ป่วยที่มีอาการปานกลาง หนัก รวมถึงเพิ่มเตียงสีแดงรองรับผู้ป่วยอาการรุนแรง ภายในโรงพยาบาลสนามกองทัพบก มณฑลทหารบกที่ 11 เขตหลักสี่ และร่วมมือ กทม. ขยายเตียงสีเขียวใน Hospitel อย่างต่อเนื่อง รวมเตียงสำหรับทุกกลุ่มกว่า 2,000 เตียง พร้อมรับผู้ป่วย COVID-19 UCEP 

ดร.สุวดี พันธุ์พานิช ผู้บริหารโครงการ Hospitel บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด ‘ดูแลคุณในทุกช่วงชีวิต’ (Lifetime Health Guardian for Allเปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพบคลัสเตอร์การระบาดใหม่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ในหลายพื้นที่เกิดปัญหาขาดแคลนเตียงและห้อง ICU ซึ่งอาจนำมาสู่การเกิดวิกฤตด้านสาธารณสุขในอนาคต บริษัทฯ จึงเห็นความสำคัญที่จะต้องเร่งเพิ่มเตียงภายในโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 

ล่าสุด บริษัทฯ ร่วมมือและให้การสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร (กทม.) กระทรวงสาธารณสุข กองทัพบก เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามกองทัพบก มณฑลทหารบกที่ 11 เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ รองรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 สำหรับอาการปานกลาง (สีเหลือง) 120 เตียง อาการรุนแรง (สีแดง) เป็นเตียง ICU ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 58 เตียง รวม 178 เตียง และมีแผนที่จะเพิ่มเตียงในโรงพยาบาลของภาครัฐเป็นลำดับต่อไป อีก แห่งซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมให้การสนับสนุน กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิด Hospitel อีก 4 แห่ง รวมที่ดำเนินการทั้งหมดกว่า 2,000 เตียง โดยช่วยดูแลผู้ป่วยที่ยังหาเตียงไม่ได้ หรือได้รับการปฏิเสธการรักษาจากโรงพยาบาลอื่นจากการส่งต่อของหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุข และ กทม. 

“บริษัทฯ คาดหวังว่าการร่วมมือดังกล่าวจะช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนเตียง ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้นและเร็วขึ้น  ซึ่งจะส่งผลให้การแพร่กระจายเชื้อลดน้อยลง รวมถึงการที่คนไข้ได้รับยาเร็วขึ้นจะลดโอกาสการเสียชีวิต ทั้งยังเป็นการช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงการบริการอย่างเท่าเทียม โดย THG ให้การสนับสนุนการลงทุนในส่วนของงบประมาณในการปรับปรุงพื้นที่ และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งได้ระดมจากเครือข่ายเพื่อมาช่วยกันดูแลผู้ป่วย ด้วยมาตรฐานการรักษาที่เรามีประสบการณ์มากว่า 40 ปี” ดร.สุวดี กล่าว