“อุตตม” เปิดทีม “สถาบันอนาคตไทยศึกษา ThailandFuture Foundation” สู้วิกฤตประเทศครั้งใหญ่

“อุตตม” ชวนระดมสมองร่วม “ThailandFuture” เปิดตัวสู้วิกฤตประเทศครั้งใหญ่ ชี้โจทย์เร่งด่วนจัดการโควิด-19 ให้มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง เพื่อสร้างอนาคตไทย สร้างโอกาสดีๆ และความมั่นคงในชีวิตให้กับคนรุ่นต่อไป พบ คนดังแวดวงธุรกิจ นักคิดนักเขียน ร่วมแจม

วันนี้ (8 ก.ค.) ดร.อุตตม สาวนายน ประธานที่ปรึกษา สถาบันอนาคตศึกษา ThailandFuture กล่าวในโอกาสที่ ThailandFuture เปิดตัวเป็นทางการ ว่า สถาบันไทยอนาคตศึกษา หรือ ThailandFuture เปิดตัวครั้งนี้ นับเป็นเวลาที่ประเทศไทยและคนไทย กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ประการแรก ในช่วงหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมา โควิดส่งผลกระทบเฉียบพลันรุนแรงและกระจายสู่ทุกภาคส่วน โจทย์เร่งด่วนก็คือ เราจะร่วมกันจัดการต่อสถานการณ์โควิดให้มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ได้อย่างไร ทั้งเฉพาะหน้าและต่อเนื่องในอนาคต เพื่อความปลอดภัยซึ่งยึดโยงกับเรื่องปากท้องความเป็นอยู่ของประชาชนเช่นกัน

ประการที่สอง ที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อน เราจำเป็นต้องมองไปข้างหน้า คำนึงถึงอนาคตของประเทศไทยในภาวะที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดในแทบ ทุกมิติของสังคมซึ่งโควิดเป็นตัวเร่งที่มีอิทธิพลสูง ประเทศไทยจะขับเคลื่อนการพัฒนา ในแนวทางใด ให้มีขีดความสามารถที่จะปรับตัวและจัดการกับความท้าทายใหม่ๆ ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างโอกาสดีๆ และความมั่นคงในชีวิตให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป

จากโจทย์ที่สำคัญเหล่านี้ ทีม ThailandFuture จึงเกิดขึ้นจากการรวมตัวของ กลุ่มคนจากหลายภาคส่วน หลากหลายประสบการณ์และอาชีพ จากทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ รวมทั้งหลายช่วงอายุ โดยอาสาทำงานแบบเวทีเปิด (Open Platform) ที่ส่งเสริมสนับสนุน การรวมพลังความคิดของคนไทย เพื่อร่วมกันคิด วิเคราะห์และตกผลึกในการแก้ไขปัญหา อุปสรรคที่สั่งสมมานาน รวมทั้งขับเคลื่อนการพัฒนาของประเทศอย่างคลอบคลุมและยั่งยืน

“ผมจึงขอเชิญชวนทุกท่านมาสัมผัส ThailandFuture มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด มุมมองกับทีมงาน เพื่อให้เรามีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตไทยด้วยกัน” ดร.อุตตม กล่าวทิ้งท้าย

ThailandFuture (สถาบันอนาคตไทยศึกษา) เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมที่มีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์แนวโน้มของอนาคตและทำหน้าที่เป็น “ตัวเร่ง-ตัวรวม” ทรัพยากรของประเทศเพื่อค้นทางออกนโยบายรูปแบบใหม่ โดยตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์มนโยบายตัวกลางที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนอนาคตของประเทศผ่านการเชื่อมต่อผู้รับนโยบายเข้ากับผู้คิดนโยบาย ผ่านการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วม และผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีหลักฐาน เพื่อที่จะนำไปสู่นโยบายและอนาคตที่ดีกว่า

ท่ามกลางความท้าทายเบื้องหน้า และอุปสรรคเก่าเบื้องหลัง สิ่งต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้นโยบายสาธารณะต้อง “ปลดล็อก” ขั้นตอนวิธีคิดและทำนโยบาย แล้วเชื่อมต่อมันเข้ากับประชาชน ท้องถิ่น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดทุกข้อต่อของห่วงโซ่นโยบาย (Policy Chain) เพื่อให้ได้นโยบายสาธารณะยุคใหม่ที่เข้าใจและคำนึงถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง (Total Involvement) ผสานพลังร่วมมือจากผู้ที่มีทรัพยากรและผู้ที่ต้องการทรัพยากร (Featuring) และมองไกลถึงอนาคต (Forward Looking) รวมถึงการมุ่งเน้นใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อนสนับสนุนการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลหลักฐาน (Data-Driven) เป็นอิสระทั้งทางความคิดและการลงมือทำ (Non-Partisan) และเน้นลงมือทำจริง (Action-Based) ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงตัวตนของ ThailandFuture

โดยพื้นที่นโยบายที่ ThailandFuture มุ่งเน้นเป็นพิเศษ ประกอบด้วย 5 เสาหลักสำคัญ ได้แก่

