“เสียวหมี่” เบียดแซงแอปเปิล ขึ้นแท่นสมาร์ทโฟนเบอร์ 2 ของโลกครั้งแรก!

Apple xiaomi
Photo : Shutterstock
จากรายงานส่วนแบ่งการตลาดของสมาร์ทโฟนทั่วโลกของคานาลิส (Canalys) บริษัทด้านการวิจัยตลาดระดับโลก ตีพิมพ์ประจำไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ พบว่าเสียวหมี่ ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกได้เป็นครั้งแรกด้วยส่วนแบ่งการตลาด 17% และอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 83% เทียบเมื่อกับปีที่ผ่านมา 

คานาลิส (Canalys) กล่าวในรายงานว่า เสียวหมี่กำลังปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจของตนจากการเป็น “ผู้ท้าทายผู้นำตลาด” สู่ “หนึ่งในผู้นำตลาด” อันเป็นผลสืบเนื่องจากการริเริ่มดำเนินการแบบใหม่ๆ เช่น การผสานช่องทางต่างๆ ของพันธมิตรทางธุรกิจ และการบริหารงานอย่างชาญฉลาดในตลาดเสรี คานาลิสยังแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า เป้าหมายใหม่ของเสียวหมี่คือการก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลก

เหลย จุน (Lei Jun) ผู้ก่อตั้ง ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเสียวหมี่ กล่าวในจดหมายถึงพนักงานทุกคนว่า

“การก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 2 ของโลกนั้นเป็นก้าวที่สำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของเสียวหมี่ ขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์จากเสียวหมี่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากความมุ่งมั่นยกระดับตนเองแม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากต่างๆ ตลอดระยะเวลาถึง 5 ปี ผลิตภัณฑ์จากเสียวหมี่ช่วยปูทางให้เสียวหมี่ก้าวเข้าสู่ตลาดระดับพรีเมียม ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้กับเสียวหมี่ นับจากนี้ เสียวหมี่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในด้านต่างๆ ที่เป็นหัวใจหลักเพื่อรักษาตำแหน่งส่วนแบ่งการตลาดอันดับที่ 2 ในตลาดมาร์ทโฟนโลกไว้ได้อย่างมั่นคง”

เมื่อไตรมาสที่ 4/2020 เสียวหมี่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก มียอดส่งมอบสมาร์ทโฟน 43.4 ล้านเครื่อง โดยมีอัตราการเติบโตที่ 31.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าวเป็นอัตราที่สูงกว่าแอปเปิลเป็นครั้งแรก

และเมื่อไตรมาสที่ 1/2021 แอปเปิลมีส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนเป็นอันดับที่ 2 ของโลกที่ 15% โดยเสียวหมี่มีส่วนแบ่งการตลาดใกล้เคียงกันมากที่ 14% และ มียอดส่งมอบสมาร์ทโฟน 49.4 ล้านเครื่อง และมีอัตราการเติบโตที่ 69.1 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

นับตั้งแต่เสียวหมี่วางจำหน่ายสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมรุ่นแรก คือสมาร์ทโฟนตระกูล Mi 10 เสียวหมี่ลงทุนด้านที่สำคัญหลายด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยีกล้อง หน้าจอ ระบบชาร์จ กระบวนการผลิตแบบอัจฉริยะ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังลงทุนอีกหลากหลายด้านเพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดระดับพรีเมียมด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีอันล้ำหน้าสู่มือของผู้บริโภค และเป็นผู้กำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน

เสียวหมี่ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเป็นจำนวนมาก รวมถึงด้านการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถสูงที่สุด เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา เสียวหมี่ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนากว่า 1 หมื่นล้านหยวน และคาดว่า เสียวหมี่จะเพิ่มงบประมาณด้านดังกล่าวในปีนี้อีก 30 – 40%

Photo : Shutterstock

เมื่อต้นปี 2021 เสียวหมี่ยังมีการสรรหาพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเสียวหมี่รับสมัครวิศวกรเข้าทำงานถึง 5,000 คนในรอบปี หรือเท่ากับ 20% ของจำนวนบุคลากรทั้งหมด นอกจากนี้เสียวหมี่ยังดำเนินโครงการเพื่อจูงใจบุคลากรที่มีความสามารถอีกหลากหลายโครงการ ทั้งโครงการค้นหาบุคลากรด้านเทคโนโลยีที่มีรางวัลถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ โครงการจูงใจวิศวกรรุ่นใหม่ หรืออื่นๆ และในเดือนกรกฎาคมนี้ เสียวหมี่แบ่งปันหุ้นของบริษัทกว่า 16 ล้านหุ้นให้กับวิศวกรรุ่นใหม่เกือบ 700 คนอันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการจูงใจวิศวกรรุ่นใหม่

การขยายตัวทั่วโลกของเสียวหมี่ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนช่องทางการจัดจำหน่ายถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้เสียวหมี่ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก จากข้อมูลตลาดสมาร์ทโฟนของโลกที่รวบรวมโดยคานาลิส เสียวหมี่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาดนอกประเทศจีน โดยมีอัตราการเติบโตแบบปีต่อปีที่ 300% ในตลาดละตินอเมริกา 150% ในตลาดแอฟริกา และ 50% ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก

ผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2021 ของเสียวหมี่ยังระบุว่า สมาร์ทโฟนของเสียวหมี่มีวางจำหน่ายในกว่า 100 ตลาดทั่วโลก เป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาดสมาร์ทโฟนใน 12 ประเทศ และเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคยุโรป ทั้งนี้ เสียวหมี่ยังรักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศอินเดียไว้ได้เป็นระยะเวลาหลายปี