เทคโนโลยีกลุ่มแนวหน้า (Frontier Tech) มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีโลกใหม่ที่เป็นกำลังสำคัญในยกระดับผลิตภาพอุตสาหกรรมไทย ได้แก่ การใช้ประโยชน์จาก Big Data, Artificial Intelligence Machine Learning และ Blockchain การจำลองโลกเสมือน (Extended Reality) ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (Automation & Robotics) การพิมพ์/ขึ้นรูปชิ้นงานแบบ 3 มิติ (3D Printing)

เครื่องยนต์ใหม่ในการพัฒนาประเทศ (New Growth Engine) มุ่งเน้นการวางรากฐานการสร้างเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ ได้แก่ โครงข่ายเศรษฐกิจท้องถิ่น (Networked Local Economies) เศรษฐกิจสุขสมบูรณ์ (Wellness Economy) อุตสาหกรรมการผลิตใหม่ (New Manufacturing) เศรษฐกิจโลจิสติกส์ดิจิทัล (Digital Logistics Economy) เศรษฐกิจจากความคิดสร้างสรรค์ (Creative Economy)

ทรัพยากรมนุษย์/ทุนมนุษย์ (Human Capital) มุ่งเน้นการพัฒนาทุนมนุษย์ให้พร้อมกับความท้าทายแห่งอนาคต โดยมีประเด็นการพัฒนาหลัก ได้แก่ การบริหารจัดการ school input และผู้สอน สุขภาวะจากสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยบนท้องถนน (Environmental Health & Road Safety) อาชญากรรมและการลงโทษ (Crime & Incarceration) การเรียนรู้และต่อยอดทักษะ (Reskill & Upskill) การศึกษาเด็กกลุ่มปฐมวัย (Early Childhood Education)

การปฏิรูปภาครัฐ (Government Transformation) มุ่งเน้นการทบทวนกฎระเบียบและแนวปฏิบัติ การให้บริการข้อมูลในรูปแบบ Open Data เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแล (RegTech) วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ และการวัดผลกระทบ ยุทธศาสตร์สำหรับนโยบายต่างประเทศ และการกระจายอำนาจ

สิทธิและโอกาส (Rights & Opportunities) มุ่งเน้นการสร้างสังคมเปิดกว้าง พร้อมกระจายโอกาสอย่างถึง สู่ความเท่าเทียมอย่างยั่งยืน ผ่านประเด็นการพัฒนาสำคัญ ได้แก่ การเข้าถึงเงินทุน การเข้าถึงสินค้าสาธารณะ (Public Goods)
แนวทางการผลักดันเสาหลักการพัฒนาของ ThailandFuture คือการผนึกความร่วมมือควบคู่องค์ความรู้ เพื่อตกผลึกแนวทางการออกแบบนโยบายสาธารณะยุคใหม่ตามแนวทางของ ThailandFuture DNA ผ่าน 4 ภารกิจหลัก ได้แก่

ThailandFuture Policy Platform – พื้นที่ทางความคิดและการลงมือทำ อำนวยความสะดวกให้เกิดการเชื่อมต่อและสานฝันของผู้พิทักษ์อนาคตไทยจากทุกภาคส่วนให้เกิดเครือข่ายการทำงานร่วมกันได้ง่ายและเป็นระบบขึ้น รวมถึงให้ความเห็นและมอบกรอบความคิดและความเชี่ยวชาญในการออกแบบนโยบายในลักษณะที่ data-driven และ user-centric เพื่อ “ร่วมคิด-ร่วมสร้าง” อนาคตประเทศได้อย่างสะดวกขึ้น

ThailandFuture Policy Playbook – “แผนการเดินเกม” ที่ย่อยง่ายและทันต่อเหตุการณ์ในโลกยุค VUCA เพื่อหาทางออกทลายปัญหาที่กำลังปิดกั้นอนาคตร่วมงานกับองค์กรและกลุ่มบุคคลที่มีพันธกิจชัดเจน ตกผลึกแนวทางปฏิบัติจากการศึกษา ออกแบบ ลงมือทำ และวัดผลกับปัญหาจริง ผู้ใช้จริงและพื้นที่จริง

ThailandFuture Policy Talks – วงพูดคุยเกี่ยวกับนโยบายอนาคตประเทศที่รวบรวมผนึกกำลังเหล่า Change agents มาเล่าแนวทางหลักคิดทำนโยบายแบบเป็นวิทยาศาสตร์ รีวิวนโยบายในอดีต ตั้งคำถามในมุมมองที่สดใหม่ ให้เปิดโลก เข้าใจและเข้าถึงง่าย

ThailandFuture Policy Upgrades – Workshop ปรับโฉมการออกแบบและขับเคลื่อนนโยบาย โดยบุคลากรที่เป็นผู้นำในด้าน data-driven policy และ ด้าน foresight labs รวมถึงอาสาติดอาวุธการทำงานให้กับองค์กรภาครัฐด้วย data products ของเรา